“เอ พศิน” เคลียร์สถานะ “เจนี่” ตอนนี้เป็นคนไม่รู้จักกันดีที่สุด ชื่นชมคำตอบ ฉลาด มีวุฒิภาวะ แต่ถ้าตนไม่พูดความจริงแล้วใครจะพูด แม้พูดไปแล้วอีกฝ่ายอาจจะไม่อยากเจอตลอดชีวิต ยันไม่คุยกับใครเพราะมารยาท บอกไม่อยากมีความรักอีกแล้ว ผู้หญิงคนไหนเข้ามาต้องผ่านด่านลูกชายก่อนเสมอ
หลังจากที่เคยมีข่าวว่านางเอกสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับนักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ “เอ พศิน เรืองวุฒิ” สนิทสนมกันอยู่ช่วงหนึ่งจนทำเอาหลายคนคิดไปไกล ขณะที่ฝ่ายชายก็ออกมายอมรับว่ามีความรู้สึกพิเศษกับเจนี่จริงๆ เรียกว่าคิดเกินเพื่อน งานนี้ทำเอาเจนี่ ออกมาโต้กลับบอกพูดอะไรต้องให้เกียรติด้วย ลั่นที่ผ่านมาคุยตามมารยาท
ล่าสุด เอ พศิน ได้มาร่วมแถลงข่าวซีรีส์ THE BANGKOK BOY SERIES ณ SCBX NEXT TECH สยามพารากอน เจ้าตัวก็ได้ยืนยันความสัมพันธ์กับเจนี่ว่า ตอนนี้ไม่รู้จักกัน ขอไม่พูดถึงและไม่ระลึกถึงดีที่สุด
“ความรักตอนนี้เหลืออยู่คนเดียวแล้วครับ (เปิดภาพลูกชายบนหน้าจอในโทรศัพท์) ตอนนี้ก็สัญญากับน้องเลโก้ไว้ว่า จะอยู่จนกว่าเขาจะมีแฟน เขาเป็นคนบอกเองว่าปะป๊าพอแล้วอยู่กับหนูดีกว่า เขาก็เป็นคนสกรีนให้เราด้วยทุกครั้งที่เจอแล้วมันก็ไม่โอเคอะไรแบบนี้ ลูกมีความคิดแบบนี้เพราะเห็นพ่อเหงาๆ แล้วก็เห็นแม่ก็มีปัญหาเรื่องแฟนมาตลอด เขาก็บอกแม่ไม่ต้องมีแล้วอยู่อย่างนี้แหละ”
บอกผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิตต้องผ่านด่านลูกชายก่อนเสมอ
“ทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเราต้องเจอลูก ลูกจะรู้หมด เพราะฉะนั้นถ้าสัมภาษณ์ลูกจะได้ความจริงทั้งหมด เขาก็จะมองครับ ถ้าคนนี้ไม่โอเค บางทีเขาก็ไปบอกผู้หญิงเลยว่าอย่ามาชอบพ่อหนูนะ แต่ถ้าโอเคเขาก็จะมองด้วยสายตาของเด็กที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ตกใจที่เขาไปบอกคนที่เราคุยเพราะมันคือความจริง เราสอนให้เขาอยู่กับความจริง ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตายแม้เราจะตายก็ตาม”
เผยลูกชายบอกฝันเห็นแฟนสาวในอนาคตอีก 15 ปี ข้างหน้า
“ลูกชายเราบอกว่าฝันเห็นเพื่อนคนนึงว่าเป็นแฟนเขาในอีก 15 ปีข้างหน้า ฝันว่าตัวเองโตอะไรอย่างนี้ เราก็แอบห่วงเหมือนกัน เด็กยุคนี้มันโตมากับเทคโนโลยีไม่เหมือนยุคเรา เขารู้ทุกอย่างสิ่งที่เราปิดเขาก็ยิ่งรู้ เพราะฉะนั้นยูทิวบ์ถึงให้ใช้ได้แบบปกติ ไม่ได้ปิดเขารู้ทุกอย่างแบบที่ผู้ใหญ่รู้ ความฝันที่เขาเล่าให้ฟัง ก็ทำนองเป็นแฟนกัน พากันไปดูหนัง เราฟังแล้วก็ยิ้ม เราก็พยายามฟังว่าเขาโรแมนติกขนาดไหน มันเกินขีดไปหรือเปล่าเขาก็เหมือนเรา เราในวัยนี้ก็มีเรื่องความรัก”
ลั่นไม่อยากมีความรักอีกแล้ว
