xs
xsm
sm
md
lg

“โดม เดอะเฟซ” เหนื่อยคดีโดนโกงเงิน ไหว้พระทุกคืนขอให้หลุดพ้น เตรียมบวช 16 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โดม เดอะเฟซ” เตรียมบวชขออยู่อย่างสงบๆ หลังโดนคนดีลงานโกงเงิน ยอมรับเหนื่อยกับเรื่องคดีความ ไหว้พระทุกคืนขอให้หลุดพ้น ส่วนคดีหลังจากที่แจ้งความไปคู่กรณียังไม่ติดต่อกลับมา แย้มแพลนบวชเสร็จเตรียมเรียนต่อที่ต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ “โดม เดอะเฟซ” หรือ “โดม เพชรธำรงชัย” ถูกหลอกทำงานฟรี เพราะคนกลางดีลงานแล้วเอาเงินไปใช้เองเป็นล้าน ทั้งปีได้เงินแค่ 3.5 หมื่น จนต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดโดมควง “คุณแม่แพท” มาร่วมงาน THE BANGKOK BOY SERIES ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า เหนื่อยกับเรื่องคดีความ ไหว้พระทุกคืนขอให้หลุดพ้น

แม่ : “ครั้งนี้บินกลับมาคือมาร่วมงานอุปสมบทลูกชาย จริงๆ น้องตัดสินใจบวชมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เพียงที่ผ่านมาเขายังไม่มีคิวว่างเลย แถลงข่าวจบ วันที่ 16 มีนาคมนี้ ก็เตรียมบวชเลยค่ะ เขาบอกว่าเขาสวดมนต์ทุกคืนเลยแม่ เขาอยากบวชเป็นพระจริงๆ”

โดม : “ที่ตัดสินใจบวชคือเป็นเรื่องของประสบการณ์ จริงๆ แล้วเราอยู่วงการมาประมาณ 7 ปี เราเจอสิ่งดีและเจอสิ่งที่ไม่ดี เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาที่แบบจะพักเบรก อยากจะอยู่ที่สงบๆ ครับ (ตั้งใจบวชกี่วัน?) อันนี้ไม่แน่ใจเลยครับ ยังไม่มีวันกำหนดสึก”

แม่ : “ตอนนี้มีแต่วันบวช แต่ยังไม่มีกำหนดสึก แต่ไม่ถึงขั้นบวชตลอดชีวิตนะคะ น้องเองก็มีแพลนว่าหลังจากสึกแล้วเนี่ย เขาก็จะเรียนที่เมลเบิร์นต่อเลย”

แย้มแพลนบวชเสร็จ เตรียมกลับไปเรียนที่ต่างประเทศต่อ
แม่ : “ใช่ค่ะ ก็คือจะกลับไปเรียน รูทีนในการบวชครั้งนี้คือที่จังหวัดกาญจนบุรี วัดถ้ำเขาปูน พอหลังจากนั้นเสร็จก็จะย้ายไปจำพรรษาที่เมลเบิร์น แล้วหลังจากที่จบพรรษาการบวชหรือว่าพร้อมจะสึก ได้ฤกษ์สึกเมื่อไหร่ก็เรียนต่อที่โน่นเลย บวชเพราะเรื่องที่ผ่านมา ก็น่าจะใช่ด้วยค่ะ คือเราสองคนคือเหนื่อยกันมากแล้ว น้องก็อยากจะพักจริงๆ แบบขออยู่นิ่งๆ ขออยู่เงียบๆ สงบๆ ไม่อยากเป็น somebody นะตอนนี้ ขอแบบอยู่เฉยๆ ดีกว่าอะไรอย่างนี้”

