“ประจักษ์ชัย” ยอมอภัยครั้งใหญ่ในชีวิตให้ “โม” เชื่ออาจเป็นเจ้ากรรมนายเวร เรื่องนี้กลายเป็นแผลในใจ

“ประจักษ์ชัย” ยอมกลืนเลือดกลืนน้ำตา ให้อภัย “โม” แฟนเก่า “บอส เอวหวาน” อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ ตนและ “ลำไย ไหทองคำ” ต้องชดใช้ บอก “หนุ่ม กรรชัย” ทำช็อตฟีลกลางรายการแบบนี้ ตนก็เก็บอารมณ์ที่สุดแล้ว สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ กลืนต่อไป โมสำนึกมา หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องให้อภัยกัน

หลังจากเสียน้ำตาในรายการ โหนกระแส ไปแล้วนายห้าง “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” และ “โม” อดีตแฟน “บอส เอวหวาน“ ทั้งคู่ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน สำหรับบทสรุปของเรื่องราวดรามา “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา ที่เกิดขึ้นติดต่อมาตลอดสัปดาห์ไว้ดังนี้

-น้องพร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น น้องปฏิเสธไม่ได้ปล่อยคลิป มาขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ สิ่งที่ผมจะทำได้ก็คือต้องกลืนเลือด กลืนน้ำตา บางทีมันกลืนไม่ลงมันก็ไหลออกมา มีช็อตฟีลบ้าง

-เราต้องรักษาองค์กรต่อไป เรื่องขึ้นศาลมันเป็นวิถีที่ต้องทำต่อไปอยู่แล้ว ในเมื่อมันต้องจบแบบนี้ ผมก็ต้องกลืนทุกอย่างลงไป ภาพต่างๆ เอาคืนไม่ได้ ต้องฟ้องถามวิถีไม่อย่างนั้นคนจะมองว่าไหทองคำไม่มีน้ำยา

-ผมจบนิติศาสตร์ ก็ต้องปกป้องเกียรติภูมิ แต่ในเมื่อน้องโมสำนึก ขอโทษด้วยใจบริสุทธิ์ ผมจะทำยังไงได้ สุดท้ายก็อ้ายเจ็บไง อยู่บนตึกก็กลืนมันไป ผมสร้างไหทองคำมา ถ้ามันจะแตกสลายก็ต้องแตกสลายเพราะมือผม แต่ผมไม่ได้บีบ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ฉะนั้นผมก็ต้องปกป้องทุกอย่าง

-ลำไยก็ไม่ได้แถว่าไม่ผิด ให้พี่แอน (แอนนา ภรรยาประจักษ์ชัย) ไปประสานเพื่อจะจบตรงนี้ได้อย่างไรบ้าง และก็รับผิดชอบต่อน้อง กระทบสิทธิ์ของน้อง รู้ว่าผิดก็ผิด จ่ายเท่าที่ไหว นั่นก็คือการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ที่มันผิดพลาด ก็ชดใช้ ชดเชย ลำไยยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้น

-มองแววตาน้องโมแล้วก็ไม่ได้เป็นคนขี้ดื้อ หนุ่ม กรรชัย ก็มาทำช็อตฟีลแบบนี้ ผมก็เก็บอารมณ์ที่สุดแล้ว สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ ก็กลืนกันต่อไป น้องสำนึกมามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องให้อภัยกัน สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเข้าใจและให้อภัยกัน อ่อนน้อมถ่อมตน

-ผมบอกเลยที่ผมเก็บน้ำตาไม่อยู่ เก็บทรงไม่ได้เพราะผมจุก น้ำตาผมไม่มีใครได้เห็นง่ายๆ หรอก กว่าผมจะได้หรือสำเร็จอะไรสักอย่างผมต้องเจ็บทุกครั้ง หลายคนเครียด ผมก็เครียดกับสิ่งที่ถูกเผยแพร่ออกไป มีคลิปคนหน้าเหมือนลำไยออกมาต่างๆ นานา ทำผมเจ็บลึกเลย

