ดูเหมือนการฟื้นตัวของ “จ้าวลู่ซือ” นางเอกสาวชื่อดังจะดีวันดีคืนหลังเผชิญอาการป่วยหนักจากโรค Conversion disorder ซึ่งเป็นภาวะปัญหาสุขภาพจิตที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้มีปัญหาทั้งการพูดและการเดิน ล่าสุดหลังอาการดีขึ้นเจ้าตัวเดินทางไปทำการกุศลเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ทิเบต แต่โดนชาวเน็ตจีนตามแขวะไม่เลิกบอกสร้างภาพ หลังมีกล้องตัวใหญ่เดินตามเก็บภาพ
หลังจากที่ จ้าวลู่ซือ ล้มป่วยกระทันหันจนกลายเป็นข่าวใหญ่โตถึงปัญหาสุขภาพที่ดูท่าว่าจะเรื้อรังมานาน ก่อนสะสมทำให้ร่างกายแทบจะกลายเป็นอัมพาต ล่าสุดหลังฟื้นตัวดี แพทย์ได้แนะนำให้นางเอกสาวเข้าร่วมทำกิจกรรมเชิงบวกเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ส่งให้ จ้าวลู่ซือ ตัดสินใจเดินทางไปทิเบตเพื่อพักใจและปลดปล่อยความเครียดที่สะสมมานาน
การเดินทางของเธอในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การกระทำของเธอกลับกลายเป็นว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และทำให้เธอไม่เป็นที่ชื่นชอบมากขึ้นกว่าก่อนที่เธอจะพักงานไปรักษาร่างกายเสียอีก
ตามรายงานของ QQ หัวข้อที่กำลังเป็นกระแสบน Weibo มีชื่อว่า “จ้าวลู่ซือ ไม่ต้องการไม้ค้ำยัน” มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 45 ล้านครั้ง หลังชาวเน็ตสังเกตว่าแม้จะเดินบนทางลาดชันและถนนที่ไม่เรียบ แต่เธอก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวได้สะดวกผิดกับคนที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วย
การวิจารณ์ครั้งนี้เกิดจาก การสังเกตของชาวเน็ตที่มองว่า 8 วันก่อนหน้าที่ จ้าวลู่ซือ จะเดินทางไปทิเบต มีคนเห็นนางเอกสาวยังต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อเดินเล่นในเมือง ซึ่งในเวลานั้น เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือด บางคนถึงขั้นตั้งคำถามว่าเธอฟื้นตัวได้เร็วขนาดนั้นได้อย่างไร
ตามรายงานของ QQ ยังบอกอีกว่าการไปเดินขึ้นเขาลาดชันที่สภาพอากาศเบาบางโดยไม่ใช้ไม้ค้ำยัน เธอสามารถทำได้อย่างไร? การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนี้จึงทำให้เกิดการเหน็บแนม โดยผู้คนเรียกเธอว่า “ปาฏิหาริย์ทางการแพทย์” หลายคนกล่าวหาว่าที่ผ่านมาเธอใช้ไม้ค้ำยันเพียงเพื่อเรียกคะแนนสงสารให้คนเห็นใจเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจของ จ้าวลู่ซือ ที่จะไปเยือนทิเบต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้ายและภูมิประเทศที่ยากลำบาก ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงพักฟื้น ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของเธอ บางคนรู้สึกว่าเธอกดดันตัวเองมากเกินไป ในขณะที่บางคนก็สงสัยถึงความจริงใจในการเดินทางครั้งนี้
แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นแผนการเดินทางแบบส่วนตัว แต่สังเกตเห็นว่า มีตากล้องมืออาชีพคอยติดตามถ่ายภาพและคลิปของเธอตลอด และภาพถ่ายของเธอจำนวนมากก็ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตตามมา นอกจากนี้ จ้าวลู่ซือ ยังปรากฏบนรายชื่อหัวข้อที่เป็นกระแสบน Weibo บ่อยครั้ง โดยมีการโต้ตอบเกิน 100 ล้านครั้งเลยทีเดียว
แม้ว่า จ้าวลู่ซือ มีเจตนาดีสำหรับการเดินทางไปทำการกุศลครั้งนี้ แต่ชาวเน็ตหลายคนก็พากันกล่าวหาว่าเธอแค่ "แสดงละคร" เพื่อให้คนทั่วไปกลับมาชื่นชอบ
