“นก จริยา” ยอมรับวิกฤตละครทำให้ตัดใจขายที่สวย 30 กว่าไร่ที่จ.จันทบุรี แก่แล้วดูแลไม่ไหว อายุ 60 เริ่มเคานต์ดาวน์ จัดการไว้เผื่อเสียชีวิต ลูกๆ จะได้ไม่ตีกัน ลั่นชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน แพลนย้ายครอบครัวไปอยู่ที่เขาใหญ่
หลังออกมาประกาศตัดใจขายที่ดินสุดรัก 30 ไร่ ติดกับเขาสอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งที่ดินนี้ติดเนินเขา อากาศดีทั้งปี แถมมีสวนทุเรียนที่เก็บเกี่ยวผลได้แล้ว ล่าสุดนักแสดง-ผู้จัดละครสาว “นก จริยา แอนโฟเน่” ก็ออกมาเปิดใจว่า ดูแลไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้แก่แล้ว อนาคตอยากย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตอยู่เขาใหญ่
“แก่แล้วดูแลไม่ไหว คือตอนที่เราทำงานกันเยอะๆ เราก็ซื้อไว้ เรามองว่าอยากเก็บเป็นที่ดินอยากเก็บเป็นข้าวของ แต่พออายุขนาดนี้แล้วเราจะรู้ว่าอยู่ที่ไหนจะทำอะไร เราเลยคุยกับ จอนนี่ แอนโฟเน่ ว่าถ้าอะไรเกินตัวที่เราต้องดูแล ผ่อนออกไปบ้างไหม เพราะกลัวดูแลไม่ไหว แล้วใครที่เข้าไปดูที่ๆ ของเรา เขาจะบอกว่าเราดูแลดีมาก ก็มีทุเรียนแล้ว เก็บแล้ว ขายแล้ว
คือเป็นที่ๆ พี่จอนนี่ กับพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ซื้อไว้คนละครึ่ง ซื้อไว้เป็น 10 ปีแล้ว และก็ดูแลแบบนี้ เราตัดใจมากเลยเพราะเป็นทั้งเนินเขาและสวนทุเรียน พื้นที่ทั้งหมด 30 ไร่กว่า เราอยากเจอเนื้อคู่อยากเจอคนที่เขาอยากดูแล ส่วนราคาก็ปกติตามท้องตลาดเลย เพราะมันเป็นเนินเขา เป็นสวนทุเรียน ติดโรงพยาบาล ติดที่ทำการอำเภอ มันสะดวก”
รับหลังประกาศขายที่ดิน มีคนติดต่อมาขอซื้อเยอะ
“เราซื้อรวมกันไว้สองคน แต่ก็หลายสิบล้านอยู่ ลูกๆ กับสามีเราก็คุยกันแล้ว เราตั้งใจไปอยู่เขาใหญ่ เราดูแลหลายที่ไม่ไหว มันเป็นเนินเขา มองเห็นเขาสอยดาว 360 องศา อากาศดีมาก ไม่ได้คุยเวอร์ไปนะ คนที่เขาไปดูมักจะบอกพื้นที่สวย ชอบ มีคนติดต่อเข้ามามากด้วย แต่ก็ต้องให้เขาคิดดูก่อนว่าจะเอาไปทำอะไร จะไปทำเป็นสวนทุเรียน หรือจะไปทำเป็นรีสอร์ต”
บอกชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เตรียมย้ายไปใช้ชีวิตที่เขาใหญ่
“รู้สึกเสียดาย แต่อย่างที่บอกต้องเริ่มจัดการชีวิตตัวเอง นี่เริ่มเคานต์ดาวน์ อายุ 60 เริ่มต้องจัดการไว้เผื่อเสียชีวิตวันไหนลูกหลานจะได้ไม่ตีกัน มีเตรียมวางแผนแล้ว ก็ยังทำงานตราบที่ยังทำไหว ยังดูแลบริษัทอยู่ ยังทำละครอยู่ เล่นเป็นยายเป็นย่ารับหมด เราไม่รู้ชีวิตมันไม่แน่นอน เราว่าตอนนี้การวางแผนมันคือดีที่สุด”
รับวิกฤตละคร ทำให้ตัดใจขายที่ดิน
“มันมีผลๆ เรามองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ เราอาจดูแลเยอะ เราก็ดูกำลังเราว่าไหวไม่ไหว มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราสะสมมาเป็นทุนทรัพย์ของเราอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่รู้อีกหน่อยเศรษฐกิจไม่ดี เราก็ไม่รู้จะขายได้หรือไม่ได้
เราจะคิดว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นยังไง เราควรจะแบกอะไรไว้ หรือทำอะไรที่เหมาะพอตัวที่เราไม่หนักมากจนเกินไป มันเหมือนทำธุรกิจอย่างหนึ่งซื้อที่ตรงนั้นตรงนี้แล้วพัฒนาขายไป”
ไม่เงื่อนไขให้สิทธิ์เจ้าของคนต่อไปร้อยเปอร์เซ็นต์
“ไม่มีๆ อะไรที่ขายไปแล้ว เราต้องให้สิทธิ์คนที่เขาเป็นเจ้าของคนต่อไป ไม่มีเงื่อนไข เพียงแต่อยากให้ได้เนื้อคู่ของเขาจริงๆ
จริงๆ การขาย พี่จอน จะมองเป็นส่วนใหญ่ แล้วมาตกลงกันในครอบครัว ที่ตรงไหนเราได้ไปอยู่ ที่ตรงไหนเราได้ค้าขาย ก็เป็นการประชุมกันในครอบครัว”
