“อ้วน รังสิต” สู้ค่าเทอมโรงเรียนอินเตอร์ โอกาสครั้งหนึ่งทำเพื่อลูก แต่ถ้าไม่ไหวจะส่งลูกไปเรียนที่เกาหลีแทนเมืองไทย ลั่นใช้จ่ายประหยัด โอดเลือกมากจนตกงาน ต่อไปไม่เลือกแล้ว
ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าสำหรับดารา-นักแสดง หลังเกิดภาวะชะลอตัวของการผลิตละคร บางคนอยู่ในสภาพตกงานเกือบปี ล่าสุด “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” เผยว่าตนเองเลือกงานมากจนตกงาน ต่อไปจะไม่เลือกแล้ว พร้อมเผยตอนนี้น้องโรฮาอยู่โรงเรียนอินเตอร์ที่เมืองไทย แต่ถ้าส่งไม่ไหวจริงๆ จะย้ายไปอยู่โรงเรียนที่เกาหลีแทน
“ตอนนี้เลี้ยงน้องก็สบายขึ้นเยอะ เพราะว่าอย่างน้องโรฮาก็เป็นเด็กที่ไม่ค่อยดื้อ จะหนักอย่างเดียวคือเขาจะเป็นคนติดเล่นแล้วเหมือนจะไม่ชอบนอน มันจะเหนื่อยตรงนั้น กลางวันก็ไม่นอน กลางคืนก็ไม่อยากนอน ถ้าไม่บังคับก็ไม่นอน ตอนนี้เรียนที่ไทยครับ อยู่ที่Charter International School ถ้าเราส่งเรียนไหวก็น่าจะอยู่ที่ไทยครับ แต่ถ้าวันหนึ่งอยู่ดีๆ ส่งไม่ไหวก็อาจจะไปปรึกษากัน ให้ไปอยู่เกาหลี เพราะว่าที่เกาหลีก็เรียนฟรี ก็หนักใจเหมือนกัน เพราะค่าเรียนก็ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ราคาค่อนข้างสูง แต่เราก็ลองสู้ดู เพราะมันเหมือนกับเป็นโอกาสครั้งนึงที่ลูกจะได้ เพราะว่าตอนนี้เขายังเด็กอยู่ ถ้าเกิดเขาโตมาแล้วมาเริ่มมันอาจจะช้าเกินไป ตอนนี้น้อง 4 ขวบแล้ว”
สู้ชีวิตหาเงิน ทำเพื่อลูก ไม่มีลูกคงเกษียณไปแล้ว
“ตอนนี้ก็ทำทุกอย่าง ตอนนี้ผมก็มาเล่นบาสตรงนี้ ไปสอนบาสบ้าง และก็มาขายหอยจ๊อ แฮ่กึ๊นกุ้งบ้าง ก็ทำทุกอย่าง ก็ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ และรายได้ก็ไม่ค่อยเยอะด้วย เพราะเราชิลๆ สบายๆ แต่ว่าทำหลายอย่าง ส่วนภรรยา คุณแม่มะม่วงเขาก็ทำงานของเขาด้วย แล้วเขาก็ทำอาหารให้ลูก เขามีงานสักคิ้ว ลิฟติ้งขนตา เขาก็จะทำอยู่ที่บ้าน ถามว่าสู้ชีวิตที่สุดไหม ก็มีงานพวกรีวิว ก็ติดต่อมาได้ ทำพวกงานรีวิวด้วย ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำเพื่อลูก ถ้าไม่มีลูกผมก็คิดว่าน่าจะเกษียณแล้วจริงๆ เพราะว่าไม่อยากเหนื่อยแล้ว”
ใช้จ่ายประหยัด งานมีให้เลือกน้อยลง โอดเลือกเยอะจนตกงาน ต่อไปอาจไม่เลือกแล้ว
“เงินเก็บไม่ได้เหลือใช้ เราก็ใช้แบบประหยัดๆ มีเท่านี้แล้วก็ใช้เท่านี้ แต่ว่าอย่างตอนนี้มีเท่านี้มันก็ไม่พอใช้ เราก็เลยพยายามมากขึ้นเพื่อลูก งานแสดงช่วงนี้ก็เงียบๆ ยังไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าสมมติมีติดต่อมาก็จะเลือกน้อยลง เพราะอย่างเมื่อก่อนเลือกเยอะก็เลยตกงานไง ตอนนี้ก็เงียบๆ แต่ถ้าเกิดมีก็อาจจะไม่เลือกแล้ว เพื่อลูกอย่างเดียวเลยตอนนี้
เป้าหมายเพื่อลูกก็ทำดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่เราก็ไม่ถึงขั้นเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น ทุกคนต้องมีความสุข สำคัญที่สุดก็คือเราต้องมีความสุข ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งลูก ทุกคนมีความสุขคือเป้าหมายของผมก็เลยไม่ถึงขั้นทุรนทุรายไปหาเงินอย่างเดียว ไม่ได้เป็นอย่างนั้น”
เช็กแอปฯ เช็กฝุ่น โชคดีชอบอยู่บ้าน มากกว่าออกไปข้างนอก
“เรื่องฝุ่นตอนนี้ก็หนัก ยังไงแล้วผมว่าเซฟไว้ก่อน ถ้าเกิดเช็กจากแอปฯ แล้วมันฝุ่นเยอะจริงๆ เราอย่าออกไปดีกว่า เพราะต่อให้เราออกไป เหมือนอยากไปสูดอากาศข้างนอก แต่เปล่า มันจะได้อากาศที่ไม่ดีเข้าร่างกายเปล่าๆ อย่างตอนนี้ก็ไม่ออกไปข้างนอก แต่ถ้าเราอยากให้ออกกำลังกายจริงๆ เราก็ออกกำลังกายที่มันเป็นอินดอร์ มันก็มีทางเลือกอยู่ แต่ก็แล้วแต่ตามศักยภาพของครอบครัวด้วย เพราะบางทีก็อินดอร์แบบเสียเงิน อินดอร์แบบไม่เสียเงิน ผมไม่ค่อยกังวล เพราะว่าแม่เขาดูแลดี บางทีถ้าฝุ่นหนักๆ เขาก็หยุดเรียนเลย เราไม่ค่อยชอบออกจากบ้านอยู่แล้ว ก็เลยไม่มีผลกระทบอะไรเลย”
