“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ควง “ทนายประมาณ” แจ้งความ “หนุ่ม กรรชัย - อี้ แทนคุณ” ข้อหาหมิ่นประมาท อี้ 8 กรรม หนุ่มมากกว่า 2 กรรม ลั่นด่าจั_ไร กล่าวหาใส่ความรุนแรง จนคนเกลียดทั้งประเทศ “ฟิล์ม” แฉ “อี้ แทนคุณ” ทั้งโทร.และติดต่อคนกลางขอโทษ อ้างคล้อยตามสื่อที่กำลังเล่นตน รับไม่ได้รวมแก๊งตั้งตนเป็นศาลเตี้ย หาตนพรากผู้เยาว์ ลั่นเปลี่ยนใจฟ้องเพราะลามปามครอบครัว ส่ายหัวแทนคำตอบ หนุ่ม ยังเป็นพี่น้องที่รักได้เหมือนเดิม?
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ม.ค.68 “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” พร้อมด้วย “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ได้เดินทางไปยังสน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความเอาผิด 2 บุคคล คือ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรรายการโหนกระแส และ “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” ประธานชมรมสันติประชาธรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ปมปล่อยคลิปเสียงกล่าวหาฟิล์มตบทรัพย์ดิไอคอน 20 ล้านบาท อีกทั้งอี้ แทนคุณได้กล่าวหาฟิล์มชักชวนประชาชน จ.ตรัง ลงทุน เทรดหุ้นดูไบ จนเกิดความเสียหาย 60 ล้านบาท ลั่นชี้นำสังคมจนทำให้คนเกลียดฟิล์มทั้งประเทศ ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดใจว่า
อ. ประมาณ : “วันนี้ผมพาน้องฟิล์มมาใช้สิทธิตามกฎหมายนะครับ สำหรับคนที่เอาเรื่องที่ไม่จริง เอาเรื่องที่เป็นความเท็จและมาสร้างกระแสให้คนเกลียดชังคุณฟิล์ม เหลือเชื่อจริงๆ ครับ สร้างกระแสจนกระทั่งคนที่ไม่รู้จักฟิล์มเกลียดฟิล์มได้ คือการใช้สิทธิในการกล่าวหาแบบนี้มันไม่สุจริต อ้างว่ามีพยานหลักฐาน อ้างว่ามีผู้เสียหายมันไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องมันมีอยู่อย่างไรมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะคดีที่ตรัง คุณอี้แทนคุณออกมาแถลงข่าวหลายครั้งหลายหน ต่างกรรมต่างวาระหลายกรรมมาก กล่าวหาว่าพอเกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่อง 20 ล้านของดิไอคอน
ซึ่งถ้าหากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศได้ไปฟังคลิปเสียงให้ดีๆ อย่างเป็นกลางที่สุด ไม่มีข้อความตอนใดที่คุณฟิล์มไปกล่าวหาคุณหนุ่ม และไม่มีข้อความตอนใดที่คุณฟิล์มขู่กรรโชกทรัพย์จากบริษัทดิไอคอน เป็นเรื่องที่คุณฟิล์มนำเสนอเรื่องราวของเขาที่เขาจะดำเนินการ ส่วนงบประมาณก็เป็นเรื่องต่างหาก ในวันเดียวกันที่ผมพาคุณฟิล์มไปที่กองปราบ คุณอี้ก็แถลงข่าวสร้างกระแสอีก เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมาดำเนินคดีกับคุณอี้แทนคุณคนที่ 1 คนที่ 2 คือคนที่เอาคลิปเสียงไปเปิดคนแรก คลิปเสียงเขาคุยกันเป็นคลิปที่ทางดิไอคอนอัดเสียงการสนทนาระหว่างบอสปันกับคุณกฤษอนงค์ แล้วก็ต่อสายมาที่คุณฟิล์ม คุณฟิล์มกำลังเดินทางไปต่างประเทศ เขาก็คุยกันในลักษณะส่วนตัว ปรากฎว่าเอามาเผยแพร่ แบบนี้เขาเรียกหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ไม่พอนะครับ ยังออกในรายการข่าวกลางวัน พอเปิดคลิปเสียงก็ไม่บอกว่าชื่อใครยังไง แล้วเขาพูดงี้เลยนะครับ 'ผมบอกได้เลยนะ พวกคุณเนี่ยจั_ไร' เป็นการกล่าวหาใส่ความอย่างรุนแรง ตอนนี้ก็ขอฟ้อง 2 คนก่อน ส่วนคนอื่นที่กล่าวใส่ความเดี๋ยวคิวต่อไปอีกทีนึง แต่ตัวหลักๆ ก็คุณอี้ แทนคุณก่อน ตอนนี้ทั้งหมดต่ำๆ ก็มีประมาณ 40-50 กรรม แต่เราเลือกเอามาแค่ 8 กรรมพอ ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการปล่อยคลิปเสียงของคุณฟิล์มหลังจากที่คุณฟิล์มไปออกรายการที่ช่อง 8 ก็จะไล่มาเป็นวันต่อวัน โดยเนื้อหาหลักๆ บอกว่าฟิล์มไม่ได้แค่ไปตบทรัพย์ 20 ล้าน แต่ไปบอกว่าหลอกลวงให้ลงทุนอีก 60 ล้าน แล้วก็เป็นคนไปรับเงินเขา และมีผู้เสียหายมารออยู่แล้ว ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับคุณฟิล์มมาก คนไม่รู้ก็เกลียดชังคุณฟิล์ม หาว่าไปตบทรัพย์ คำว่าตบทรัพย์ถ้าไปฟังให้ดีๆ ด้วยใจเป็นกลาง ไม่มีข้อความใดที่เป็นการตบทรัพย์เลย