เผยอยากทวงความยุติธรรมคืนให้ลูกชาย
แม่ : “คือจริงๆ ในส่วนของเรามันก็มีมุมดีแล้วก็มุมไม่ดี คือจริงๆ ลูกมาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ที่ว่าเรื่องการเงินอะไรแบบนี้ที่มันเกิดขึ้นเราก็รู้สึกไม่สบายใจ แล้วก็มีความรู้สึกว่าพอได้ปรึกษากับทนายนิด้า (ศรันยา หวังสุขเจริญ) ได้แล้ว ก็ได้เจอหลายๆ เคสตามที่พี่นิด้าเคยพูดครั้งที่แล้วว่า พอรื้อกันมาเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่ 1 2 3 มันมีมากกว่า 10 พอมีมากกว่า 10 เรามีความรู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว เราต้องทำอะไรสักอย่างนึงที่ความยุติธรรมมันต้องคืนให้น้อง

เราไม่รู้นะคะว่าจำนวนเงินมันเท่าไหร่แต่ใดๆ ก็แล้วแต่น้องต้องได้รับความเป็นธรรม ความไว้เนื้อเชื่อใจมันมีหลายเรื่อง เราต้องยอมรับว่าข้อดีเขามีนะ เขาเป็นคนน่ารักมากเลยจริงๆ แต่ว่าในส่วนที่มันผิดพลาดอะไรบางอย่างที่มันดูไม่ปกติ คือมันก็ควรจะต้องแก้ไขในเมื่อตัวเขาเองยังอาจจะทราบหรือไม่ทราบ อันนี้ไม่เข้าใจไม่ทราบนะคะ ในเมื่อต้องเป็นอย่างนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อกฎหมาย”

ส่วนคดีหลังจากที่แจ้งความไปคู่กรณียังไม่ติดต่อกลับมา
แม่ : “เท่าที่เช็กกับทางพี่นิด้าก็ยังไม่มีค่ะ ในส่วนของการดำเนินการอันนี้จากวันนั้นที่สน.ก็คือทางทีมทนายความก็ยังกลับมารื้อคดีดังต่อไป เพราะว่ามันยังมีอีกหลายเคสที่เขาต้องรื้อ แต่ใดๆ ก็แล้วแต่อันนี้ขอฝากขอบพระคุณไปยังเจ้าของสินค้า ผู้ว่าจ้างหลายๆ คน หลังจากที่มีข่าวออกไปแล้ว คือกลายเป็นว่าทุกรายหลายๆ คนติดต่อมาหาพวกเราว่าผมเคยจ้างน้องไปทำงานนี้ผมให้เงินนะ ผมให้เงินนะผมโชว์ให้ดู 1 2 3 4 5 คือต้องขอบคุณมากๆ คือมันทำให้การทำงานมันง่ายดายมาก บางงานก็คือมีทั้งล่อซื้อจริงๆ และไม่ล่อซื้อจริงๆ”

ยอมรับเหนื่อยกับเรื่องคดีความ ไหว้พระทุกคืนขอให้หลุดพ้น
โดม : “เรื่องวงการเรายังไม่ชัวร์คือเอาเป็นว่าวงการบันเทิงมันเป็น second priority สำหรับโดมนะ คือ prity แรกคืออยากกลับออสเตรเลีย อยากกลับไปเรียนเพราะว่าชีวิตเราไม่ใช่ว่าเราจะเป็นดาราตลอดชีวิต เราต้องมีอาชีพที่แบบยั่งยืนตลอดชีวิตนะครับ กลับไปพักใจเหนื่อยกายเหนื่อยใจ เราเคยแบบไหว้พระทุกคืน ขอหลุดพ้นไปอยู่ที่แบบสงบๆ แบบไม่มีใครมารบกวนเรา แบบเรารู้สึกว่าไม่ต้องอะไรกับโซเชียลมาก สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่อยู่คนเดียวแบบสงบๆ เราว่ามันไม่ได้แค่แบบเหนื่อยกับการทำงาน แต่เหนื่อยจิตด้วยที่เราต้องเจอแรงกดดันเยอะๆ ครับ เยอะมาก”

