“ใหม่ สุคนธวา” เปิดใจสาเหตุไล่ออกพนักงาน ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ไม่ใช่หุ้นส่วน แฉอีกฝ่ายไปบอกคนอื่นว่าแตกหักกับตน ตกใจก่อนพ้นสภาพ ยอดขายตก 5 เดือน
มีเรื่องให้กลุ้มจนต้องโพสต์เคลียร์ สำหรับ “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร” ที่มางานรับรางวัล All Smart International กรณีขับพนักงานออกจากบริษัท พร้อมประกาศว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัท ไม่ใช่หุ้นส่วน
“จริงๆ ที่โพสต์เกี่ยวกับการพ้นสภาพของพนักงาน การที่เราโพสต์ มันเป็นการปกป้องตัวเอง ว่าพนักงานคนนี้ ไม่เป็นพนักงานของเราแล้ว ไม่ได้เป็นทางประจำหรือฟรีแลนซ์ และถ้าบุคคลนี้มีการกระทำที่ไม่ดี หรือการกระทำเกี่ยวกับการหลอกลวง เราก็จะไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และอีกฉบับหนึ่งที่เราโพสต์ คือใหม่ได้ข่าวมาว่า คนที่ออกไปจากใหม่ เขาไปบอกคนอื่นว่าเขาแตกหักกับใหม่ เพราะเขาเป็นหุ้นส่วน เพราะเขาเป็นผู้ร่วมค้ากับใหม่ อยากจะบอกว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใหม่เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยมีหุ้นส่วนตั้งแต่เราจดทะเบียนแต่วันแรก แต่พอได้ยินแบบนี้ มันคือการแอบอ้าง เอาชื่อเราไปหากิน
ซึ่งการที่แตกหักนั้น ถ้าพูดว่าในส่วนดีนั้น มันก็มี แต่ในปมแตกหักนั้น มันเกิดจากความไม่สบายใจของใหม่ ที่ทำสินค้าในเวย์เดียวกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ เรารู้ว่าเขาทำ ซึ่งเรายอมรับเงื่อนไขเขาในตอนแรกๆ แต่พอช่วงหลังๆ มีการตัดหน้า แต่ก็ไม่ขอลงดีเทล ซึ่งทำให้เราไม่สบายใจ เราจึงขอแยกกันดีกว่า
อย่างที่บอกว่าตอนแรกที่เขาทำ เราเข้าใจ เรายอมรับ แต่พอผ่านไปสักพัก มันมีอะไรให้เอ๊ะ…ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถบอกได้ตรงนี้ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าปรักปรำ ซึ่งมันเกิดจากการที่มีหลายคนมาบอก และมันมีหลักฐานแบบอ้อมๆ ซึ่งมันบ่งบอกว่าคือเรื่องจริง วันที่เราปล่อยจดหมายพ้นสภาพออกมานั้น เราไม่ได้คุยกัน แต่เราส่ง LINE ไป เราพิมพ์ไปว่าเรารู้นะว่าคุณตัดหน้าอะไรเราไป พิมพ์เป็นข้อๆ ไป ถ้าคนที่ไม่ได้ทำ เขาก็ต้องแก้ตัวกลับมา แต่อันนี้พิมพ์กลับมาสั้นๆ ว่าครับ”
หากทำอะไรมากกว่านี้จะรวบรวมหลักฐาน ลั่น 5 เดือนยอดขายตก
“ถามว่าเราจะฟ้องไหม คือถ้ามันมากกว่านี้ ถ้ามีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ ใหม่ก็ต้องทำอะไรมากกว่านี้ การที่เราโพสต์หนังสือ 2 ฉบับ ไม่ใช่หลับหูหลับตา แต่เราปรึกษากับทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) แล้ว ว่าสามารถทำได้ไหม แต่เราไม่ได้ปรักปรำว่าเขาทำเราหรือเอ่ยชื่อเขา
และก่อนที่เขาจะพ้นสภาพ มันก็มีผลกระทบต่อเรา ตอนนั้นจะตกเลยค่ะ ตกแบบตกใจ คือยอดตกมา 4-5 เดือนแล้ว ก็อย่างที่บอกว่าถ้าจะเอาผิดนั้น หลักฐานมันยังไม่แน่นพอ เพราะส่วนมากมีแต่คนมาบอก เขารักใหม่เขาจึงมาเล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นคนใกล้ใกล้ตัวเขาหมดเลยค่ะ”
