เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ต้นสังกัดของคิมซูฮยอน "Gold Medalist" ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ถูกเผยแพร่ผ่านช่อง YouTube ชื่อดัง " โดยยืนยันว่า "เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ทั้งหมดเกี่ยวกับคิมซูฮยอนในวันนี้เป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น"
ในแถลงการณ์ระบุว่า "ทางช่อง YouTube ดังกล่าวได้กล่าวหาว่าคิมซูฮยอนและบริษัทสมรู้ร่วมคิดกับยูทูบเบอร์ 'อีจินโฮ' เพื่อกลั่นแกล้งคิมแซรนก่อนเสียชีวิต รวมถึงกล่าวหาว่าคิมซูฮยอนคบหากับคิมแซรนตั้งแต่อายุ 15 ปี นอกจากนี้ยังพาดพิงถึงการที่บริษัทของเราจัดการกรณีเมาแล้วขับของคิมแซรนอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงพาดพิงความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการของบริษัทกับยูทูบเบอร์อีจินโฮ ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จและบิดเบือนโดยสิ้นเชิง"
ต้นสังกัดยังระบุอีกว่า "บริษัทของเราจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อสถาบันการศึกษาโคโรเซโรในข้อหาปล่อยข่าวเท็จและทำลายชื่อเสียง"
พร้อมกันนี้ "Gold Medalist" ยังแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคิมแซรน โดยระบุว่า "เรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของคิมแซรน ซึ่งเธอเคยเป็นศิลปินในสังกัดของเรา และขอร่วมไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง"
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้แสดงจุดยืนชัดเจนต่อข่าวลือที่เกิดขึ้นว่า "การกระทำของสถาบันการศึกษาโคโรเซโร เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่บั่นทอนจิตใจของผู้ล่วงลับขณะมีชีวิตอยู่ และสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของคิมซูฮยอน รวมถึงบริษัทของเรา เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน"
ท้ายแถลงการณ์ "Gold Medalist" ได้เรียกร้องต่อสาธารณชนว่า "ขอความกรุณาอย่าเผยแพร่ หรือขยายความ หรือทำซ้ำข้อมูลที่เป็นเท็จ และโปรดหยุดการเผยแพร่ข่าวลือที่ไร้ข้อเท็จจริง"
โดยสื่อออนไลน์อ้างคำพูดของป้าของคิมแซรนที่กล่าวว่า คิมซูฮยอนและคิมแซรน คบหากันมานานถึง 6 ปี โดยเริ่มตั้งแต่คิมแซรนอายุ 15 ปี และคิมซูฮยอนอายุ 27 ปี ซึ่งหากเป็นจริงถือเป็นประเด็นใหญ่ทางศีลธรรมและกฎหมาย
ตอนที่คิมซูฮยอนก่อตั้ง Gold Medalist คิมแซรนได้รับข้อเสนอจากหลายค่าย แต่เลือกเข้าร่วมกับเขาเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว ทั้งยัง ช่วยเทรนนักแสดงใหม่โดยไม่รับค่าตอบแทน ราวกับเป็นเจ้าของบริษัทเอง
หลังจากเหตุการณ์เมาแล้วขับของคิมแซรน ซึ่งทำให้เธอต้องเสียค่าปรับและค่าเสียหายจำนวนมาก คิมซูฮยอนได้ ให้ยืมเงิน 700 ล้านวอน โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลาคืนเงิน เธอเคยบอกกับป้าว่าอยากทำงานและคืนเงินให้ครบ
แต่ต่อมา ได้รับหนังสือทวงหนี้อย่างเป็นทางการ แม้เธอจะหมดตัวเพราะใช้เงินไปกับค่าปรับและค่าชดเชยทั้งหมดแล้ว โดยสงสัยว่าอาจเป็น "อีโรแบ" ญาติของคิมซูฮยอนและผู้บริหารร่วมของ Gold Medalist ที่อยู่เบื้องหลังหนังสือนี้ และเมื่อพยายามโทรหาคิมซูฮยอนเพื่อขอคำตอบ ก็ถูกเมินเฉย แม้จะโทรจากเบอร์ของญาติ
ภาพถ่ายร่วมกันระหว่างคิมซูฮยอนและคิมแซรนที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถูกอ้างว่าเป็น ความพยายามของคิมแซรนที่จะทำให้เขายอมรับการมีปฏิสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง หลังจากบริษัทมีหนังสือทวงหนี้ในช่วงต้นเดือน มีนาคม ทั้งที่เธอ ออกจากค่ายไปตั้งแต่ปี 2022
คิมแซรนเผชิญกับ ความเครียดอย่างหนักจากคำพูดของอดีตนักข่าวที่กลายเป็นยูทูบเบอร์อย่าง "อีจินโฮ" ซึ่งพูดถึงเธอในทางเสียหาย และมักมีข่าวตามออกมาอีกระลอก ส่งผลให้เธอมีภาวะเครียดอย่างรุนแรง ครอบครัวต้องเฝ้าดูแลใกล้ชิด และญาติต้องอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา
