โจอี้ มอลลันด์ มือกีตาร์และสมาชิกคนสุดท้ายของวงร็อกระดับตำนาน Badfinger ได้จากไปอย่างสงบเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางครอบครัวของเขา ตามคำแถลงจากหน้า Facebook ของวง แม้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตจะยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่มีรายงานว่าเขาเผชิญปัญหาสุขภาพมานานหลายปี รวมถึงโรคปอดบวมในช่วงหลัง
“ขอบคุณโจอี้... ที่รักษาดนตรีของ Badfinger ให้คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ และที่เป็นเพื่อนกับพวกเราทุกคน” วงกล่าวในแถลงการณ์ทางโซเชียลมีเดีย
โจอี้ มอลลันด์ เข้าร่วม Badfinger ในปี 1969 ซึ่งในตอนแรกพวกเขาใช้ชื่อ The Iveys ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญากับ Apple Records ของ เดอะบีเทิลส์ และเปลี่ยนชื่อเป็น Badfinger
แม้จะเป็นวงที่ได้รับการสนับสนุนจาก เดอะบีเทิลส์ และมีเพลงฮิตมากมาย แต่ชะตากรรมของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความอาภัพ สมาชิกดั้งเดิมอย่าง พีท แฮม และ ทอม อีแวนส์ ต่างจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย ส่วนไมค์ กิบบินส์ เสียชีวิตจากอาการหลอดเลือดสมองโป่งพอง
Badfinger เป็นเจ้าของเพลงดังมากมาย แต่หลายคนกลับไม่รู้ว่าเป็นของพวกเขา "Without You" หนึ่งในเพลงรักที่โด่งดังที่สุด ถูกนำไปคัฟเวอร์โดย แฮร์รี นิลสัน และ มารายห์ แครี จนกลายเป็นเพลงอมตะระดับโลก นอกจากนี้ยังมีเพลง "Come and Get It", "No Matter What", "Baby Blue", และ "Day After Day" ที่ยังคงเป็นที่จดจำในวงการดนตรี
จากการจากไปของโจอี้ มอลลันด์ ในครั้งนี้ ถือเป็นการปิดฉากตำนานของ Badfinger อย่างแท้จริง
Badfinger คือวงร็อกจากสหราชอาณาจักรที่เริ่มต้นในชื่อ The Iveys ก่อนจะถูก เดอะบีเทิลส์ ชักชวนเข้าสังกัด Apple Records และเปลี่ยนชื่อเป็น Badfinger ในปี 1969 วงประกอบด้วย พีท แฮม, ทอม อีแวนส์, ไมค์ กิบบินส์ และ โจอี้ มอลลันด์ ซึ่งเป็นสมาชิกคนสุดท้ายที่เพิ่งเสียชีวิตไป
แม้วงจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในระดับซูเปอร์สตาร์ แต่พวกเขามีเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย เช่น "Come and Get It" (เขียนโดย พอล แม็คคาร์ทนีย์), "No Matter What", "Day After Day" หรือ "Baby Blue"
และที่โด่งดังที่สุด "Without You" เพลงที่ แฮร์รี นิลสัน และ มารายห์ แครี นำไปคัฟเวอร์จนกลายเป็นเพลงฮิตระดับโลก แม้หลายคนไม่รู้ว่าเพลงนี้มาจาก Badfinger
Badfinger ประสบปัญหาภายในจากความขัดแย้งด้านการจัดการ การเงิน และการบริหารวง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่าง พีท แฮม และ แคธี มอลแลนด์ ภรรยาของ โจอี้ มอลแลนด์ ที่เริ่มมีอิทธิพลในวงมากขึ้น จนในเดือนตุลาคม ปี 1974 แฮมตัดสินใจลาออก แม้เขาจะกลับมาหลังจากถูกกดดันจากค่ายเพลง แต่สถานการณ์ของวงก็ยังคงไร้เสถียรภาพ ขณะที่อัลบั้ม Head First ถูกบันทึกอย่างเร่งรีบ และในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน มอลแลนด์ก็ตัดสินใจลาออกจากวงอีกคน ท่ามกลางปัญหาทางกฎหมายและข้อพิพาทกับผู้จัดการ สแตน พอลลีย์
ต้นปี 1975 วงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง อัลบั้มใหม่ถูกระงับ เงินทุนของวงหมดลง และแฮมไม่สามารถติดต่อพอลลีย์ได้ ส่งผลให้เขาตกอยู่ในสภาวะเครียดและสิ้นหวัง กระทั่งคืนวันที่ 23 เมษายน 1975 เขาได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าเงินทั้งหมดของเขาหายไป หลังจากดื่มหนักกับ ทอม อีแวนส์ เขากลับบ้านและจบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอในเช้าวันที่ 24 เมษายน 1975 โดยทิ้งจดหมายลาตายที่กล่าวโทษพอลลีย์ว่าเป็นต้นเหตุของความทุกข์ วงแบดฟิงเกอร์ล่มสลาย และค่ายเพลง Warner Bros. ก็ยกเลิกสัญญากับวง
หลังจากการจากไปของแฮม สมาชิกที่เหลือพยายามกอบกู้วงขึ้นมาใหม่ โดยอีแวนส์และมอลแลนด์กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในช่วงปลายทศวรรษ 1970 อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องสิทธิ์และรายได้ยังคงเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง ขณะที่วงต้องดิ้นรนอยู่ในเงาของปัญหาทางการเงินและกฎหมาย
คืนวันที่ 18 พฤศจิกายน 1983 อีแวนส์และมอลแลนด์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับปัญหาทางการเงิน หลังจากนั้น อีแวนส์ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก และในเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 1983 เขาก็ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการแขวนคอ ปิดฉากวงแบดฟิงเกอร์ลงอย่างถาวร พร้อมกับโศกนาฏกรรมของสมาชิกหลักของวง