เผยทุกวันที่ตื่นมาไม่รู้เลยว่าต้องไปทำงานยังไง
โดม : “เมื่อก่อนหน้านี้เรามองว่าวงการมันเป็นอย่างนี้ ทำงานในวงการบันเทิงมันทำแบบนี้เหรอ เราก็ไม่รู้เพราะว่าเรายังเด็ก แล้วเมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้สื่อสารกับเด็กคนอื่นในกอง เราก็ไม่รู้ว่าการทำงานของเขามันเป็นแบบนี้พอมารู้เรื่องเราก็ตั้งคำถามว่า ทำไมการทำงานของคนอื่นคือไม่เหมือนโดม แต่ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าอ๋อการทำงานมันเป็นแบบนี้ มันต้องสื่อสารกันมันต้องรู้เรื่องกัน ต้องรู้เรื่องค่าตัวอะไร เราก็รู้สึกอ๋อโอเคมันเป็นแบบนี้

แม่ : “จริงๆ น้องพยายามจะสื่อสารว่าที่ผ่านมาการทำงานมันไม่มีการสื่อสารกันมาโดยตลอด คือเราจะไม่รู้เลยว่าไปทำงานนี้จะได้เงินไหม จะได้ค่าแรงไหม จะได้ค่าเหนื่อยหรือเปล่า แต่พอน้องได้มีโอกาสได้สนทนาได้คุยกับนักแสดงท่านอื่นๆ พอหลังจากมันเป็นเรื่องราวแล้ว เขาก็บอกว่าได้สิอย่างพี่ไปเล่นเรื่องนี้พี่ได้แบบนี้ รับงานนี้ผู้จัดการก็เคลียร์กับพี่นะ ทำไมคนกลางของน้องไม่มีการพูดถึง ซึ่งมันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเราไม่เหมือนคนอื่น”

โดม : “วันนึงเราตื่นมาแล้วไม่รู้ว่าวันนี้เราจะทำอะไร เขาบอกว่าไปทำงานที่ไหนไม่รู้ ส่งโลเกชั่นมาต้องขับรถไปที่นี่ วันนึงเราวิ่งแบบ 4 งาน 5 งาน แบบเหนื่อยมาก ไม่รู้อะไรเลยเพราะไม่มีการสื่อสารคุย”

แม่ : “(เงินที่ได้สูงสุดในการทำงานตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมากับคนนี้เราได้เท่าไหร่?) ก็จะมี เท็น ไฟต์ เท็น ก็ได้เป็นล้านนะคะ ก็ไม่ได้จ่าย ถูกเขาให้เป็นล้าน เขาจ่ายเป็นก้อน เขาจ่ายเร็วด้วย”

ลั่นรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก
แม่ : “การที่ได้เริ่มอะไรตั้งแต่ตอนวัยเด็กเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรานะ เพราะฉันนั้นแล้วโดมเริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปัจจุบัน 21 กำลังจะ 22 แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วเราเชื่อว่าทั้งดีไม่ดีประสบการณ์จนถึงวันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว เราก็รู้สึกภูมิใจที่ลูกเราจากที่เขาอ่านภาษาไทยไม่ได้ พูดไม่ได้ ฟังไม่ได้ เขียนไม่ได้ จนวันนี้อ่านภาษาบาลีเพื่อจะไปเตรียมบวชได้แล้ว แล้วประเด็นคือไม่ใช้คาราโอเกะเพราะเสียงจะเพี้ยน คืออ่านจากหนังสือเลย

รู้สึกภูมิใจมาก อย่างที่บอกว่าการเริ่มต้นมันจะดีไม่ดีหรือมันจะจบแบบไหนก็แล้วแต่ ถือว่าการใช้ชีวิตของลูกชายของเราในวันนี้ก็คือครบรสแล้วเขาได้เรียนได้สั่งสมประสบการณ์และคิดว่ากับสิ่งที่เขากำลังจะเดินทางไปในอนาคต ไม่ว่าจะอยู่ในวงการนี้หรือจะอยู่ในวงการไหนก็เชื่อว่าเขาน่าจะเก็บประสบการณ์ตรงนี้ไปต่อยอดในการทำงานอะไรก็แล้วแต่ในอนาคตอย่างแน่นอน”







กำลังโหลดความคิดเห็น