-เสียชื่อเสียง เสียเงิน 2 ล้านเอาคืนไม่ได้ การอภัยครั้งยิ่งใหญ่ของผม (เสียงเครือ) ต้องบอกว่าผมเป็นนักต่อสู้ ถึงจะเจ็บก็ไม่ยอมใครง่ายๆ แต่ต้องมายอมให้น้องโม กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรผม อาจจะเมื่อภพชาติที่แล้วผมเคยทำร้ายน้องโม ผมก็ได้แต่คิด ไม่เป็นไร เราสวดชินบัญชรอยู่แล้ว

-อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรสักอย่างต้องมาวิบัติเจอกัน เพื่อมาทำร้ายผมหรือทำร้ายลำไย ก็ถือว่ามาอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก

-ผมก็เต็มที่แล้ว จากนี้ต่างคนต่างไปทำงาน จะไม่ไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่ไลฟ์สดในเรื่องเหล่านี้กับโมอีก โมก็ไปทำหน้าที่ของตนเอง

-ถามว่าอยากได้เงิน 2 ล้านคืนไหม ยังอยากได้คืน แต่ไม่เป็นไรหรอก เงินไม่ตายก็หาได้ใหม่ เรื่องนี้เป็นความลับของ 4 คนจริงๆ แฟนตนยังไม่บอกตนเลยสักคำ ความลับสุดยอดมากขนาดผัวตัวเองยังไม่บอก พูดหยอกๆ เดี๋ยวจะไปฟ้องหย่าเมีย เงินสมรสหายไป 1 ล้าน เท่ากับไม่ได้คืนเลย

-ผมให้อภัยทั้งหมด 100% น้องบริสุทธิ์ใจแล้ว เราจะไปตามหามันก็ไม่เจอ มันเสียหายจนไม่รู้จะเสียหายยังไงแล้ว กลายเป็นแผลในใจของผม ผมถือว่าผมก้มหน้ารับกรรมไป เป็นวิบากกรรมของผม ของลำไย ที่มาเจอน้อง ทำให้เราต้องมาชดใช้สิ่งที่มันเคยเกิดขึ้นในอดีตชาติก็พอแล้วครับ

-ฟ้องเขาเราก็เจ็บเนื้อ ผมเห็นน้องซื้อแหวนให้พ่อให้แม่ มันเป็นความทรงจำที่ผมเคยซื้อแหวนให้แม่ให้พ่อเหมือนกัน ผมจะไปฟ้องเขาเพื่อจะเอาเงิน 20 ล้าน คงจะต้องถอดแหวนวงสุดท้ายมาให้กัน ผมก็มีมนุษยธรรมอยู่ ผมเสียเงิน 2 ล้าน แต่ไม่ตายผมก็หาได้ใหม่ ขอให้มันจบเถอะ ทุกอย่างมันบานปลายไปหมดแล้ว ขอจบแค่นี้ดีกว่า

ด้าน “โม” หลังจากผู้ใหญ่อย่าง “ประจักษ์ชัย” ให้อภัยก็รู้สึกหายใจหายคอคล่องขึ้น ยันไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิป รวมถึงพ่อของตนด้วย
-ดีใจมากที่อาจารย์ให้อภัย ยกโทษให้ รู้สึกหายใจ หายคอคล่องขึ้น ไม่ได้กลัวเรื่องฟ้องร้อง หนูมาจากนครสวรรค์เพื่อต้องการแค่อยากขอโทษอาจารย์ หนูเองก็ไม่คิดว่าอาจารย์จะยกโทษให้ด้วย

-จากเรื่องนี้คิดอะไรได้หลายอย่างเลย จะทำอะไรก็ต้องคิดให้มากกว่านี้ ชีวิตเดินหน้าต่อ กับบอสตัดขาด ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว

-ยืนยันพ่อโมไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปที่คนกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้ และโมไม่สืบหาว่าใครเป็นคนปล่อย เพราะเครียด อยากให้ทุกอย่างจบ