“พีท ทองเจือ - เจ็ง วิไลลักษณ์” ยอมรับใจหาย ลูกๆ โตกันหมดแล้ว “เซย่า” เพิ่งกลับจากอังกฤษ “มิย่า” กำลังจะไปเรียนต่อฝรั่งเศส 1 ปี เจ็งเผยที่ผ่านมายกชีวิตและเวลาให้ลูก จนเพื่อนเลิกคบ ไม่มีเวลาให้ตัวเอง ตอนนี้ไม่ติดลูกแจ ออกมาให้ลูกๆ ได้ใช้ชีวิต เริ่มกลับมามีชีวิตของตัวเองแล้ว
เป็นครอบครัวที่สัมพันธ์แน่นแฟ้น เห็นพ่อแม่ก็ต้องเห็นลูก ตัวติดหนึบกันไปตลอด แต่ล่าสุด “เซย่า” ไปเรียนคอร์สสั้นๆ ที่อังกฤษ ทำเอาคุณแม่ “เจ็ง วิไลลักษณ์ ทองเจือ” เศร้าคิดถึงเลยทีเดียว ล่าสุด “มิย่า” ลูกสาวอีกคนก็มีแพลนจะไปเรียนที่ฝรั่งเศสอีก 1 ปี งานนี้ เจ็ง ควงแขน พีท ทองเจือ และ น้องเซย่า-น้องมิย่า เผยระหว่างมาร่วมงานแถลงข่าวDisney On Ice Presents “Find Your Hero” ยอมรับว่าใจหาย ตอนนี้ลูกๆ โตกันหมดแล้ว
เจ็ง : “แค่กระพริบตาเซย่าก็กลับมาแล้ว ก่อนไปรู้สึกว่านาน แต่พอไปแล้ว ลูกบอกจะกลับแล้วนะ เราห๊ะ จะกลับแล้วเหรอ เรียนเสร็จแล้วเหรอ น้องก็ไปเรียนมา 5 เดือน เอาจริงๆ มันก็เร็วมากเลย”
เซย่า : “ก็เป็นอะไรที่สนุกค่ะ แต่ก็แตกต่างมากๆ จากที่เคยไปใช้ชีวิตที่เกาหลี ที่อังกฤษจะง่ายกว่า เพราะมีคนใช้ภาษาอังกฤษ สนุกค่ะ แต่เอาจริงๆ คิดถึงเมืองไทยมาก เพราะที่เมืองไทยมีเซเว่น ที่โน่นของแพง”
พีท : “ที่โน่นซื้อได้ไม่กี่ชิ้น ที่นี่ได้ถุงใหญ่มาก”
เจ็ง : “ลูกบอกไปโน่นหนูกินแต่ไข่กับไก่ เราก็ถามทำไมลูก เขาบอกซื้อไม่ลง มันแพง กินไข่ทุกวัน ไม่ต้องขนาดนั้นลูก”
เรียนไม่ยาก
เซย่า : “ไม่ยากเลยค่ะ ความยากง่ายพอๆ กับที่ไทย แต่คอมมูนิตี้จะต่างกัน ทุกคนจะตั้งใจกันมาก บางทีไม่คุยกันด้วยซ้ำเพราะตั้งใจเรียนกันมาก”
เจ็ง : “เราก็กลัวลูกจะเหงาเลยส่งมิย่าไปเซอร์ไพรส์ พ่อกับแม่ว่าจะตามไป ไม่ทันได้ไปลูกจะกลับแล้ว”
เซย่า : “ตอนที่น้องมาน้องบอกให้อูเบอร์หลอกเราว่ามีของมาส่ง แล้วมันดูน่ากลัว เขาพาไปหลังรถแล้วก็เปิดประตูให้ แล้วมิย่าก็เปิดประตูมา ซึ่งมิย่าไม่ได้อยู่หลังรถ แต่โผล่มาก ก็ตกใจมาก ไม่เคยคิดเลยว่ามิย่าจะมา ร้องไห้เลย”
เจ็ง : “ในคลิปร้องไห้ร่ำลากันเหมือนไปเป็นปี มันร้องออกมาเองแบบนั้นจริงๆ นะ ตอนแรกลูกจะไปก็ไม่ได้อะไร แต่พอถึงเวลาจริงมันร้องเองแบบหยุดไม่ได้ ขึ้นรถจะกลับบ้านแล้วก็ยังคงร้องอยู่ มันก็ใจหายเราอยู่ด้วยกันตลอด แล้วเขาต้องไปไกลมาก ไม่ได้ไปประเทศใกล้ๆ ที่เรารู้สึกว่าไปง่ายๆ ชาวเน็ตให้กำลังใจเยอะมาก เพราะคิดถึงลูก ตอนไปก็โทร.คุยกันทุกวัน คอลหากันแทบจะตลอดเวลา เขาก็น่ารักพอถึงเวลาเขาก็โทร.มาหาแม่เองทุกวัน”
มิย่า : ”ตอนอยู่ด้วยกันทะเลาะกันบ่อย แต่พอห่างกันก็ได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม”
เจ็ง : “ตอนอยู่ด้วยกันก็มีตึงๆ กันบ้าง แต่ไปแล้วก็ดีขึ้นเยอะเลย เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้น พออยู่ด้วยกันมันก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พอไม่ได้อยู่ด้วยกันความห่างมันก็ทำให้เราคิดอะไรได้มากขึ้นในหลายๆ อย่าง แค่พูดก็น้ำตาจะไหลอีกแล้ว”
พีท : “จริงๆ ก็ไม่อยากให้ไปหรอก แต่เขาเองก็เคยผ่านที่เกาหลีมาแล้ว ที่นั่นโหดกว่าเยอะ ที่นี่เรามั่นใจเรื่องภาษา ด้วยเมืองที่เขาอยู่ก็ปลอดภัย แทบจะไม่ลุ้นอะไรเลย ลุ้นอย่างเดียวคือให้เขาได้เพื่อนใหม่ๆ ที่ดี ไม่มีการนำพาไปทำสิ่งที่เสียหาย ทุกอย่างโอเคหมด เราจะเป็นห่วงเรื่องการเจอคนใหม่ๆ โชคดีที่เขาผ่านมาได้”
