“โยโกะ อาภัสรา” ปล่อยโฮชีวิตถูกคุกคาม ขู่ฆ่า ขู่ทำร้ายร่างกายสารพัด ยอมรับเคยชอบคู่จิ้น “ฝ้าย พีรญา” จริงๆ แต่ก็ทำใจยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ จบกันด้วยดีต่างแยกย้ายกันไปเติบโต ขอร้องแฟนๆ อย่าโจมตีใครเด็ดขาด การบอยคอตค่ายเท่ากับการบอยคอตตน หากรู้ว่าใครได้รับผลกระทบจากคำพูดของตนอีก ตนคงแตกสลาย
หายหน้าไม่รับงานอีเวนต์ถึง 2 เดือนเต็ม เพราะถูกขู่ฆ่า ขู่ทำร้ายร่างกาย จากสตอล์กเกอร์ และถูกคุกคามอย่างรุนแรงจากผู้ไม่หวังดี สำหรับ “โยโกะ อาภัสรา เลิศประเสริฐ” วัย 22 ปี ที่แยกตัวกับคู่จิ้น “ฝ้าย พีรญา มะลิซ้อน” หรือชื่อเดิม “ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน” มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 วัย 30 ปี จนสุดท้ายโยโกะ ทนไม่ไหว ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาตั้งแต่ต้นยันจบ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
-ช่วงเวลาที่ตนหายไป 2 เดือน เป็นเพราะยังไม่พร้อมจะออกมาพูด สำหรับตนเรื่องนี้หนักมากๆ และหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องออกมาพูดวันนี้
-เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง จึงไม่เคยระบายอะไรให้ใครได้รู้ เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงของทุกคน มีบ้างปัดผ่านแล้วเห็นบางคอมเมนต์ว่าโยดูสบายดี ดูไม่เป็นอะไร ดูร่าเริงปกติดี เพียงเพราะตนไม่ได้ออกมาร้องไห้ต่อหน้าทุกคน
-คิดว่าตนจะสบายดีไหมกับการโดนขู่ฆ่า ขู่ทำร้าย ถึงตนจะไม่ได้เปิดอ่าน แต่ก็มีเพื่อนที่แทบจะไม่ได้คุยทักมาถามว่าโอเคไหม มีคนส่งคำขู่ฆ่าตนไปที่เพื่อน สิ่งเหล่านี้มันมากเกินกว่าที่ตนจะรับไหว
-วันนี้ขออนุญาตพูดถึงคนที่ตนเคารพและรักมากๆ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะพูดถึงหรือพาดพิงพี่ฝ้าย ครั้งล่าสุดที่เจอพี่ฝ้ายแทบไม่ได้คุยอะไรกัน แต่พี่ฝ้ายได้พูดกับตนมาว่าเราจบกันด้วยดี ด้วยการแยกย้ายกันไปเติบโต ไม่อยากให้พาดพิงอะไรกันอีก ซึ่งตนก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
รับชอบฝ้ายจริง วอนอย่าเอาคำพูดของตนไปเติมแต่ง คิดกันไปเองแล้วเอาไปโจมตีปุยฝ้ายหรือใครอีกเลย
-ยอมรับว่าเคยชอบพี่ฝ้ายจริงๆ เรื่องนี้มันเคยเกิดขึ้นจริง แต่พอวันที่มันจบลงแล้วตนก็ถอยออกมา ตอนที่ชอบพี่ฝ้าย ตนพยายามจะเลี่ยงคำว่าพี่น้องเพราะในตอนนั้นตนไม่อยากเป็น
-ตอนที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ตนได้ถอยออกมา ทุกคนก็รู้เพราะตนบอกว่าเป็นพี่น้องกัน ตอนที่คิดกับพี่ฝ้ายตนไม่เคยพูดว่าเป็นพี่น้อง แต่พอเป็นไปไม่ได้ ตนได้เปลี่ยนความรู้สึกรักมาเป็นพี่น้องร่วมวงการ พี่ฝ้ายยังเป็นคนที่ตนรักมากๆ และเคารพมากๆ
-พี่ฝ้ายเคยพูดไว้ว่าพี่ฝ้ายไม่เคยทิ้งใครก่อน ใช่ พี่ฝ้ายไม่เคยทิ้งใครก่อนเลย และโยก็ไม่เคยทิ้งใครก่อนเหมือนกัน โยไม่สามารถบังคับให้ใครอยู่ต่อกับโยได้ และไม่มีใครบังคับให้โยไปได้เหมือนกัน ทุกคนเคารพการตัดสินใจของกันและกัน โยเคารพการตัดสินใจของทุกคน เข้าใจความรู้สึกของทุกคน ทุกคนคงเจ็บปวดที่สนับสนุนพวกเรามามาก โยขอบคุณและโยรับรู้ได้จริงๆ มันถึงเป็นเรื่องที่ยากมากในวันนี้
-ไม่มีใครแยกคู่กันได้ถ้าเขาอยากจะอยู่กัน วันนี้ในเมื่อพี่ฝ้ายยุติสัญญากับทางค่าย ทุกคนจะให้ตนทำอย่างไรต่อ มีคนบอกให้ตนออกไปอยู่กับพี่ฝ้าย “โยถามหน่อยให้โยออกไปอยู่ในฐานะอะไร” มีคนบอกว่าให้ตนออกไปอยู่ข้างนอกเพราะมีความสามารถ ขอถามว่า “ให้โยไปไหนคะ จริงอยู่ที่มาถึงทุกวันนี้ได้มีองค์ประกอบหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือความสามารถที่โยพยายามจะพัฒนาให้ทุกคนได้เห็น แต่ความสามารถนั้นถ้าไม่มีผู้ใหญ่ให้โอกาสเราจะมีโอกาสได้รู้จักกันเหมือนทุกวันนี้?” ทุกคนมีเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่จะมีสักกี่คนที่จะมีโอกาสได้แก้ตัวให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้น
