“ณเดชน์ คูกิมิยะ” เผยเตรียมพบ “พี่ยักษ์” ในธี่หยด 3 บอกภาพยนตร์กระแสตอบรับดีจนเด็กๆ เรียกชื่อพี่ยักษ์แทน ชื่อเสียงไม่มีผล บทไม่สนุกใครเล่นก็แป้ก ลั่นภาคนี้ซิกแพ็กแน่นกว่าเดิม น้ำหนักลด 5 กิโล หลังลงแดงกินทั้งวันทั้งคืนขึ้นมา 8 กิโล ไม่ซีเรียสรายได้ ขอแค่คนดูสนุก แย้มมีภาคแยก “สมิงเขาขวาง” อีก ขำๆ พบได้ตาม BTS - วินมอ’ไซค์ พรีเซ็นเตอร์เข้าได้
จากกระแสตอบรับที่ล้นหลามทั้งจาก ธี่หยด ภาค 1 และ ธี่หยด 2 ที่ตอนนี้รายได้ทั้ง 2 ภาครวมกันทะลุ 1,000 ล้านบาท ซึ่งงานนี้ก็มีการวางแผนสร้างภาพยนตร์ ธี่หยด ภาค 3 ต่อ โดยทีมผู้เขียนบทกำลังเขียนเรื่องราวของภาคใหม่อยู่ แน่นอนว่า “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กลับมารับบท “พี่ยักษ์” เหมือนเดิม งานนี้ทำเอาหลายคนจับตาดูกันต่อไปว่าเรื่องราวในภาคใหม่นี้จะเป็นอย่างไร
ล่าสุดณเดชน์ก็ออกมาอัปเดตความคืบหน้าภาพยนตร์ ธี่หยด ภาค 3 โดยเจ้าตัวเผยว่าภาคนี้ซิกแพ็กแน่นกว่าเดิม บอกไม่คาดหวังรายได้ แค่ได้แสดงก็มีความสุขแล้ว
“ต้องขอขอบคุณบทประพันธ์ คือมันเป็นเรื่องจริงที่ถูกเล่ากันมา เขียนเป็นนิยาย เป็นหนังสือ ด้วยตัวเรื่องของธี่หยดสนุกอยู่แล้ว และมีฐานแฟนคลับเยอะมากๆ ฐานแฟนคลับ The Ghost Radio เยอะมากๆ มันเลยทำให้ธี่หยดประสบความสำเร็จโดยที่เราตั้งตัวไม่ทัน องค์ประกอบพวกนี้เลยทำให้ประสบความสำเร็จ
แล้วตัวละครพี่ยักษ์เองเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย มีความดุดันที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องผี คนนิสัยยักษ์อารมณ์ร้อนใช้กำลัง แต่ยักษ์ก็ทำให้เห็นว่าถ้าทำอะไรที่ไม่มีสติก็เกิดความผิดพลาดได้เหมือนกัน ก็เป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้คนรู้สึกสะใจอยากใช้ชีวิตแบบนี้ อยากจัดการกับผีแบบนี้ นี่แหละมีตัวแทนของพวกเราแล้ว”
ดีใจภาพยนตร์ไทยกระแสตอบรับดี
“เราก็ดีใจมากนะที่เดี๋ยวนี้เด็กประถม เด็กมัธยม เรียกพี่ยักษ์ๆ หรือผู้ใหญ่ก็เรียกพี่ยักษ์มันชื่นใจ เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้มารับบทเป็นพี่ยักษ์ และเป็นครั้งแรกที่ได้ไปทัวร์ต่างประเทศ โปรโมตหนังต่างประเทศในชีวิตก็ดีใจเราก็ไม่คาดคิด ก็นักแสดงคนไทยคนหนึ่งได้มีแฟนคลับต่างชาติในหลายประเทศที่เราแทบจะไม่รู้เลยว่าเขาก็ดูหนังไทยเยอะนะ เราก็ดีใจก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจทำให้ทุกคนทั้งทีมงานนักแสดงเหมือนเป็นของขวัญ เรื่องรายได้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องของสถิติหรือเรื่องธุรกิจอะไรไป พวกเราในฐานะนักแสดงกำลังใจตรงนี้มันสำคัญมากที่สุด”