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยเกี่ยวกับการกระทำต่างๆของ จ้าวลู่ซือ ตั้งแต่อาการป่วยและภาพขณะป่วยที่ถูกปล่อยออกมาบ่อยครั้ง สะท้อนให้เห็นว่า เธอสูญเสียความเชื่อใจและความปรารถนาดีจากผู้ชมไปไม่น้อย
เพราะก่อนหน้านี้ นักแสดงสาวยอมรับว่าเธอใช้ความเจ็บป่วยของตัวเองเพื่อการตลาด ซึ่งทำให้ผู้คนสูญเสียความไว้วางใจในตัวเธอ การที่เธอทำให้ผู้ชมมีความเห็นแตกแยก จึงเป็นเหมือนการปิดตายเส้นทางในวงการบันเทิงของของตัวเอง
แม้กระทั่งในช่วงที่เธอป่วยหนัก การเรียกร้องให้คว่ำบาตรและขึ้นบัญชีดำ จ้าวลู่ซือ ก็แพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากไม่เพียงแต่แสดงความไม่เห็นอกเห็นใจ แต่ยังแสดงความหงุดหงิดกับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นกลวิธีประชาสัมพันธ์ที่โจ่งแจ้งอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ บล็อกเกอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคนได้โพสต์วิจารณ์ จ้าวลู่ซือ โดยบล็อกเกอร์เขียนว่า
“ชื่อของ จ้าวลู่ซือ ปรากฎขึ้นในผลการค้นหาเกือบ 200 รายการในเวลาเพียงหนึ่งเดือนระหว่างที่เธอกำลังพักฟื้น และแค่วันเดียวหลังจากกลับมา ชื่อเธอขึ้นในผลการค้นหาเกือบ 30 ครั้ง และนั่นยังไม่นับรวมการค้นหายอดนิยมระหว่างการโปรโมตซีรีส์ ‘The Story of Pearl Girl’ การค้นหาเกี่ยวกับเธอส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยของเธอ ซึ่งกินเวลายาวนานให้คนพูดถึงตลอดช่วงปีใหม่และตรุษจีน แต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องอาการป่วยของเธอ คุณรู้สึกเห็นใจเธอจริงๆเหรอ? คุณเห็นอกเห็นใจกับความยากลำบากของเหล่าคนดังจริงเหรอ?”
ในขณะที่อินฟลูฯบล็อกเกอร์อีกราย ล้อเลียนเธอว่า “จ้าวลู่ซือ เป็นคนสองหน้า เธออ้างว่าเธอไม่อยากใช้พื้นที่สาธารณะ แต่หลังจากล้มป่วย เธอก็ไม่เคยหยุดพัก แต่กลับโพสต์รูปภาพและวิดีโอเพื่อสร้างกระแสแทน มันรู้สึกเหมือนการแสดงจริงๆ ถ้าคุณป่วย คุณควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่ามัวแต่หันไปหาความสนใจจากอินเทอร์เน็ต เพราะมันจะส่งผลเสียตามมา”
อย่างไรก็ตามบางคนก็ปกป้อง โดยระบุว่า “ไม่ว่า จ้าวลู่ซือ จะทำอะไร ยังไงคนก็คอยจับผิดและวิจารณ์เธออยู่ดี”
หลายๆคนจึงหวังว่า จ้าวลู่ซือ จะไม่กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลยุทธ์การเรียกร้องความสนใจอีกต่อไป
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า บล็อกเกอร์หลายคนกล่าวหาว่า จ้าวลู่ซือ และบริษัทของเธอได้บันทึกวิดีโอที่แสดงให้เห็นการต่อสู้ดิ้นรนของเธอในช่วงที่ป่วย แต่หลังจากรับรู้ถึงปฏิกิริยาของสาธารณชนที่หลากหลาย และวิจารณ์ไปในทางลบ พวกเขาจึงลังเลที่จะเผยแพร่วิดีโอเหล่านั้น
นอกจากนี้ การที่เธอโพสต์ข้อความเกี่ยวกับงานการกุศลและการช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวบ่อยครั้งก็ทำให้เกิดความสงสัยเช่นกัน บางคนเชื่อว่าการกระทำเหล่านี้เป็นเพียงการแสดงเพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น
ภาพลักษณ์ของ จ้าวลู่ซือ ตอนนี้ ถูกตีตราในความคิดของชาวเน็ตหลายๆคน ในฐานะ “ดาราที่คำนวณมาแล้วอย่างดีเพื่อเรียกร้องความสนใจ”
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงสำหรับ จ้าวลู่ซือ เพราะหากเธอยังคงเดินตามเส้นทางนี้ต่อไป เธออาจถูกตัดหางออกจากวงการบันเทิงตลอดไปก็เป็นได้
