Anora ภาพยนตร์ ดราม่าตลกร้าย ที่สะท้อนเรื่องราวของ นักเต้นระบำเปลื้องผ้าในนิวยอร์ก มหาเศรษฐีรัสเซีย และแก๊งอาชญากรสุดเฟอะฟะ คว้ารางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บนเวที Academy Awards ครั้งที่ 97
ฌอน เบเกอร์ ผู้กำกับสายอินดี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำเสนอชีวิตของ แรงงานบริการทางเพศและกลุ่มชายขอบในสังคม คว้ารางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Anora บนเวที ออสการ์ครั้งที่ 97
นี่เป็นครั้งแรกที่เบเกอร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ และเขาสามารถ เอาชนะผู้กำกับฝีมือแกร่งอย่าง เบรดี้ คอร์เบต (The Brutalist), เจมส์ แมนโกลด์ (A Complete Unknown), ฌากส์ โอเดียร์ (Emilia Perez) และ คอราลี ฟาร์เจียต์ (The Substance) คว้ารางวัลไปครอง
ไมกี้ แมดิสัน คว้านักแสดงนำหญิง – ล้มเต็งหนึ่ง เดมี มัวร์
อีกหนึ่งไฮไลต์ของค่ำคืนคือชัยชนะของ ไมกี้ แมดิสัน ที่คว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก Anora ซึ่งเธอถ่ายทอดบทบาท หญิงสาวทำงานบริการที่แต่งงานกับลูกชายมหาเศรษฐีรัสเซีย ได้อย่างมีเสน่ห์และทรงพลัง
ชัยชนะของแมดิสันถือเป็น หนึ่งในเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ของออสการ์ปีนี้ เพราะเธอสามารถ เอาชนะตัวเต็งอย่าง เดมี มัวร์ (The Substance), ซินเธีย เอริโว (Wicked), เฟอร์นันดา ตอร์เรส (I'm Still Here) และ คาร์ลา โซเฟีย กาสกอน (Emilia Perez) ที่เจอข่าวอื้อฉาวก่อนงานประกาศรางวัล
ค่ำคืนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งชัยชนะครั้งใหญ่ของ Anora ซึ่งกวาดรางวัลสำคัญทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ตอกย้ำความสำเร็จของหนังอินดี้ที่สั่นสะเทือนเวทีออสการ์ได้อย่างแท้จริง
ผลงานของผู้กำกับอินดี้ชาวอเมริกัน ฌอน เบเกอร์ นำเสนอเรื่องราวของ หญิงสาวในวงการค้าประเวณีที่แต่งงานกับลูกชายมหาเศรษฐี ก่อนพบว่านิยายรักในฝันกลับเต็มไปด้วยความจริงอันโหดร้าย ภาพยนตร์สามารถถ่ายทอดเรื่องเพศอย่างลึกซึ้ง ผสานเข้ากับอารมณ์สะเทือนใจและอารมณ์ขันแบบจิกกัด สร้างเสน่ห์จนเอาชนะใจกรรมการออสการ์
แม้จะเป็นหนังทุนต่ำ Anora สามารถเอาชนะคู่แข่งตัวเต็งอย่าง "Conclave" และ "The Brutalist" รวมถึงภาพยนตร์อีก 9 เรื่องที่เข้าชิง และคว้ารางวัลสูงสุดของวงการภาพยนตร์ไปครอง ตอกย้ำพลังของหนังอินดี้ที่สามารถสั่นสะเทือนเวทีออสการ์ได้อีกครั้ง
งานประกาศรางวัล ออสการ์ ครั้งที่ 97 เปิดฉากอย่างอลังการด้วยโชว์พิเศษจาก อารีอานา กรานเด และ ซินเธีย เอริโว สองนักแสดงนำจาก Wicked ที่ขับร้องเมดเลย์จากโลกมหัศจรรย์แห่งออซ ก่อนปิดท้ายด้วยการแสดงสุดพลังในเพลง "Defying Gravity" ที่เรียกเสียงปรบมือสนั่น
จากนั้นพิธีกรของค่ำคืน โคแนน โอไบรอัน ก็ขึ้นเวทีด้วยการสร้างเซอร์ไพรส์สุดฮา "โผล่ออกมาจากร่างของเดมี มัวร์" ล้อเลียนหนังสยองขวัญ The Substance
"ขอต้อนรับสู่ Academy Awards ครั้งที่ 97!" โอไบรอันกล่าวติดตลก "นี่คืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลลีวูด... ที่เริ่มตอนบ่ายสี่โมงเย็น"
เขายังแซวภาพยนตร์ "Emilia Perez" ซึ่งเจอปัญหาดราม่าหลังมีการขุดทวีตเก่าของนักแสดงนำขึ้นมา "รู้ไหมว่า ‘Anora’ มีคำว่า F-word ทั้งหมด 479 ครั้ง? มากกว่าสถิติที่พีอาร์ของ คาร์ลา โซเฟีย กาสกอน ทำไว้ถึง 3 คำ!"
