ออกมาเล่าเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองช็อกอยู่ไม่น้อย สำหรับตลกชื่อดัง “บอล เชิญยิ้ม” ที่ยอมเปิดเผยเรื่องลูกสาว “น้องไบร์ท” ท้องในวัยเรียน แต่ไม่บอกใคร จนลูกสาวอายุได้ขวบกว่าจึงยอมมาสารภาพกับตัวเอง ผ่านช่องยูทิวบ์ Joker family สัมภาษณ์โดย “ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง”
- ไม่ได้รู้ว่าท้อง รู้ว่ามีลูกเลย เด็กเดินได้แล้ว ประมาณ 1 ขวบ หลายปีก่อนหน้านี้ เราทำงาน ไม่ได้เจอลูกเลย บางทีว่างโทร.หา แต่เขาจะมีการปฏิเสธ ติดโน่นนี่นั่น จนหลังๆ เริ่มเอ๊ะ ทำไมปฏิเสธบ่อย
-ไม่ได้เจอเป็นปี เขาหลบไม่กล้ามาเจอ จนวันนึงเขาอึดอัดตัวเอง เขาโทร.มาถามว่าอยู่บ้านมั้ย มีเรื่องจะคุยหน่อย
-เข้ามาสิ่งแรก ก็รู้แล้ว ไม่ใช่คนร่าเริงที่เจอพ่อ ต้องมีอะไร เลยพาเข้าห้องกระจก
-เขาร้องไห้ ในใจคิดว่าท้อง ไม่ก็ไปทำแท้ง สองอย่างที่คิด แต่มันไม่ใช่สองอย่างที่คิด
-เขาบอกหนูมีลูกแล้ว
-มันช็อต มันชา เกิดอะไรขึ้น โมโห โกรธ เดินออกจากห้องไปสงบสติอารมณ์ ถามว่าทำไมตอบแทนแบบนี้ เคยเตือนแล้วไม่ใช่เหรอ มีแฟนไม่ว่า แต่ต้องป้องกัน ยังเรียนอยู่ แล้วความฝันเราล่ะ อยากเห็นลูกใส่ชุดปริญญา
-ยืนสงบสติอารมณ์ แล้วเดินเข้ามา ถามว่าลูกอายุเท่าไหร่ เขาบอกขวบกว่า กูทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รู้ว่าลูกท้อง คลอดลูกแล้ว ก็บอกให้ไปรับลูกมาทั้งที่ใจยังโกรธ
-น้ำตาคลอ ไม่ได้เห็นปริญญาลูกแล้ว ทุกอย่างต้องดร็อปเพราะวันนี้คุณมีลูก ชีวิตจะยังไงต่อ นั่งโกรธตัวเอง เลี้ยงลูกไม่สนใจใช่มั้ย ระหว่างเขาไปรับลูกก็นั่งน้ำตาไหล
-จากโกรธๆ น้ำตาไหล เด็กคนนึงมาเดินในบ้าน เรียกตาจ๋า ความโกรธหายไปหมดเลย กูเป็นตาคนแล้วเหรอเนี่ย
-ก็ถามว่าจะยังไงต่อจากนี้ เขาบอกว่าจะกลับไปเรียนให้พ่อได้เห็นใบปริญญา ใจก็คิดว่าทำได้เหรอ ต้องเลี้ยงลูก พ่อแม่ทางแฟนเขาก็มาเคลียร์ ไม่ได้เรียกร้องว่าต้องมาแต่งงานกับลูก แค่อย่าตบตีลูก ถ้าจะเลิกก็เลิก
-เขากลับมาเรียนให้จนจบปริญญาตรี โดยพ่อแม่ฝ่ายชายช่วยดูแล
-ต่อให้ติดยา ท้องก่อนวัยเรียน มันก็คือก้อนเลือดเรา สิ่งที่ทำผิด แต่ผิดแล้วรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น สอนลูกยังไงต่อจากนี้ไป พูดตลอดว่าพ่อไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิต
ขณะที่ “น้องไบร์ท” เผยเหตุผลที่ไม่บอกพ่อ
-ไม่รู้จะเริ่มบอกยังไง ไม่รู้จะเกริ่นว่าอะไร มันเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่เขาพูดมาตลอด แต่เราดันทำไม่ได้
-คิดในใจจะทำยังไงดี หรือเรียนจบแล้วบอกดีมั้ย แต่พอลูกเราโตขึ้นเรื่อยๆ เขาน่ารัก ถ้าพ่อได้เห็นก็ต้องรักเขาเหมือนกัน
-ไม่ว่าจะโดนอะไรรับได้หมด จะไม่โกรธเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะตนผิดคำสัญญา ดันข้ามสเต็ป แต่รู้ได้ว่าเขาโกรธมาก
-กลัวว่าถ้าคนอื่นรู้จะเอาเรื่องตนไปด่าเขามั้ย คิดไปเยอะ เลยไม่ได้บอกสักที
-วันนั้นไม่ไหว ไม่อยากโกหก ไม่อยากปิดบัง อยากให้เขาได้เจอกัน ชอบเห็นเขาถ่ายรูปกับเด็กน้อย ตรงนั้นควรเป็นหลานเขาจริงๆ
- จะบอกตั้งแต่แรกที่รู้ว่าท้อง แต่ไม่พร้อมที่จะบอกมากกว่า ปฏิเสธเจอพ่อ เพราะตอนนั้นไม่มีใครดู ตนเองเลี้ยงเอง ก็เอาไว้ก่อน แล้วเคลียร์เรื่องเรียน
-ตอนตั้งครรภ์ก็ไปเรียนปกติ จบตามเกณฑ์ คิดว่าต้องเรียนให้จบให้ได้ รู้ว่าท้องตอน 4-5 เดือนแล้ว เพราะประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว มารู้อีกทีแม่แฟนทักว่าประจำเดือนมาหรือยัง เขามองออกว่าท้องแน่ๆ
-วันที่ไปรับลูกส่งให้พ่ออุ้ม ตนก็ร้องไห้
-อยากบอกว่าไม่ต้องโทษตัวเองเลย ไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่เวรกรรม กรรมใครกรรมมัน ไม่คิดว่าการที่ท้องเป็นเวรกรรมของเขา ไม่ต้องโทษตัวเองเลย เป็นชีวิตตนที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว
-การมีลูกไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดพลาด แต่เป็นแสงสว่างให้ด้วยซ้ำ ตอนเรียนไม่ได้โฟกัสเรื่องเรียน ปล่อยให้ไปตามเวลา จะจบตอนไหนก็ตอนนั้น แต่พอมีเขาเห็นอนาคตมากขึ้น มองอนาคตว่าเอายังไงดี ไปทางไหนดี แล้วจะเลี้ยงดูเขายังไงดี
-โชคดีที่พ่อแม่แฟนคอยซัปพอร์ตตลอด ถ้าไม่มีพ่อแม่แฟนอาจจบยากหน่อย แต่เรามีคนซัปพอร์ตเต็มที่ ตนกับลูกอยู่อย่างสบายมากๆ ชีวิตครอบครัวก็แฮปปี้ดี
