หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาว “ใบเตย สุธีวัน กุญชร” หรือ “ใบเตย อาร์สยาม” ได้ไปออกรายการแฉเมื่อวันก่อน ทางพิธีกรหลักอย่าง “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” ก็ได้เอาบางช่วงบางตอนมาเล่าให้ฟังในรายการข่าวใส่ไข่ โดยบอกว่าตลอดเวลาการสัมภาษณ์ตนแทบไม่กล้าถามอะไรเลย เพราะใบเตยเปลี่ยนไปมาก จากที่เคยพูดเก่งๆ แต่ครั้งนี้มีอาการวิตกกังวล มือสั่นตลอดเวลา ซึ่งใบเตยเผยว่าเกิดจากอาการป่วยแพนิกตั้งแต่ออกจากเรือนจำ อยู่คนเดียวไม่ได้ จากผู้หญิงที่เคยร่าเริง พูดแจ๊ดๆ กลายเป็นคนนิ่ง นิดนึงก็จะร้องไห้ ด้าน “ลุกซ์” น้องชายใบเตยก็เผยว่า ตั้งแต่ออกมาสิ่งเดียวที่พี่สาวจะมีความสุขที่สุดคือเวลาร้องเพลง แต่พอกลับบ้านก็จะนั่งซึม
ซึ่งมดดำได้เล่าอีกว่า ก่อนเข้ารายการก็ดีขึ้นนิดหน่อย แต่พอเข้ารายการก็มีอาการเหม่อลอย มือสั่น ตอนนี้เจ้าตัวเป็นผู้ป่วยจิตเวช เป็นตั้งแต่ตอนที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือน เวลาจะขึ้นเวทีก็สั่นไปหมด ไม่กล้าขึ้น โดยทางรายการได้ตัดเอาคำพูดบางช่วงของใบเตยที่บอกว่า
“อยากแยกแยะทุกอย่างในชีวิตให้มันดีที่สุด เห็นใจหนูหน่อย หนูไม่ไหวกับการที่ต้องมานั่งเจออะไรแบบนี้อีก ถามว่าสิ่งที่เจอที่ได้รับรู้กันไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่หนูเจอมันเลวร้ายกว่านั้นเยอะมาก หนูเจอมากกว่านั้นเยอะมาก หนูเจออะไรหลายอย่างที่ต้องยอมรับว่าการกระทำลักษณะอะไรแบบนี้ ใครที่มีคดีใบเตยเชื่อว่าทุกคนเจอหมด หลังจากเกิดเรื่องนี้ใบเตยได้รับข้อความจากทุกช่องทางเยอะมาก ว่ามีคนเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหมด ซึ่งเราคือคนนึง ใบเตยไม่เคยได้เล่าผ่านรายการว่าหนูเจอและครอบครัวหนูเจอเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่เป็นใครก็ได้ เจอทุกรูปแบบ ทุกอาชีพ หนูจะบอกว่าอันนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ทุกคนว่าอาชีพนี้มีอยู่จริง”
จากนั้นมดดำก็พูดว่า ตนได้ถามว่าได้คุยกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” หรือยัง ปรากฎว่าใบเตยมีอาการสั่นขึ้นมาอีก เพราะใบเตยเพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มา ใบเตยบอกอีกว่านอกจากตนจะติดคุกแล้ว อยู่ดีๆ คนในบ้านก็ตาย แฟนน้องก็ตาย ได้ไปรู้ตอนอยู่ในคุก ทุกวันนี้ต้องหาหมอจิตเวช ต้องกินยา พร้อมกับพูดถึงเรื่องที่ “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” โพสต์ลงในไอจีว่าต่อไปนี้จะใจเย็นลง
ทั้งนี้มดดำยังบอกอีกว่าพอมีข่าวว่าทาง “บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว” จะขอเรียกตัวทั้งใบเตยและดีเจแมนเข้าไปให้ปากคำปมเงิน 14 ล้าน ใบเตยก็ยิ่งกลัว ไม่กล้าพูดอะไรเลย ซึ่งขนาดตนเป็นคนถามคำถามยังรู้สึกว่าไม่อยากถาม ซึ่งใบเตยก็บอกว่าชีวิตตนก็แย่มาตลอด ถ้าต้องไปแตะกับเรื่องราวแย่ๆ อีก หรือถ้าต้องไปโยงเกี่ยวกับคนอื่น ตนไม่ขอข้องเกี่ยวแล้ว ที่ผ่านมามันปวดใจมาก เครียดมาก เป็นซึมเศร้าหนักมาก พอมาเจอเรื่องแบบนี้มันเหมือนภาพเก่าๆ กลับคืนมาว่าต้องมานั่งพูดอะไรอีก หวาดระแวงกับการที่ต้องเจออะไรแบบนี้
ส่วนกับฟิล์มยังไม่ได้คุยรายละเอียด ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไร และไม่อยากจะพูดถึงเหตุการณ์นี้ด้วย มันกระทบต่อจิตใจ ให้ไปพูดอะไรเดิมๆ เจอภาพเดิมๆ มันแย่นะ อะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วหรืออะไรที่ทำให้ชีวิตเราต้องกลับไปเจออะไรแบบเดิมๆ ก็รู้สึกว่าให้มันจบลงตรงนี้ดีกว่า ไม่อยากจะพาดพิงใครอีกแล้ว