เอเดรียน โบรดี คว้าออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมครั้งที่สอง จาก The Brutalist
เอเดรียน โบรดี คัมแบ็กสู่จุดสูงสุดของฮอลลีวูดอีกครั้ง หลังคว้ารางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เป็นครั้งที่สองในชีวิต จากบทบาทสุดเข้มข้นของเขาใน The Brutalist ภาพยนตร์ที่เล่าถึงสถาปนิกชาวฮังการีเชื้อสายยิวที่อพยพไปสหรัฐฯ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ โบรดี กลายเป็นนักแสดงที่คว้า ออสการ์จากภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับ Holocaust ถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกเขาได้รับรางวัลจาก The Pianist (2003) ขณะที่อายุเพียง 29 ปี ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยาว์ที่สุดในประวัติศาสตร์ออสการ์
ปีนี้ โบรดีเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ (A Complete Unknown), ราล์ฟ ไฟนส์ (Conclave), เซบาสเตียน สแตน (The Apprentice) และ โคลแมน โดมิงโก (Sing Sing)
"การเป็นนักแสดงเป็นอาชีพที่เปราะบางมาก มันดูหรูหรา และในบางช่วงเวลามันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ"ขณะขึ้นรับรางวัล นักแสดงวัย 51 ปี กล่าวด้วยอารมณ์ซาบซึ้ง "ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของเส้นทางอาชีพ ไม่ว่าคุณจะเคยทำอะไรสำเร็จมาแค่ไหน ทุกอย่างสามารถหายไปได้เสมอ และสิ่งที่ทำให้ค่ำคืนนี้พิเศษที่สุดคือการตระหนักรู้ถึงเรื่องนั้น และความรู้สึกขอบคุณที่ผมยังได้ทำงานที่ผมรัก"
โซอี ซัลดานา คว้าออสการ์สมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Emilia Perez – นักแสดงเชื้อสายโดมินิกัน-อเมริกันคนแรกที่คว้ารางวัล
โซอี ซัลดานา สร้างประวัติศาสตร์บนเวทีออสการ์ หลังคว้ารางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จาก Emilia Perez ภาพยนตร์แนว นาร์โก-มิวสิคัลไซเคเดลิก ที่เธอได้โชว์ศักยภาพทั้ง การแสดง การร้องเพลง และการแรปเป็นภาษาสเปน
"ฉันเป็นลูกของผู้อพยพที่เต็มไปด้วยความฝัน ศักดิ์ศรี และมือที่ทำงานหนัก" ซัลดานากล่าวขณะรับรางวัล "ฉันเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายโดมินิกันคนแรกที่ได้ถือรางวัลออสการ์ และฉันรู้ว่าฉันจะไม่ใช่คนสุดท้าย"
ซัลดานาเอาชนะผู้เข้าชิงอย่าง อารีอานา กรานเด (Wicked), อิซาเบลลา รอสเซลลินี (Conclave), โมนิกา บาร์บาโร (A Complete Unknown) และ เฟลิซิตี้ โจนส์ (The Brutalist)
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซัลดานารับบทเป็น รีตา ทนายความชาวเม็กซิโกที่ไม่เคยได้รับการยอมรับเท่าที่ควร แต่ชีวิตของเธอกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อ เจ้าพ่อค้ายาเสพติดติดต่อมาขอให้ช่วยปลอมการตายของเขา เพื่อเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะ เอมีเลีย เปเรซ (รับบทโดย คาร์ลา โซเฟีย กาสกอน)
คีแรน คัลกิ้น คว้าออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก A Real Pain ปิดฉากปีทองของตัวเอง
ส่วนสาขานักแสดงสมทบชาย คีแรน คัลกิ้น ปิดฉากปีแห่งความสำเร็จของเขาด้วยการคว้ารางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากบทบาทใน A Real Pain ภาพยนตร์ดราม่าที่สะท้อนความสัมพันธ์ในครอบครัวและการสูญเสียของชาวยิวจากเหตุการณ์ Holocaust
นักแสดงวัย 42 ปี ซึ่งเป็นตัวเต็งของฤดูกาลรางวัล เอาชนะคู่แข่งอย่าง ยูรา โบริซอฟ (Anora), เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (A Complete Unknown), กาย เพียร์ซ (The Brutalist) และ เจเรมี สตรอง (The Apprentice)
รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของคัลกิ้น หลังจากปีที่แล้วเขาคว้ารางวัล Emmy จากบทบาท โรมัน รอย ใน Succession และกวาดรางวัลจากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น Golden Globe, Critics Choice และ SAG Awards
