xs
xsm
sm
md
lg

“ชมพู่ อารยา” ขอบคุณเพื่อน “เกล” คอยเสิร์ฟคอนเทนต์ เผย “สายฟ้า” เหมือนแม่ “พายุ” ติดเท่ได้พ่อ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชมพู่ อารยา” แฮปปี้ทริปยกครอบครัวไปญี่ปุ่นล่าสุด บอกลูกชายชอบมากได้ไปเล่นสกี ส่วนลูกสาวขอให้โตอีกหน่อยจะส่งไปเรียน บอกขอบคุณเหล่า “เพื่อนเกล” ช่วยเสิร์ฟคอนเทนต์ออกโซเชียล เพราะไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น ลั่นไม่รู้ได้นิสัยใครมา เพราะทั้งกล้าแสดงออก ช่างพูดช่างจา พูดหมดไม่มีเก็บ ไม่เหมือนตนเลย มีแต่ “สายฟ้า” ที่เหมือน ส่วน “พายุ” ก็มีพ่อเป็นไอดอล ตอนนี้ติดเท่ไปแล้ว



ปกติจะเห็นคุณแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ควงลูกสาวสุดฮอต “น้องเกล” ออกงานคู่ และมีพี่ชายอีกสองคนคือ “สายฟ้า-พายุ” คอยมาเชียร์อยู่ด้านล่างเวที แต่ในงานพิธีเปิด THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION ที่ เอ็ม แกรนด์ ฮอลล์ ชั้นจี เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ แม่ชมพู่ได้ควงลูกทั้งสามคนมาออกงานด้วยกันเลย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้มาเผยถึงทริปที่ไปญี่ปุ่นมาล่าสุด บอกว่าเด็กๆ แฮปปี้กันมาก เพราะได้ไปเล่นสกีกันด้วย

ทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมาก็เย็นดีค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ค่อนข้างจะแพลนล่วงหน้าพอสมควร คือช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่เด็กไทยก็จะไปกันเยอะมาก ผู้ปกครองก็จะพากันไปเยอะ เพราะเป็นช่วง 1-2 สัปดาห์ที่โรงเรียนอินเตอร์จะหยุด ส่วนมากก็จะไปกันช่วงนั้น และเป็นช่วงที่หิมะเหมาะกับการเล่นสกีด้วย ไปครั้งนี้เด็กชายถูกใจมากค่ะ เขาก็เริ่มโต เริ่มเล่นเป็นแล้ว เขาก็ได้ทำกิจกรรมแมนๆ กับพ่อเขา ส่วนของเจ๊ด้วยอายุก็เริ่มฝีกได้แล้ว แต่เรารู้ว่าฝึกก็ยังเล่นไม่เป็นแน่นอน เพราะด้วยวัยก็ยังไม่พร้อมที่จะฟังคำสั่ง ไปเล่นเหมือนให้เขาลากๆ สนุกๆ มากกว่า แล้วเราก็ทั้งรับส่งเด็กชายด้วย ไปส่งตีนเขา พอกลางวันก็ไปรับ แล้วก็ไปจ่ายตลาด ถ้าต้องไปเฝ้าเกลอีกคนก็รู้สึกว่าบริหารไม่ไหว (หัวเราะ)

แต่เกลพอเห็นพี่ๆ เล่นเขาก็อยากทำ แต่ก็ให้เล่นค่ะ เพราะเปิดประตูบ้านมาก็เจอหิมะแล้ว ก็ให้เล่นอย่างนั้นไป แล้วก็ไปคาเฟ่กับแม่ คิดว่าขอโตอีกนิดนึงแล้วจะให้เรียน ให้เรียนแล้วพอเป็นจะได้มีกำลังใจ”

ขอบคุณเหล่า “เพื่อนเกล” ที่คอยเสิร์ฟคอนเทนต์ให้ตลอด
“ที่เห็นเกลเต้น ก็พอดีเขาเห็นปู ก็เลยเต้นปูหนีบอีปิ (หัวเราะ) บางทีเราก็ไม่ได้ให้ดูหรอก แต่ชอบมีคนเอาไปให้ดูว่าแม่เคยทำ ล่าสุดก็มีแอดมินบางเพจไปเปิดเพลงฝากแจ๋วไปแอลเอ (เพลงประกอบละครต้มยำลำซิ่ง) ให้ดู (หัวเราะ) คอนเทนต์วิ่งเข้าหาตลอด ก็ตามสภาพค่ะ เขาเป็นคนมีจังหวะ จริงๆ จะบอกว่าถ้าอยู่กับเขาทั้งวันคอนเทนต์เกิดได้ตลอดเวลา เพียงแต่บางทีเราก็ไม่ได้เก็บ มันเห็นเยอะมาก ถ้าอยู่ด้วยกัน 24 ชม. จังหวะนรกมีตลอด