โอดมิย่าแพลนบินไปเรียนที่ฝรั่งเศสต่อ 1 ปี
เจ็ง : “แต่นี่ไม่ทันไร สิ้นปีนี้มิย่าแพลนจะบินไปเรียนที่ฝรั่งเศส จะไป 1 ปี เซย่าก็บอกถ้าน้องไปหนูขอไปด้วยนะ จะไปหางานทำ แม่เสร็จเลยคราวนี้จะไม่อยู่ 2 คน บอกลูกมี๊ไปด้วยได้ไหม เขาก็บอกไปสิ แต่เรื่องจริงคือไปไม่ได้เพราะยังมีโรเตอร์อยู่นี่อีกคน แม่ก็เอ้า ตายแล้ว ไปเพิ่งกลับมาไม่ทันไรแพลนจะไปกันอีกแล้ว”
เซย่า : “อยากลองไปหาประสบการณ์ทำงานดูแบบจริงๆ จังๆ”
เจ็ง : “ตอนนี้กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะไปสมัครงานที่บริษัทไหนดีที่ฝรั่งเศส เขาก็เริ่มคิดกัน พอเราได้เห็นเขาไปใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง เราก็แฮปปี้นะ ที่เขาไปรอบนี้ก็อยากให้ไปเหมือนกัน ตอนก่อนจะกลับมาครั้งก่อนยังคิดถ้าหนูยังไม่ปิดเทอม หนูอยู่ต่อไหม หางานทำ หาประสบการณ์ แต่เผอิญมันมีแก็ปนิดเดียว หยุดอาทิตย์กว่าๆ ก็เปิดเทอมแล้ว เลยบอกงั้นไปกับน้องอีกรอบแล้วกัน”
ลูกไม่อยู่ พ่อแม่สวีตหวานกว่าเดิม
เซย่า : “จริงค่ะ แค่นี้ก็สวีตกันเยอะแล้ว”
เจ็ง : “ไม่รู้จะตีกันมากขึ้นหรือเปล่า(หัวเราะ) คราวนี้ว่างเกินก็จะตีกันมากขึ้นไง เขาไปเป็นดีเจ เราก็ไปตลอดค่ะ หาเรื่องไปเที่ยวไง อันนี้คือสิ่งสำคัญเลย”
พีท : “ลูกๆ เราก็ไม่ห่วงอะไรแล้วเพราะเขาเริ่มโตกันหมดแล้ว ก็ใจหายเหมือนกันนะ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราคิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันมันก็ต้องถึงเวลานี้ ก็เข้าใจมัน คุณแม่เขายังไม่เห็นมุมนี้ แต่ผมเห็น ก็คุยกับเขาว่าสุดท้ายแล้วลูกๆ เขาโต เขาก็ต้องไปมีเวลาของเขา เริ่มมีสังคม เริ่มมีเป้าหมาย มีสิ่งที่เขาอยากจะทำ อยากจะไป มันคงจะมาอยู่กันแบบนี้ไม่ได้ สุดท้ายก็เหลือแต่เราสองคน ตอนนี้ก็เลยกลับมาอยู่กันสองคน ยังบอกเขาเลยว่าความรู้สึกมันเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ เหมือนกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเยอะขึ้น”
เจ็ง : “เหมือนเหรอ เหมือนก็ได้ (หัวเราะ)”
พีท : “เป็นผู้หญิงปากแข็ง”
ออกมาให้ลูกได้มีชีวิต และเริ่มกลับมาใช้ชีวิตของตัวเอง
เจ็ง : “ก็เข้าใจสิ่งที่เขาบอก เข้าใจมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนติดลูกมาก ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยติด พยายามห่างออกมาให้เขาได้ไปมีชีวิตของตัวเอง เลิกเรียนแล้วอยากจะไปทำอะไรก็ได้ตามสบาย เราก็เริ่มหันกลับมาใช้ชีวิตของตัวเองแล้วเหมือนกัน เริ่มจะมีเวลาของตัวเอง ลูกบอกมี๊อายุเยอะแล้วอันนี้ไม่รู้ดีหรือเปล่า เขาก็บอกเราอายุเยอะแล้ว หนูก็โตกันแล้ว ก็อยากให้มี๊ได้ไปใช้ชีวิตของตัวเองบ้างเพราะที่ผ่านมาเจ็งให้เวลาลูกทั้งหมดเลย ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เพื่อนเลิกคบหมดเพราะเอาเวลามาให้กับลูกทั้งหมด ไม่ได้ไปเที่ยว ไปเจอ ไปกินข้าวกับเพื่อนเลย ตอนนี้ก็เริ่มๆ กลับมาใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว”
ไม่ปล่อยลูกชาย เพราะยังเด็ก
เซย่า : “ไม่ปล่อย”
เจ็ง : “คนนั้นยังไม่ค่อย เพราะยังเด็กมาก 16 เอง แต่คนนั้นจะหวงแม่มากกว่าอีก เขาแบบเหมือนเป็นพ่อ เวลาเราไปไหนกลับบ้านดึก เอาแล้วโทร.มาตามแล้ว มี๊ดึกแล้ว กลับบ้าน”
