“หมอสอง” แอบมีน้ำตาพ่อแม่อวยพร วิวาห์ “น้องออน” ลั่นท้องยังแบน ยังไม่ได้ท้อง แต่พร้อมท้องทันทีหลังฮันนีมูล เล็งพึ่งวิทยาศาสตร์ อยากมีลูก 4 คน สินสอด 9 กะรัต เลขมงคล “น้องออน” สารภาพตอนแรกจีบก็แอบกลัวฝ่ายชายเรื่องความเจ้าชู้ แต่พอคบกันแล้วทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ บอกจะทำคอนเทนต์ต่อไป เพราะแฟนคลับให้การต้อนรับดีมาก ตกต่างชาติได้อื้อ
จูงมือเข้าพิธีฉลองมงคลสมรสพระราชทานเป็นที่เรียบร้อย สำหรับอินฟลูเอนเซอร์สาว “ออน สมฤทัย สางชัยภูมิ” กับ “หมอสอง นพ.นพรัตน์ รัตนวราห” ซึ่งทั้งคู่ก็มาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงบรรยากาศเมื่อช่วงเช้ากับพิธีหมั้น ณ ห้องแกลเลอรี่ 1 ชั้น 4 โรงแรมเดอะริทช์-คาร์ลตัน โดยเผยว่างานนี้แอบมีน้ำตาซึมกันเล็กๆ เพราะเห็นญาติๆ มากันเยอะ และได้รับคำอวยพรจากคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายด้วย
ออน : “คือเราไม่เคยเห็นงานเช้ามาก่อนเลย แล้วมาเห็นครั้งแรกในงานตัวเอง เป็นงานหมั้นของตัวเองไปเลย แอบอยากรู้สึกว่าเขาทำอะไรกันอยู่ แอบไปดูได้ไหม ก็ไม่ได้ดู ตื่นเต้นมาก แอบมีร้องไห้นิดนึง (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าพอเห็นหน้าญาติๆ และเขามีความสุขกันหมดเลย ญาติทั้งสองฝั่ง ก็รู้สึกว่าแฮปปี้มาก เขาคงภูมิใจในตัวเราที่เรามีวันนี้ก็ดีใจเหมือนกันค่ะ”
หมอสอง : “งานเมื่อเช้าผ่านไปได้ด้วยดี แล้วก็สนุกมากครับ ก็มีญาติหลายท่านมาจากต่างจังหวัดก็อุตส่าห์มา แล้วก็ได้มาเจอการรวมตัวญาติครับ งานเช้าก็จะมีแต่ญาติเท่านั้น แต่เดี๋ยวงานเย็นก็เรียนเชิญแขกมาร่วมสนุกกัน มีเซอร์ไพรส์หลายอย่างเลยครับ เมื่อเช้าก็มีน้ำตาซึมนิดๆ นะครับ คุณแม่ก็เข้ามาอวยพรกอดน้องออน กอดผม คุณแม่ก็เสียงสั่นๆ นิดนึง เราก็เริ่มเก็บอารมณ์ไม่ค่อยได้ เริ่มมีคลอๆ เหมือนกัน ญาติผู้ใหญ่ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อน้องออนและคุณแม่ผมก็พูดอวยพร ก่อนจะมางานก็รู้สึกว่าคงไม่เป็นไรหรอก แต่พอมานั่งตรงนั้นและเขาพูดจริงๆ ความรู้สึกเรามันตื้นตัน มีความสุข เขาก็อวยพรให้เรามีความสุข ก็แฮปปี้มากครับ”
ออน : “คุณพ่อจะเป็นคนพูดน้อยค่ะ แต่ท่านก็จะบอกว่าให้เกียรติกัน ให้อภัยกันและเคารพกัน คงอยากให้เราอยู่ด้วยกันได้ยาวๆ ก็อยากให้เคารพและรักกันไปเรื่อยๆ ซื่อสัตย์ต่อกัน”
หมอสอง : “เรื่องสินสอดจริงๆ ไม่อยากไปเน้นตรงนั้นมากนะครับ ก็เป็นเลขมงคลครับ เราก็จะมอบแหวนให้น้องออนน่าจะเป็นสื่อแทนความรักมากกว่า ก็มีแหวนประมาณ 5 กะรัตและมีต่างหูก็ข้างละประมาณ 4 กะรัตครับที่น้องใส่อยู่ รวมกันเป็น 9 ก็เป็นเลขมงคลครับ”
บอกไม่เคยมีคำมั่นสัญญาให้กัน แต่จะทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติที่สุด
หมอสอง : “จริงๆ เราไม่ค่อยสัญญาอะไรกัน ที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็มีความสุขแล้ว ก็ทำทุกวันให้มันดีที่สุดต่อไป พยายามรักษาความรู้สึกดีๆ ต่อกันให้เป็นธรรมชาติ”
ออน : “สำหรับตัวน้องออนก็รู้สึกว่าทุกวันนี้ดีมากอยู่แล้ว ไม่ได้คาดหวังอะไรในอนาคต แค่อยากทำให้มันดีที่สุดในทุกๆ วันค่ะ”