เพื่อนเกลก็เยอะค่ะ ถามว่าต้องบรีฟเป็นพิเศษไหมว่าใครต้องเล่นยังไง ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็ปล่อยธรรมชาติของเขาแหละค่ะ คือถ้าคนไหนที่เราเห็นว่าเป็นเพื่อนน้องก็คือเราตรวจสอบแล้วแหละ เวลาที่เขาถ่ายน้องก็จะเป็นจังหวะที่น่ารัก เพราะทุกคนก็รักนาง พอคนที่รักก็จะได้เห็นโมเมนต์ที่มันน่ารัก และอะไรที่ตามธรรมชาติเด็กบางทีก็อาจจะมีบ้าง แต่ถ้าคนที่รักและหวังดีกันเขาก็จะไม่ทำ แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนเกลหลายๆ คน เพราะบางทีแม่ก็ไม่มีเวลาเสิร์ฟ (หัวเราะ) กลายเป็นว่าคอนเทนต์เราสู้เพื่อนไม่ได้แล้ว คือเราเป็นแม่อยู่ แล้วต้องดูหลายอย่าง บางทีเขาทำอะไรตลกๆ หรือเขาทำอะไรที่ควรจะเป็นคอนเทนต์จะชักโทรศัพท์มาก็ไม่ทันแล้ว ไม่ทันเพื่อน”

บอกไม่รู้พัฒนาการเร็วกว่าเด็กทั่วไปไหม
“พัฒนาการเร็วกว่าเด็กคนอื่นไหม คือเราไม่รู้หรอก เพราะไม่ได้เอาไปเปรียบเทียบกับใคร ไม่เคยดูเด็กคนอื่นแล้วมาเทียบด้วย ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันมากกว่าเด็กปกติหรือว่าอะไร เรามองว่ามันเป็นคาแรกเตอร์เขามากกว่า แต่ก็มีคนบอกตั้งแต่ตอนจะคลอดแล้วว่าเด็กถ้ามีพี่ในบ้านเขาจะโตเร็ว หมายถึงเขาจะอยากวิ่งได้ อยากเดินได้ อยากเล่นกับพี่ อยากคุยกับพี่ได้ และด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงอยู่แล้วก็อาจจะช่างพูดมากกว่าเด็กชาย การใช้ศัพท์หรือรูปประโยคมันอาจจะเจี้อยแจ้วกว่าเด็กผู้ชาย”

แอบงงไม่รู้ได้นิสัยใครมา แต่ “สายฟ้า” เหมือนตนแน่ๆ ส่วน “พายุ” เหมือนพ่อ
“ถามว่านิสัยได้เราไหม จนถึงวันนี้ยังงงอยู่เลยว่าได้ใครมา (หัวเราะ) งงมาก คือเขากล้าแสดงออกมากๆ สีหน้าเขาชัด เขาไม่เก็บอะไร ซึ่งเราตอนเด็กๆ ไม่ได้เป็นขนาดนี้ เราไม่พูดทุกอย่างที่คิด แต่เขาคือคนละลักษณะกับเรา แต่อย่างพี่สายก็จะได้แม่ มีอะไรก็จะเก็บไว้ในใจ แต่นี่เขาพูดหมดเลย เขาแสดงออกหมด ก็งงเหมือนกัน เพราะว่าพ่อก็ไม่ใช่

ส่วนพี่พาตอนนี้เขาก็นิ่งขึ้น เขาเป็นไอ้ต้าวเท่ (หัวเราะ) เป็นไอ้ต้าว แต่พี่สายเขาก็ยังติดเด็กๆ อยู่ ก็คนละคาแรกเตอร์ ยุเขาก็จะมีพ่อเป็นไอดอล สไตล์เสื้อผ้าเขาก็จะชอบเหมือนพ่อ คือพ่อเขาจะชอบฟังข่าวตอนเช้า เขาก็จะนั่งที่โต๊ะกินข้าวแล้วก็เปิดข่าวฟัง ยุก็ไปนั่งฟังข่าวด้วย เขาฟังเอง คือถ้าให้เวลาเขาก็จะไปนั่งฟังข่าว อาจจะเก็บใจความไม่ได้หมด แต่เขาฟัง ถ้าพ่อชวนไปไหนก็ไป เพราะพ่อก็จะทำกิจกรรมกับลูกชาย เหมือนได้ปล่อยพลัง ได้ปล่อยฮอร์โมน ได้อิสระ พ่อเขาก็จะไม่ค่อยห้าม แต่ถ้าไปกับแม่ก็ปากเปียกปากแฉะอยู่แล้ว ห้ามโน่นห้ามนี่ แต่พ่อจะปล่อยเลย ข้าวปลาไม่กิน กลับมาหิวโซ ก็คิดว่าชาวเน็ตที่มีลูกอาจจะเข้าใจว่าปล่อยลูกไว้กับพ่อ กับไว้กับแม่เป็นยังไง”













กำลังโหลดความคิดเห็น