xs
xsm
sm
md
lg

“แป๊ะซะ” ร้องไห้ ทำใจไม่ได้ เจ็บปวดให้ของ “แตงโม” ผ่านสังฆทาน “อะตอม” ตัด “กระติก” ออกจากสารบบเพื่อน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แป๊ะซะ” ร้องไห้ ทำใจไม่ได้ เจ็บปวดให้ของ “แตงโม” ผ่านสังฆทาน ด้าน “อะตอม” ไม่เคยเชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ตัด “กระติก อิจศรินทร์” ออกจากสารบบเพื่อน บอกเป็นคนที่น่ากลัว ทำได้ไงพาเพื่อนไปตาย แล้วหายกลับบ้านไป ความรู้สึกไม่ต่างจากคนไทยทั้งประเทศที่ได้ฟังนิทาน ภาวนาให้ความจริงเกิดขึ้นกับแตงโม

ครบรอบการจากไปแบบมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา พัชระวีระพงษ์” เข้าปีที่ 3 แล้ว วันนี้เพื่อนๆ นำทีมโดม “อะตอม สัมพันธภาพ” และ “แป๊ะซะ” ได้เป็นเจ้าภาพทำบุญเลี้ยงเพลพระ ถวายสังฆทาน ทำบังสุกุลให้กับแตงโม ที่วัดปากน้ำ จ.นนทบุรี (ซ.พิบูลสงคราม) ทำแป๊ะซะร้องไห้ออกมา ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องทำบุญผ่านสังฆทานเวลาจะให้อะไรเพื่อน

แป๊ะซะ : “ผมชวนอะตอม อยากทำบุญส่งพลังให้กับโม ส่งแรงบางอย่างให้กับโม เผื่อโมจะได้ช่วยเรื่องของคดีด้วย”

อะตอม : “แม้วันนี้โมจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วแต่อย่างน้อยก็อยากให้โมรู้ว่ายังมีเพื่อนที่รักเขาอยู่ ยังมีพี่ๆ ที่เป็นห่วงเขาอยู่จริงๆ ไม่เคยที่จะห่างไป ทุกคนก็ลุ้นกันให้คดีกลับมารื้อฟื้นใหม่เพื่อหาความยุติธรรมให้เพื่อนให้ได้ พยายามจะส่งจิตให้กับเพื่อนเพื่อขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ขอให้เขาดลบันดาลให้คนที่เรียกร้องหาความยุติธรรมให้ได้”

แป๊ะซะ : “ตอนจัดสังฆทานให้เขามันก็เศร้า เมื่อก่อนอยากจะซื้อ อยากจะเอาอะไรให้โม เราก็เอาไปให้เลย แต่ตอนนี้เราต้องมาเป็นถวายสังฆทาน ต้องผ่านพระ ทุกอย่างต้องผ่านการทำบุญ (ร้องไห้) มันก็เศร้า เสียใจและเจ็บปวด ผมรักโมมาก เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตผม ทำไมเราต้องมาทำบุญให้โม ทำไมเราไม่ชวนเพื่อนมากินข้าวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับโม อยากให้โมนำพลังที่พวกเราทำบุญให้วันนี้มาดลบันดาลให้ทุกอย่างมันจบสิ้นเสียที ใครทำอะไรไว้ก็ขอให้ได้แบบนั้น ไม่ว่าจะศาสนาไหนคุณก็ต้องได้รับผลของการกระทำทั้งนั้น”

อะตอม : “ตัวผมน้ำตาตกในนะครับ ยิ่งพอได้เห็นที่แฟนๆ เอารูป เอาพวงหรีดมีคำว่าทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม เรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะมาเกิดกับคนอย่างมันเลย”

เชื่อ “แตงโม” ไม่ได้ตกน้ำตาย
อะตอม : “เรารู้จักนิสัยเพื่อนเราดี ที่มีเจ้าหน้าที่บอกว่าโมไปนั่งฉี่ท้ายเรือ ต้องบอกว่าผมและพี่ๆ ที่สนิทกับแตงโมทุกคนไม่มีใครเชื่อเลยว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ แต่เราก็พยายามที่จะเชื่อเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งข้อมูลไปแบบนั้น แต่ถ้าถามใจพวกเรากันจริงๆ ผมไม่เชื่อเลย ผมรู้จักนิสัยของเพื่อนดี”

แป๊ะซะ : “เป็นไปไม่ได้เลย ตอนไม่เห็นภาพเราก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว แต่พอได้เห็นเหตุการณ์จำลองสถานการณ์ มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีทฤษฎีไหนจะมาล้มล้างความคิดของเราได้เลย คือโมไม่มีทางไปฉี่ท้ายเรือแบบนั้นได้จริงๆ โมมีนิสัยผู้ชายก็จริง มีความพิเรนทร์ แต่ความเป็นไปได้ที่เขาจะไปฉี่ท้ายเรือแล้วมีผู้ชายนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยมันไม่มีความเป็นไปได้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว

อะตอม : “ตัวผมเองพยายามจะเงียบเพราะเราเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไร ผมทำได้แค่ส่งกำลังใจให้พี่ๆ เหล่านั้นให้พวกเขาอย่าท้อในการทวงคืนความยุติธรรมให้เพื่อนเรา จริงๆ สิ่งที่พวกเขาทำและนำหลักฐานออกมามันก็สอดคล้องกับความคิดของเรา (เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม?) ผมได้แต่ภาวนาให้ความจริงมันเกิดขึ้นจริงๆ เราไม่มีสิทธิ์จะไปพูดหรือสรุปอะไรได้ เราคิดได้อย่างเดียวว่าขอให้ความจริงเกิดขึ้นกับเพื่อนของผม เราไม่กล้าจะพูดฟันธงว่ามันเป็นฆาตกรรม 100%”