“ไม่อยากมีแล้ว คือเราอยากจะบอกว่าเวลาที่พี่ๆ สื่อมวลชนถามดาราหรือใครก็ตามคำถามนี้ วันนี้ตอบแบบนี้ พรุ่งนี้ตอบอีกอย่างนึง เพราะว่ามันจะมีเหตุการณ์ มันจะมีเหตุผล แม้แต่วินาทีที่มันผ่านไปเราก็มีสิทธิ์ที่จะคิด ฉุกคิดขึ้นมาได้เปลี่ยนความคิดได้ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่คนในวงการพูดแล้วมันเปลี่ยนไปมันคือเวลา
ที่ไม่อยากมีแล้ว มันไม่ใช่ปลง แต่เราใช้เวลากับการซักผ้า ทำกับข้าว รีดผ้า ถูบ้าน ดูแลลูก ยิ่งเปิดเทอมยิ่งต้องทำ ไม่มีใครทำได้ดีกว่าเรา เราไม่สามารถเอาเวลาที่เราซักผ้าทำกับข้าวไปคบใครได้”
เผยไม่เกี่ยวกับข่าวก่อนหน้านี้ที่เจนี่ออกมาโต้ความสัมพันธ์
“อันนั้นไม่ใช่ปัจจัยเรื่องความรัก เราจะบอกว่าความปรารถนา กับปรารถนาดีไม่เหมือนกัน บางคนก็คิดว่าเราปรารถนาในใครบางคนซึ่งมันไม่ใช่ เราแค่ปรารถนาดีแล้วก็การที่ออกมาพูดถึงดีเทลก็เพราะว่าเราจะไม่เกี่ยวด้วยไง แล้วเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ซึ่งบางคนเขาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ เขาแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นเราขอสรุปเลยแล้วกันว่า ถ้าเราจะคบใครเราจะไม่คบเพราะมารยาท หรือคุยเพราะมารยาท เราคุยเพราะว่ามันคือความจริงใจที่เราจะช่วยหรือเราจะทำอะไรให้ เพราะฉะนั้นนั่นคือการให้เกียรติกันมากๆ อย่างหนึ่ง ซึ่งเราก็พยายามจะมองข้ามมันแต่ว่า เราก็กลับมามองว่าเราก็มีลูก เราก็ต้องให้เกียรติลูกเรา ลูกเราเห็นทุกอย่าง สิ่งที่มันผ่านไปมันไม่ใช่ยังไม่เกิดขึ้นแต่มันจบไปแล้ว”
เผยเห็นสัมภาษณ์ก็รู้สึกชื่นชมและซาบซึ้ง
“ชื่นชม ซาบซึ้ง จริงๆ แล้วทุกคนอยากให้ข่าวมีการทะเลาะกันแล้วก็แฉกัน จะให้เอาคลิปมาเปิดให้ดูเหมือนอีกหลายๆ ข่าว อยากให้มีคลิปเสียง อยากให้เปิดแชต ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเมื่อผ่านไปแล้วมันก็คือผ่านไป บางคนเคยเป็นแฟนเรา 10 กว่าปีก่อนเราก็ไม่อยากจะเอาสิ่งที่คุยกันมาให้ใครดู แต่เราก็ไม่เคยลบแชตเลยนะ ก็เก็บไว้
เราเห็นที่เขาสัมภาษณ์ เขาฉลาดเขามีวุฒิภาวะ เขามีสติมีสมาธิมีปัญญาคนที่รักตัวเองคือคนที่ฉลาด เป็นคนที่เพลย์เซฟคือคนที่จะไม่ผิดพลาดในชีวิต เพราะฉะนั้นนี่คือความจริงใจกับตัวเองของเขา มันไม่ผิดแต่มันคือคำตอบที่ถูกที่สุดสำหรับเขา”
ความสัมพันธ์ตอนนี้ขอเป็นคนไม่รู้จักกันดีกว่า
“เราพูดมันก็ชีวิตเราไง คือถ้าเราไม่พูดแล้วใครจะพูด แต่ถ้าเราพูดแล้วเราจะถูกเกลียดจากทุกคนที่อยู่รอบข้างใครก็ตาม แต่เราพูดด้วยเจตนาที่ดีเพราะเรารู้อย่างนั้น เราเชื่ออย่างนั้นเราก็เลยพูดต่อให้พูดไปแล้วเขาอาจจะไม่อยากเจอเราตลอดชีวิต เราก็ต้องพูดเพราะต้องมีสักคนนึงที่พูดความจริงกับชีวิตใครสักคน
ความสัมพันธ์ตอนนี้คือไม่รู้จักกันแล้วดีกว่า หรือว่าเป็นวาระที่จะไม่ต้องพูดถึง แล้วก็ไม่ระลึกถึงดีที่สุดครับ ถึงขั้นนั้นครับ ก็ขอให้ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราโชคดีและมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง”
