xs
xsm
sm
md
lg

“นัท นิสามณี” ผัวเปลี่ยนมายด์เซ็ต เลิกบ้าของหรู ไม่ยึดติดแบรนด์ กระเป๋าแบรนด์เนมเป็นร้อยโละขายเกลี้ยง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียกว่าเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง สำหรับ อินฟูลฯ ชื่อดัง “นัท นิสามณี เลิศวรพงศ์” ที่ล่าสุดเปิดให้ชมบ้านในรายการ แม๊...เม้าท์ ยังไงไหนเล่าซิ พร้อมอัปเดตชีวิตในช่วงนี้ว่าตนเลิกเป็นคนหรูหราบ้าแบรนด์เนม เคยมีกระเป๋าแบรน์เนมเป็น 100 ใบ พร้อมเล่าจุดเปลี่ยนมายด์เซ็ต เลิกมองคนที่เครื่องประดับ

“ด้วยความที่เราทำคอนเทนต์ ชุดที่ใส่เราจะไม่ซ้ำ ก็มีเรื่อยๆ จนมันล้น หลังๆ คนเริ่มรู้ พอเราใส่ถ่ายเสร็จก็จะมีคนทักมาขอซื้อต่อ ปล่อยเลยไหมคะ รองเท้าคู่ไหนไม่ใช้ก็ขาย แต่สำหรับวิก จะส่งต่อให้กะเทยเด็กเอาไว้ไปใช้ทำคอนเทนต์กันต่อ

ในห้องนอนก็แทบจะเป็นห้องโล่งๆ เพราะโละหมดแล้ว ช่วงที่ผ่านมาโละกระเป๋าขายไปส่วนนึง เราเคยเป็นคนชอบกระเป๋าแบรนด์เนมมากๆ มีเป็นร้อยกว่าใบ วันนึงพอรู้สึกว่าไม่ได้ใช้ก็โละออกเหลือแค่บางใบที่มองว่าน่าจะได้ใช้ แต่ผ่านไป 1 ปี ก็ไม่ได้ใช้เลยอยู่ดี ก็กำลังจะเอาออกทั้งหมดเหลือแต่ใบที่เราใช้จริงๆ

คือจะไม่ใช้ของที่ยึดติดว่ามันเป็นแบรนด์แล้ว ไม่ได้แปลว่าเราแอนตี้แบรนด์นะ เราแค่รู้สึกว่ามันต้องไม่อยู่เหนือเรา เมื่อก่อนกระเป๋าแบรนด์เนมมันอยู่เหนือเรา วางปุ๊บก็กลัวจะเลอะ กลัวคนจะมาเหยียบเวลาเราวางไว้ พอวันนึงที่เราใช้กระเป๋าอะไรก็ได้ มันรู้สึกว่าชีวิตมันเบา ทุกวันนี้ก็ยังใช้กระเป๋าแบรนด์นะ ไม่ใช่ไม่ใช้ เพียงแต่ไม่คิดอะไรเยอะ

สังเกตได้หลังๆ มาเครื่องประดับแบรนด์เนม นัทก็ไม่ใส่ สร้อยคาร์เทียร์อะไรก็ไม่มีแล้ว เครื่องประดับหรูเพชร แบรนด์เนมที่มีในลิ้นชักไม่ได้ใส่เลย ทุกวันนี้ชีวิตประจำวันใส่ต่างหู 29 บาท ชุดวันนี้ 300 บาท พยายามค่อยๆ เลิกใช้ จุดพลิกของมายด์เซ็ตก็คือผัว ต้องขอบคุณเขาที่พูดเตือนสติเราว่าอย่าให้อะไรมาอยู่เหนือเรา บางทีเราก็คิดอะไรไปเองเยอะเกิน”

ตอนเปลี่ยนมายด์เซ็ตลดความหรูหราใหม่ๆ ไปออกอีเวนต์ด้วยความเขิน เพราะที่ผ่านมามองคนที่แบรนด์เนมมาตลอด
“ตอนแรกๆ ที่คิดจะทำ เวลาไปออกอีเวนต์จะเครียดมากทุกคนไปแบบจัดเต็ม พอเราจะเปลี่ยนคือเขินมาก เพราะที่ผ่านมาเราเป็นคนมองคนที่… เจอกันมองก่อนเลยว่าวันนี้เขาใส่อะไรมา ฉันใส่เริ่ดกว่านะ แต่พอเราเริ่มไม่ใส่ เราก็ได้ความคิดว่า อ๋อ…คนที่เขาไม่ใส่ไม่ใช่ว่าเขาไม่มี จากนั้นก็เลิกมองคนที่เครื่องประดับ เปลี่ยนมามองเขาวันนี้เขาเป็นยังไงบ้าง แต่เมื่อก่อนจะมองว่าเขาใส่อะไรมาเอ่ย คือมายด์เซ็ตเราเปลี่ยน และนัทชอบตัวเองในเวอร์ชั่นนี้