เผยส่วนใหญ่โดยสัมภาษณ์เรื่องซิกแพ็ก
“ส่วนใหญ่ที่สัมภาษณ์ในโรงภาพยนต์ก็มีเรื่องซิกแพ็ก ชอบมากกับซิกแพ็ก ชอบความโหดร้ายของพี่ยักษ์ในการต่อสู้กับผี”
เผยชื่อเสียงไม่มีผล ลั่นถ้าบทไม่สนุกใครเล่นก็แป้ก
“เราว่าถ้าเกิดว่าบทไม่สนุกเรื่องไม่สนุกเป็นใครเล่นก็แป้ก ต่อให้เรามาเล่นก็พยุงหนังไม่ได้อยู่ดี คือด้วยตัวหนังเองมันสนุกมากอยู่แล้ว เราก็แค่มีโอกาสได้เข้าไปสวมวิญญาณของคาแรกเตอร์ตัวนี้เท่านั้นเอง"
บอกฝันเห็นผี จนต้องไปซื้อลอตเตอรี่
“เพิ่งฝันร้าย ฝันว่าเห็นผีเต็มไปหมดเลย ก็เลยไปซื้อลอตเตอรี่แต่ไม่ถูก ฝันว่าเราขับรถไปพอเลยหัวโค้งก็มีผีนางรำ มีผีชุดดำนั่งก้มหน้าหันหน้ามาหา มีผีกระโจนขึ้นมาหน้ากระโปรงรถ อันนี้ไม่มีในบท ตอนนั้นพอฝันรู้สึกกลัวมาก ในฝันกลับไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง หันหลังไปพระอาจารย์เดินขึ้นมายิ้มให้บอกไปทำบุญหน่อยนะ อันนี้ในฝันๆ เป็นพระอาจารย์ที่เคารพเลย ไม่ลืมครับจำไปจนตาย บอกเดี๋ยวจะไปทำบุญให้ อะไรก็ไม่รู้ผมเลยไปใส่บาตร
จริงๆ เป็นคนกลัวผี แต่ตอนที่เล่นภาค 1 ภาค 2 คือมันเป็นการแสดงเลยรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เวลาเล่นก็ยกมือไหว้ขอขมาก่อนถ่ายหลังเลิกกอง ไหว้พระก่อนนอนเวลาไปถ่ายต่างจังหวัด เพราะเราก็ไม่รู้ไปที่ต่างๆ”
ซิกแพ็ก ภาค 3 แน่นกว่าเดิม
“ภาค 3 แน่นขึ้น แต่อาจจะไม่ได้มีจังหวะถอดหรือเปล่าก็ไม่แน่นใจ ต้องดูความสมเหตุสมผล คือเรื่องราวที่อยู่ในภาค 3 มันเกิดขึ้นหลายๆ อย่างค่อนข้างรวดเร็ว มีหลายอย่างเกิดขึ้นมากๆ ไม่มีเวลาให้พี่ยักษ์ถอดเสื้อหรอกมั้ง
จริงๆ ภาค 3 พี่ยักษ์โตขึ้น ผ่านประสบการณ์มาเยอะมาก การที่พี่ยักษ์จะตัวใหญ่ขึ้น เขาอาจจะเตรียมตัวสำหรับอะไรสักอย่างหรือเปล่า ถ้าเผื่อว่าในอนาคตมันกลับมาต้องไปฟิตเนสสักหน่อย”
รับน้ำลด 5 กิโลกรัม แล้ว หลังลงแดง กินทั้งวันทั้งคืนขึ้นมา 8 กิโลกรัมช่วงปีใหม่
“ช่วงฟ้าจรดทรายเราว่าช่วงนั้นน่าจะเป็นเวลาที่พีกสุดแล้ว หลังจากนั้นมาเรากินทุกอย่าง เหมือนลงแดง กินข้าว กินแฮมเบอร์เกอร์ กินทั้งวันทั้งคืนเลย เป็นช่วงคริสต์มาส ช่วงปีใหม่ด้วย เรารู้สึกว่าทำงานมาเยอะแล้ว งั้นเราให้ตัวเองบ้างดีกว่าก็เลยเอ็นจอยเอ็นจอยอีสติ้ง แต่พอหลังปีใหม่มาก็พยายามลดน้ำหนักเพราะจะเปิดกล้องแล้ว ขึ้นมา 8 กิโลกรัม แต่ลดมาได้ 5 กิโลกรัม”