หมอสอง : “สิ่งที่ประทับใจในตัวน้องออน แน่นอนว่าเขาสวย (หัวเราะ) หุ่นดี น่ารัก อยู่ด้วยแล้วสดชื่น อันนี้คือด่านแรกที่เราเจอเขา เริ่มแรกก็ลองจีบ ลองคุยกับเขาก่อน นิสัยเข้ากันได้ไหม ก็ค่อยๆ เรียนรู้กัน เลยยิ่งรู้ว่าเคมีมันตรงกัน มีหลายๆ อย่างที่คล้ายๆ กัน พอมาจูนกันก็เลยค่อยๆ เข้ากันได้ ผมรู้สึกว่าถึงเขาจะยังเด็กก็จริง แต่เขามีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ และเขาขยันพัฒนาตัวเองอยู่เสมอตลอดเวลา ความคิด ทัศนคติต่างๆ ก็ค่อนข้างจะตรงกัน”
ออน : “ต้องบอกว่าตอนแรกเราก็แอบกลัวนิดนึง (หัวเราะ) แต่ไปๆ มาๆ รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นธรรมชาติดีค่ะ เขาเป็นคนที่ใจเย็น ให้คำปรึกษาเราได้ มีความเป็นผู้ใหญ่ ที่สำคัญทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น พัฒนาตัวเอง ซึ่งหลายๆ อย่างเราก็นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราในการทำงานหรือการใช้ชีวิต ก็ได้เรียนรู้จากพี่สองมาเยอะอยู่”
เล่าซีนประทับใจในวันขอแต่งงานบนยอดเขาประเทศนิวซีแลนด์
หมอสอง : “ซีนนั้นหนาวมาก วันนั้นก็เป็นทริปครอบครัว มีครอบครัวผมไปค่อนข้างครบเลย และเราก็ตั้งใจจะขอแต่งงานมานานแล้ว ผมเชื่อว่าน้องเขาก็แอบๆ รู้ว่าเราจะขอแต่งงานหรือเปล่า เขาก็ชอบมาแซวเล่นว่าต้องทำเล็บไหมนะ (หัวเราะ)”
ออน : “พี่สองเป็นคนที่มีแพลนอยู่แล้ว เขาก็จะบอกว่าสเต็ปถัดไปเริ่มจริงจังมากขึ้นแล้วนะ สเต็ปต่อไปวางแผนไว้ยังไง ก็เลยรู้สึกว่ามันต้องทริปไหนสักทริปนึง มีหลายทริปมาก”
หมอสอง : “ก่อนหน้านั้นเราก็ไปออสเตรเลียกัน ถัดมาใกล้ๆ ก็ไปนิวซีแลนด์ ก็จะพยายามไม่ให้เขารู้แหละ เราก็เตรียมตัวไปคิดว่าตรงไหนจะเหมาะที่สุด ก็คิดว่าต้องเป็นยอดเขาเพราะนิวซีแลนด์ยอดเขามันสวย เราก็นึกถึงภาพยอดเขาที่มีหิมะปกคลุม อยากขึ้นไป แต่จะขึ้นไปยังไง ก็ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไป น้องออนเคยบอกว่าไม่เคยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ผมก็เลยคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เราก็ไปเช่าเฮลิคอปเตอร์เหมาลำสองลำ เพราะมีญาติไปประมาณ 8 คน ก็ทำเป็นบอกเขาว่าจะขึ้นไปดูวิว พอถึงยอดเขาทุกคนก็ลงไป ผมเตรียมไว้หมดแล้ว ทั้งแชมเปญใส่หลังเฮลิคอปเตอร์ไป แล้วก็มีช่อดอกไม้ใส่ลังซ่อนไป”
ออน : “ถ้าไปย้อนดูในคลิป เสียงพี่สองสั่นด้วยนะคะ”
หมอสอง : “เราก็คิดว่ามันคงไม่มีฟีลลิ่งอะไรหรอก แต่พอไปถึงตรงนั้นจริงๆ ความรู้สึกมันตื้นตัน มันจุกอก ถึงเวลาที่เราต้องพูดจริงๆ แล้ว มันเป็นโอกาสที่สำคัญ ตอนนั้นก็เสียงสั่นนิดนึง ก็ขอเขาแต่งงานท่ามกลางญาติๆกัปตันเครื่องบินก็น่ารักมาก ทำตามแผนทุกอย่าง เขาก็เอาแชมเปญมา เอาดอกไม้มาตามซีนที่ต้องการเป๊ะเลย”
ออน : “ออนก็คิดว่าไม่ทริปไหนก็ทริปนึง ก็พยายามทำตัวน่ารักทุกทริป หลังๆ ก็ทำเล็บทุกทริปเลยค่ะ และเขาดูภูมิใจมาก เขามาเล่าให้ฟังว่าพี่เตรียมอะไรยังไงบ้าง ชอบไหม มารีวิวให้ฟัง”
หมอสอง : “อยากให้เขาประทับใจ อยากให้เป็นโมเมนต์นึงที่ประทับใจจริงๆ ก็ได้อย่างที่หวังครับ จริงๆ วันนี้เป็นวันฉลองมงคลสมรส ก็คือว่าเราได้แต่งงานกันไปแล้ว เป็นวันที่เราเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ ได้จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว เป็นพระกรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้นะครับ ที่เราทั้งสองคนได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯ พร้อมกับครอบครัวเราทั้งสองฝ่าย เป็นความปลาบปลื้มแบบไม่คาดฝันจริงๆ เรารู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติกับตัวเราทั้งสองคนและวงศ์ตระกูลของเรามากๆ ครับ วันนี้ก็จะเป็นวันที่เรามาฉลองมงคลสมรสพระราชทานครับ”