-วันนี้พี่ฝ้ายไปได้ดีแล้ว ตนภูมิใจในตัวเขามาก ตลอดเวลาที่ร่วมงานกันไม่มีสักครั้งที่เราคิดร้ายต่อกันเลย วันนี้แค่ต่างแยกทางไปเติบโตในทางตัวเอง เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว ขอร้องอย่าโจมตีใครเด็ดขาด เราแยกจากกันโดยสมบูรณ์ เติบโตคนละทางในทางที่ดี
-ร้านของพี่ฝ้ายเป็นของพี่ฝ้ายคนเดียว โยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง “ความสำเร็จนี้เป็นของเขาคนเดียวโดยที่โยไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย เขาคือคนที่ทำให้มันประสบความสำเร็จ ไม่ต้องมาให้เครดิตอะไรโย ถ้าโยรู้ว่าใครได้รับผลกระทบจากคำพูดโย โยคงแตกสลายค่ะ มันไม่มีใครผิด ทุกคนแค่เติบโต”
-ไม่เคยคุยเรื่องการแยกคู่กับฝ้ายเหมือนที่หลายคนเข้าใจ ตนรู้พร้อมทุกคน
-เรื่องความปลอดภัยมีคนบางกลุ่มพูดว่าสะใจมาก ดีใจมากที่อีเวนต์ค่ายล่ม (ร้องไห้โฮ) ทุกคนลืมอ่านต่อหรือเปล่าที่ตนลงเพราะตนโดนขู่ทำร้าย ถูกขู่ฆ่า ไม่ได้ขอในฐานะศิลปินแต่จะขอในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งได้ไหม มันไม่สนุกหรอกที่ต้องนอนฝันร้ายทุกคืน กินข้าวแล้วก็ต้องอ้วกออกมา นอนแล้วก็ตื่นหลายรอบ ลงจากที่พักก็เจอคนตาม ครอบครัวโดนขู่ คนรอบข้างที่สนิทและไม่สนิทโดนกันหมด เพราะตน ตนจะทำอะไรได้บ้าง
-ตนไม่เคยทำผิดกฎค่ายเลยสักข้อ เป็นเด็กดีมาตลอด ถ้าตนถูกบังคับให้อยู่ตนจะยังเป็นเด็กดีแบบนี้ไหม ขอสัญญาถ้าวันไหนที่ตนไม่โอเค ถูกทำร้ายจนเกินไปตนจะออกมากรี๊ดตรงนี้เลย ตนไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้น
-ตนเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องทำมาหากิน ต้องไปต่อ ในเมื่อแพลนนี้มันพลาด ยังไงเราก็ต้องไปต่อให้ได้ แล้วจะให้ทำยังไงคะ “โยมีบริษัทของโยเอง โยมีพนักงานที่ต้องดูแล มีครอบครัว มีพ่อ มีแม่ มีพี่สาว ถ้าโยคนนี้เป็นอะไรขึ้นมา คนอื่นจะไปต่อยังไง”
-แล้วขอเลยนะ ไม่มีใครสามารถเอาโทรศัพท์โยไปได้ มันคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กอนุบาลก็คงจะรู้ พื้นฐานการศึกษาของตนและครอบครัวสามารถพิจารณาได้ว่าอะไรที่ตนควรจะยอม อะไรที่ควรจะไม่ยอม ตนอยู่มาหลายค่ายมาก ตนอ่านสัญญามาไม่รู้ต่อกี่สัญญา ถ้ามันไม่แฟร์จริงจะเซ็นทำไม
-ทุกคนทำงานเพื่ออยู่ เพื่อใช้ชีวิต เรามีแพสชั่นได้แต่ชีวิตเราก็ดำเนินด้วยเงินเหมือนกัน จะให้ตนออกมาพูดว่าอยู่เพื่อความรัก ความฝันทุกอย่าง ตามใจตน เรื่องจริงชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ตนมีภาระที่ต้องแบก ส่งตัวเองเรียน ดูแลชีวิตค่าใช้จ่ายของตัวเอง ทุกคนมีภาระค่ะ
-อาจจะดูว่าลุคโยเป็นผู้หญิงอ่อนโยน ดูน่ารัก ตรงนี้ตนขอเรียกว่ากาลเทศะ จริงๆ แล้วตนสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนอื่นคิด เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็จะน่ารักอ่อนน้อม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องสู้เพื่อตัวเองตนก็ทำเหมือนกัน
-ตอนนี้ตนได้เลือกอนาคตของตัวเองแล้ว หวังว่าแฟนๆ จะเคารพการตัดสินใจของตน การบอยคอตค่ายเท่ากับการบอยคอตตน “หนูทำงานหนูได้เงินค่ะ” ในฐานะศิลปินเดี่ยว ตนจะพัฒนาปรับในเรื่องที่ยังไม่ดี ทั้งในเรื่องความสามารถและอารมณ์ ขอให้ทุกคนโฟกัสที่ผลงานของตน
-ถ้าวันนี้ไม่มีทุกคนอยู่เคียงข้าง ตนก็ไม่รู้ว่าตนจะกล้าออกมาพูดตรงนี้ไหม แค่เดินออกจากบ้านยังกลัวเลย โยเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องสู้เพื่อชีวิตเหมือนกัน