ไม่กดดันรายได้ภาค 3 ขอแค่คนดูมีความสนุกกับเรื่องก็พอ
“จริงๆ พี่ต้อมทำธี่หยดมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ซึ่งเราก็มั่นใจว่าพี่ต้อมจะเป็นผู้กำกับที่ดีให้กับธี่หยดภาค 3 ได้อย่างแน่นอน จริงๆ เราอยู่กันแบบสนิทกันไปหมดแล้วแทบจะรู้ไส้รู้พุงกันหมด ส่วนตัวแล้วเรื่องราวได้ไม่คาดหวัง เพราะขอแค่คนดูมีความสนุกกับเรื่องก็พอ เราว่านักแสดงทุกคนอยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องรายได้หรือผลตอบรับมันเป็นเรื่องสุดท้ายที่สุดสำหรับพวกเรานักแสดง
จริงๆ มันไม่น่าเชื่อว่าจะไปถึงขนาดนั้นได้ เราก็เลยมาภาค 3 เราต้องตั้งใจเตรียมตัวรับไว้ว่าโอเคต่อให้เรื่องมันดี แต่รายได้มันอาจจะไม่ได้เท่าเดิมหรือมากไปกว่าเดิม แต่เรารู้สึกดีว่ามันมีโอกาสได้ทำงานธี่หยด 3 ต่อ”
เผยมีภาคแยกอีก บอกเป็นเรื่องราวความรักของพี่ยักษ์
“มีๆ ภาคแยกสมิงเขาขวาง จริงๆ เป็นภาคแยกจุดเริ่มต้นก่อนที่พี่ยักษ์จะมาเจอเรื่องราวของผีชุดดำที่บ้าน ก็เป็นเรื่องราวยักษ์กับจ่าประพันธ์ และเรื่องความรักของพี่ยักษ์ ซึ่งจะถ่ายหลังภาค 3 (กวาดธี่หยด ยาวหลายปี?) ก็ดีไปเรื่อยๆ ได้ จริงๆ ถ่ายหนัง 3 เดือน ก็เสร็จ”
ยกเป็นขวัญใจมหาชนพบได้ตาม BTS - วินมอเตอร์ไซค์
“เจอ ณเดชน์ ทุกที่ ซึ่งความจริง ญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) อยู่ข้างหลังเพียงแค่ 5 ก้าว แต่ไม่เคยมีใครถ่ายมาให้เห็นเลย คือบางวันน้องเขาไม่ได้ไปด้วย ซึ่งผมจะไปออกกำลังกายทุกวัน วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์รถติดมาก ก็เลยตัดสินใจไปที่รักไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวไปกินข้าวไม่ทัน เดี๋ยวไปเจอเพื่อนอีก ก็เลยลงกลางสี่แยกอโศกเลย แล้วก็เดินไปขึ้นบีทีเอสก็ยาวไปถึงร้านอาหารแป๊บเดียวก็ถึง ก็ขึ้นไปก็มีคนยิ้มๆ ให้ ก็ไม่ได้อะไรก็ปกติ”
"(หลายคนให้ความเป็นส่วนตัว ไม่เข้าไปขอถ่ายรูป?) ก็ด้วยครับ อีกอย่างมันแน่น ทุกคนก็เหนื่อยจากการทำงาน เล่นมือถือเล่นอะไรไป ก็มีช่วงเวลาของเขา อีกอย่างก็คงเห็นบ่อย”
เผยพรีเซ็นเตอร์ BTS เข้าได้
“ขอบคุณมากครับรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย จริงๆ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราสะดวกในการใช้ชีวิต ถ้าเรามีกิจกรรมหลายอย่างในวันหนึ่งค่อนข้างเยอะ การใช้รถสาธารณะโอเคหรือจะใช้พี่วินมอเตอร์ไซค์ เราว่ามันเป็นเรื่องที่แล้วแต่คนสะดวก เราเองใช้รถบางทีก็ไม่ค่อยอยากขับ อีกอย่างรถมันติดประมาณนั้น”