เมื่อขึ้นเวทีรับรางวัล คัลกิ้นกล่าวด้วยความประทับใจ "ผมไม่รู้เลยว่ามาถึงตรงนี้ได้ยังไง ผมแค่อยู่กับการแสดงมาตลอดชีวิต มันเป็นส่วนหนึ่งของผม" เขายังขอบคุณ เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้กำกับและนักแสดงร่วมของเขา "ขอบคุณสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณมันอัจฉริยะสุด ๆ ผมจะไม่มีวันพูดแบบนี้ต่อหน้าคุณ และจะไม่พูดมันอีกเลย"
งานประกาศรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 97 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ Dolby Theatre, ฮอลลีวูด เพื่อมอบรางวัล ออสการ์ ให้กับภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2024 รวม 23 สาขา โดยงานนี้ออกอากาศสดทาง ABC และเป็นครั้งแรกที่มีการ สตรีมสดผ่าน Hulu
ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากที่สุดในปีนี้คือ "Emilia Pérez" ด้วย 13 สาขา ตามมาด้วย "The Brutalist" และ "Wicked" ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 10 สาขา เท่ากัน
ซึ่งสุดท้าย Anora กลายเป็นผู้ชนะรายใหญ่ที่สุด โดยคว้าไปถึง 5 รางวัล รวมถึง รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะที่ The Brutalist ตามมา 3 รางวัล
นอกจากการเฉลิมฉลองให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์แล้ว พิธีในปีนี้ยังมีช่วงพิเศษเพื่อ ยกย่องเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ต่อสู้กับไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแอนเจลิสเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 29 ราย
โชว์สุดพิเศษจากศิลปินระดับโลก
งานออสการ์ปีนี้ยังมีการแสดงจากศิลปินชื่อดังอย่าง อารีอานา กรานเด, ซินเธีย เอริโว, โดจา แคท และ ลิซ่า BLACKPINK ที่มาสร้างสีสันให้กับค่ำคืนแห่งวงการภาพยนตร์
สรุปผลการประกาศรางวัลอะแคเดมีอวอร์ดส (Academy Awards) หรือรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
Anora
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
ไมกี แมดิสัน จาก Anora
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
เอเดรียน โบรดี จาก The Brutalist
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
โซอี ซัลดานา จาก Emilia Pérez
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
เคียแรน คัลกิน จาก A Real Pain
ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
ฌอน เบเกอร์ จาก Anora
ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature)
I'm Still Here (บราซิล)
ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature)
Flow
บทภาพยนตร์แต่งใหม่ยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
Anora โดย ฌอน เบเกอร์
บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
Conclave โดย ปีเตอร์ สตรอว์แกน
เพลงประกอบภาพยนตร์แต่งใหม่ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
El Mal จาก Emilia Pérez
ดนตรีประกอบแต่งใหม่ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
The Brutalist
สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary Feature)
No Other Land
ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
Wicked
แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม (Best Make-up and Hairstyling)
The Substance
ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best Production Design)
Wicked
บันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound)
Dune: Part Two
ลำดับภาพยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
Anora
กำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
The Brutalist
เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
Dune: Part Two
ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short)
I'm Not a Robot
ภาพยนตร์แอนิเมชันสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short)
In the Shadow of the Cypress
สารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary Short)
The Only Girl in the Orchestra