รวมถึงอาหาร ด้วยความที่บ้านเป็นคนจีน ปกติก็จะทำอาหารมาวางบนโต๊ะที 5-6 อย่าง แล้วกินไม่หมด ก็เลยบอกแม่ทำแค่ 1-2 อย่างก็พอ (โละความหรูหราแม้แต่ห้องน้ำ?) เดี๋ยวจะทำห้องน้ำใหม่ จะไม่เอาหินอ่อน ไม่เอาทอง จะเอาเป็นไม้ธรรมดาๆ คือความทอง ความหินอ่อน มันคือความเป็นนัทเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”

เลิกแอลกอฮอล์มา 3 เดือน โละออกหมดตู้
“ในห้องนอนนัทจะมีตู้เก็บแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ จริงๆ แล้วนัทเป็นคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย จนอายุ 30 มาดื่มเพราะแก๊งหิ้วหวีบอกว่าอร่อย สนุก เราก็เลยจอยๆ ก็สนุกมากจริงๆ แต่เพิ่งจะเริ่มหันมาดูแลตัวเองช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เลิกเลย แล้วรู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ ก็เลยรื้อขวดออกหมด แต่เราก็ไม่ได้อะไรนะ เพื่อนยังดื่มเราก็ปล่อยให้เพื่อนดื่ม ช่วงแรกๆ เพื่อนหิ้วหวีบอกอีบ้า อีเพ้อ อีแม่ชี หลังๆ เขาก็ไม่อะไรแล้วเพราะเขารู้ว่าเราตั้งใจจริง ก็เลิกแซว นี่กำลังจะครบ 3 เดือนแล้วที่เลิกแอลกอฮอล์”

แพลนอีก 2 ปี จะแต่งงาน พอแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนตัวเองใหม่อีกรอบจากสาวหรูหรา สายคอนเทนต์ เป็นสาวรักษ์โลก
“อีก 2 ปีจะแต่งงานแล้วค่ะ หลังแต่งงานจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่กว่านี้อีก ก็อยากจะบอกเอฟซีไว้สำหรับใครที่ติดตามนัท หลังจากที่นัทแต่งงานก็จะเจอเคาท์เจอร์ช็อกนิดนึงนะ ไม่ว่าจะเป็นความเวอร์วัง ความตัวแม่คอนเทนต์ อาจจะเปลี่ยนไป ตอนนี้ก็วางแผนชีวิตไว้ที่อยากจะมั่นคงมากขึ้น จะได้เห็นนัทในมุม eco ก็ยังมีเวลาให้นัทหมุนคอนเทนต์อยู่

กับพี่สกายเจอกันในแอปฯ หาคู่ ด้วยเงื่อนไขใครมาได้ใน 5 นาที ก็เป็นเขาที่มาได้ใน 5 นาที คำแรกที่เขาพูดทักเราคือ ทำไมเศร้าจัง คนในชีวิตที่ผ่านมาไม่ว่าจะใคร เราไม่เคยเจอทักแบบนี้ ทำไมตาเศร้าจัง เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีมุมมองไม่เหมือนคนอื่นที่เคยเจอ ตั้งแต่ที่จะลองคุยกันจริงจังเขาก็บอกว่าเขาจะทำให้ตาเราหายเศร้า

เขาจะส่งข้อความมาให้เราทุกเช้า อวยพรเราขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีมากๆ ขอให้วันนี้เจอแต่คนดีๆ ทุกวันตั้งแต่ได้เจอเขา เราเปลี่ยนไป เรามองอะไรเปลี่ยนไปหมดเลย เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน มีหน้าที่การงานยังไง แต่เรามองว่าทุกวันนี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน มันคือกำไรชีวิต คนจะคอมเมนต์และพูดกันบ่อย รอดูไปอีก 3 ปี 5 ปี เถอะ นัทก็อยากจะบอกว่าความสัมพันธ์มีมันเลิศมันไม่ได้แปลว่าจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป วันนี้เรารักกันเรากำไรแล้ว ถ้าเราเลิกกันก็ไม่ได้แปลว่าวันนี้มันไม่มีจริง ก็ขอบคุณเขามากๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างในชีวิต”



























กำลังโหลดความคิดเห็น