บอกเตรียมแพลนมีทายาททันทีหลังฮันนีมูน เพราะอยากมีลูก 4 คน
หมอสอง : “จริงๆ ช่วงที่เราไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่อเมริกาก็มีคนแซวน้องเยอะ (หัวเราะ) แต่ไม่ใช่นะครับ วันนี้ท้องยังแบนอยู่นะครับ ก็หลังจากนี้เราแพลนจะมีน้องกันครับ ตั้งใจไว้อยู่แล้วครับ เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ พอหลังจากแต่งงานก็จะเริ่มแพลนมีน้องกันเลยครับ ก็อาจจะใช้วิทยาศาสตร์ช่วยหน่อยครับส่วนแพลนฮันนีมูนจริงๆ ยังไม่กล้าแพลนมาก เพราะเราแพลนจะมีน้อง และถ้ามีจริงๆ คุณหมออาจจะห้าม แต่ปรากฏว่ามาเช็กตารางกับคุณหมอแล้วเรายังมีช่วงว่าง ก็เลยแพลนทริปไปฮันนีมูนกัน คิดว่าน่าจะไปที่เซาท์แอฟริกาใต้ครับ อยากไปดูสัตว์กัน ด้วยความที่เราเหมือนกันคือชอบดูสัตว์ ก็เลยอยากพาน้องเขาไปดูสัตว์จริงๆ ก็แพลนหลังจากแต่งงานสักอาทิตย์นึงก็จะไปเที่ยวกันต่อครับ กลับมาก็ไปหาคุณหมอเรื่องน้องอีกที ถามว่าจะเอาแฝดเลยไหม อันนี้ต้องปรึกษาคุณหมออีกทีในเรื่องรายละเอียดดีกว่าครับว่าอย่างไหนดีต่อสุขภาพเรา เพราะสมัยนี้คนก็มีลูกกันมากขึ้น ก็อาจจะต้องให้คุณหมอช่วย”
ออน : “แต่คุณหมอบอกว่าของเราโอเค แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจอีกทีนึง เพราะว่าแฝดเขาค่อนข้างจะใหญ่ ก็ต้องวางแผน”
หมอสอง : “เบื้องต้นเราอยากมีสองคนก่อน เพราะไม่อยากมีลูกคนเดียว แต่ในอนาคตก็ค่อยดูอีกว่าเราอยากมีอีกไหม ถ้าอยากมีก็อาจจะมีอีก แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน 4 คน (หัวเราะ)”
ออน : “รอดูฟีลก่อนค่ะ”
แอบงงภรรยามีคนรู้จักเยอะมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ
หมอสอง : “เรื่องงานก็แล้วแต่เขาเลยครับ”
ออน : “หยุดไม่ได้ เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่งเลยค่ะ เป็นคนหาทำตลอดเวลาจริงๆ อะไรก็ได้”
หมอสอง : “จะบอกว่าเซอร์ไพรส์มากไม่ว่าจะไปประเทศไหน ไปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา หรือตามสนามบินทุกคนจะเข้ามาขอถ่ายรูปเขาผมก็งงว่าทำไมคนต่างประเทศถึงรู้จัก ทำไมเขาจำเราได้ งงมาก”
ออน : “เขามาขอให้เราพูดว่า Thank you kateyki (หัวเราะ) เขาก็จะฟิน เหมือนอยากได้ยินจริงๆ”
หมอสอง : “ผมก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ อย่างเวลาเราอยู่ประเทศไทย คนก็อาจจะรู้จักเรามากกว่าน้องออนในช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเราเลย ไปไหนมีแต่คนขอถ่ายรูปออน (หัวเราะ) เวลาไปต่างประเทศยิ่งหนักเลย คนมาขอถ่ายรูปเยอะมาก บางคนเขาจำได้ขนาดไม่ได้แต่งหน้า”
ออน : “ออนก็แฮปปี้ค่ะ แฟนคลับน่ารักมาก เป็นพลังให้เราด้วย วันนึงออนทำหลายคลิปมากนะคะ แต่รู้สึกว่าไม่เหนื่อยเลย มันมีความสุข เพราะตอนถ่ายมันต้องกลั้นขำแบบสุดๆ พอถ่ายเสร็จคนขำกันลั่นเลย เหมือนมาแฮปปี้ด้วยกัน ไม่ได้เหมือนมาทำงาน”