ตัด “กระติก อิจศรินทร์” ออกจากสารบบเพื่อน บอกเป็นคนที่น่ากลัว ทำได้ไงพาเพื่อนไปตาย แล้วหายกลับบ้านไป
อะตอม : “ไม่ได้คุยเลยตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ตอนนั้นผมโทร.เข้าไปแล้วเขาไม่รับสาย จากนั้นผมก็ไม่ได้โทร.อีกเลย ก็อันฟอลโลว์ไป เพราะเราเองก็ไม่ได้อยากจะไปรู้จักเขาด้วย คือคนเป็นเพื่อนกัน เพื่อนหายไปเขาก็หายไป นี่คือวิธีการคบเพื่อนของเขาเหรอ สำหรับผมแบบนี้มันน่าจะใช่เพื่อน คุณกลับบ้านไปนอนหลับ ไปกินอิ่มกันได้ยังไงทั้งๆ ที่ยังหาร่างเพื่อนไม่เจอ คุณชวนเขาไป เขาหาย คุณก็กลับบ้านไปด้วย อย่างนี้เหรอที่เรียกว่าเพื่อน มันไม่ใช่อยู่แล้ว ผมเชื่อว่าโมไม่ได้ไปเพราะคนอื่นบนเรือ แต่ไปเพราะคนที่ชวน”

แป๊ะซะ : “(แตงโมถูกกระติกหลอกให้ขึ้นเรือ?) เพื่อนกันคงไม่น่าหลอกกันได้ ถ้าเขาคิดว่าโมเป็นเพื่อนเขา เขาก็ไม่น่าจะหลอกโมได้ แต่ถ้าเขาไม่ได้คิดว่าโมเป็นเพื่อน แต่อาจจะเพราะผลประโยชน์เขาก็อาจจะทำจริง ผมเดาแบบนี้นะ ก็เดาว่าคงจะเป็นไปตามนิทานที่หลายๆ คนออกมาเล่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะเป็นเพื่อนที่คบไม่ได้ ใช้ไม่ได้เลยทีเดียว เพื่อนกันต้องหลอกกันขนาดนี้เหรอ ทั้งๆ ที่เขาทั้งยกทั้งอุ้มชูช่วยเหลือ แต่กลับมาหลอกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง มันไม่ใช่ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะคิดได้รึเปล่า

ผมเคยเจอกับเขาล่าสุดเมื่อมีนาคมเมื่อปีที่แล้ว ก็ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องคดี แต่ว่าเขาไม่ตอบ เขาบอกเพียงแค่อย่าไปฟังข่าวมาก และช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขาก็อันฟอลฯ ผม ก็ไม่อะไรเพราะเราก็ไม่ได้จะไปอยากรู้จักกับเขาอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่น่ากลัวคนนึงสำหรับผม เขาพาเพื่อนทั้งคนไปตาย แล้วกลับบ้าน อีกวันหายไปไหนก็ไม่รู้ พอเจอโมพวกเขาก็โผล่กันมา”

ความรู้สึกไม่ต่างจากคนไทยทั้งประเทศที่ได้ฟังนิทาน ภาวนาให้ความจริงเกิดขึ้นกับ “แตงโม”
อะตอม : ”ความรู้สึกผมไม่ต่างจากที่คนไทยทั้งประเทศรู้สึก ก็คิดเหมือนกันทุกคนที่เสพข่าวนี้อยู่ ก็ได้แต่ภาวนาให้ความจริงมันเกิดขึ้นโม”

แป๊ะซะ : “ตอนนี้เหมือนฟ้ากำลังจะเปลี่ยนสีแล้ว ผมก็อยากจะออกมาให้กำลังใจคนที่ช่วยเพื่อนผมอยู่ ตอนผมรู้ข่าวโมเสียชีวิต ใจผมจะขาด ผมอยู่ในเรือนจำ 1 ปี ถ้าผมอยู่เผลอๆ โมคงไม่มาตายแบบนี้ ผมคิดว่าผมดูแลโมได้ดีกว่าทุกคนบนเรือแน่นอน คนๆ นั้นคงไม่ได้มาหลอกโมแบบนี้ ผมก็จะดูแลและปกป้องได้ดีกว่า”

อะตอม : “เงินซื้อผู้หญิงคนนี้ไม่ได้”

อยากให้ “เบิร์ด เทคนิค” เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ DSI แบบไม่ต้องรอนัด คดีจะได้เดินหน้าเร็ว
แป๊ะซะ : “ความคิดคนเรามันห้ามกันไม่ได้ มันก็แล้วแต่ว่าใครจะคิดยังไง เขาก็ไม่ผิด ก็ต้องรอดูต่อไป”

อะตอม : “ผมเองก็ไม่ได้คุยกับเบิร์ดเลย มีแต่ทักทายตามโซเชียล คุยกันทั่วไปไม่เกี่ยวกับคดี”

แป๊ะซะ : “เบิร์ดเขายังเสียใจก็เป็นเรื่องปกติ คนที่ไม่เสียใจสิ แปลกๆ นะ มันผิดปกติ ตอนนี้อาจจะมีกระแสออกมากดดันเบิร์ดให้ออกมาให้ข้อมูลกับ DSI ผมเองก็มองว่าอยากจะให้เบิร์ดออกมาให้ข้อมูลเร็วขึ้น คดีมันจะได้คืบหน้า มันเป็นประโยชน์กับโมอยู่แล้ว ผมอยากให้เขาเข้าไปเลยทุกอย่างมันจะได้ก้าวกระโดดถึงฝันเร็วๆ”



























กำลังโหลดความคิดเห็น