วิล สมิธ นักแสดงชื่อดังจาก Men in Black ยังคงมีความรู้สึกติดค้างกับ คริส ร็อก เกือบ 3 ปีหลังจากเหตุการณ์ตบกลางเวที ออสการ์ 2022 ซึ่งทำให้ชีวิตและอาชีพของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ คริส ร็อก พูดล้อเลียนเกี่ยวกับ เจด้า พิงเก็ตต์ สมิธ ภรรยาของ วิล ที่ป่วยเป็นโรค alopecia (ผมร่วงเป็นหย่อม) จนทำให้ วิล เดินขึ้นไปตบหน้า คริส บนเวที
แม้ วิล สมิธ จะได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง King Richard ในคืนนั้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับบดบังความสำเร็จของเขาอย่างสิ้นเชิง และนำไปสู่ผลกระทบมากมายต่ออาชีพของเขา รวมถึงการถูกแบนจากงานของ Academy เป็นเวลา 10 ปี และโครงการภาพยนตร์หลายเรื่องต้องล่าช้าออกไป
แหล่งข่าวจาก OK! Magazine เผยว่า วิล สมิธ ยังคงโทษ คริส ร็อก ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของเขาพังพินาศ โดยกล่าวว่า "เขาจะไม่มีวันให้อภัย คริส ที่ทำลายชีวิตเขา แม้ว่าในปีที่ผ่านมาเขาจะพยายามกู้ชื่อเสียงกลับมาได้บ้าง แต่เขายังคงเกลียดท่าทีหยิ่งผยองของ คริส"
ในขณะที่ คริส ร็อก เองก็ยังคงพูดถึงเหตุการณ์นี้ซ้ำ ๆ ในการสัมภาษณ์และการแสดงตลกของเขา อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะรับคำขอโทษจาก วิล สมิธ ที่เขาได้เผยแพร่ผ่านวิดีโอหลังจบงาน ออสการ์ 2022 แหล่งข่าวเผยเพิ่มเติมว่า "คริส เองก็ยังคงถูกหลอกหลอนจากเหตุการณ์นั้น เขาทนทุกข์จาก PTSD และยังไม่สามารถฟื้นตัวจากการถูกตบครั้งนั้นได้เหมือนกัน"
วิล สมิธ เชื่อว่า คริส “ไม่ใช่เหยื่อ” และเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ คริส ประสบปัญหาในอาชีพการงาน แหล่งข่าวระบุว่า "หลายคนเห็นด้วยกับ วิล และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ คริส เป็นกรรมที่เขาสมควรได้รับ เพราะเขาปฏิเสธที่จะพูดคุยหรือยอมรับคำขอโทษของ วิล"