และเรื่องของจังหวัดตรังคดี 60 ล้านก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณฟิล์มเลยครับ เป็นเรื่องของคุณภูริทัตกับคณะเขา ที่เขาต้องการลงทุนประเภทเร็วๆ หมายถึงพวกคริปโตอะไรพวกนี้ เสร็จแล้วก็คือคุณวัชรีคือผู้เสียหายที่คุณอี้มาอ้าง คนนี้เขาก็มือคริปโตครับ คนนี้เขาไปซื้อคริปโตด้วยเงิน 2 ล้านบาท ผ่านไป 6 ชม. กลายเป็นเงิน 6 ล้านบาท เขาก็ชอบ แล้วพวกเขาก็ไปลงทุนกัน ฟิล์มไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยครับ เงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ก็ไม่เคยผ่านมือฟิล์ม ไม่เคยไปยุ่งอะไร ภาพเงินที่ว่ากองๆ ที่เห็น 20-30 ล้าน ฟิล์มก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ได้เกี่ยวกับกระบวนการเขาทั้งหมดเลย เสร็จแล้วพอเขามีปัญหาการที่พวกเขาร่วมลงทุนกัน แล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ พอเสียหายขึ้นมาก็มีการไปเคลียร์ เขาก็เคลียร์กันเอง ไม่เกี่ยวกับฟิล์มนะครับ แล้วก็มาแจ้งความ เขาแจ้งความ 6 คน และคุณฟิล์มเป็นหนึ่งในนั้น
20 ก.ค. 63 เขาเรียกคุณภูริทัตมาแจ้งความ แจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาฉ้อโกง พอ 23 ก.ค.63 เขาเรียกคุณฟิล์มไปเป็นพยาน ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาคุณฟิล์ม เพราะเขาเห็นว่าไม่มีมูลความผิดเกิดขึ้น ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานะครับ เสร็จแล้วพอเขาสอบพยานทั้งหมดแล้ว พอสรุปสำนวนเสร็จเขาสั่งยุติการสอบสวน เพราะสิทธิในการดำเนินคดีอาญามาฟ้องมันระงับไปแล้ว ส่งอัยการก็ยุติการสอบสวน เรื่องไปค้างอยู่ที่อัยการภาค 9 แล้วเขาก็เห็นชอบลงมา ก็จบแล้ว แต่คุณอี้กลับเอามาสร้างกระแสให้คนเกลียดชังคุณฟิล์มดังนั้นวันนี้ต้องจัดการตามกฎหมายแล้วครับ แล้วก็ไม่ต้องมาขอโทษขอโพยไม่ต้องมาขอขมานะครับ”
ฟิล์ม : ”ที่ตัดสินใจมาแจ้งความ เพราะตั้งแต่แรกที่ไปออกรายการอ.ยิ่งศักดิ์ (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) นะครับ ก็บอกตั้งแต่แรกว่าผมไม่ได้อยากทำอะไรใครเลย ผมชอบความสงบและอยู่อย่างสงบ แต่พอดีว่าผมมาปรึกษาอาจารย์ประมาณ ท่านก็ดูทุกอย่างให้แล้วก็บอกว่ามันเกินงามแล้ว ปกติผมพูดวันเดียวแล้วก็ไม่ออกเลย ก็ได้แต่ปรึกษาอาจารย์ประมาณอยู่หลังบ้านอย่างเดียว แต่อาจารย์เห็นว่าตอนนี้หลายๆ คนออกมามั่วกันเยอะแล้ว และออกมาเกินงาม บางคนด่าถึงบุพการีว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน บางคนด่าผมว่าไม่มีครูบาอาจารย์ บางคนก็ด่าผมว่าเป็นนักตบทรัพย์ เอาวาทกรรมแปลกๆ มายื่นให้กับผม ใช้สื่อมวลชนในทางที่ผิด เอาความรักความเคารพที่ประชาชนมีให้ไปใช้ในสิ่งที่ผิด ไปตั้งกลุ่มตั้งแก๊งรวมตัวกันมากล่าวโทษผมว่าเป็นคนไม่ดีในสังคม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูความจริงอะไรเลย ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ทำตัวเป็นผู้มีอำนาจมาบ่งชี้ต่างๆ นานาให้สังคมคล้อยตาม
จริงๆ วันนี้ผมก็ไม่ได้อยากอะไร แต่อาจารย์บอกว่ามันถึงเวลาแล้ว ปล่อยให้สังคมดำเนินไปแบบนี้ไม่ได้ เราอยากอยู่ในสังคมที่น่าอยู่ เราอยากอยู่บนสังคมที่ทุกคนเคารพกฎหมายเดียวกัน และผมยืนยันตลอดเลยว่าผมนั้นเคารพกฎหมายเป็นที่ตั้ง เพราะกฎหมายบ้านเราศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เราไม่เคยไม่เคารพเลย แต่ก็มีโยนวาทกรรมแปลกๆ สร้างวาทกรรมแปลกๆ บอกว่าผมไม่เคารพกฎหมาย ผมท้าทายต่างๆ เพื่อยึดเครดิตผมต่างๆ นานา พอมีแฟนคลับไปโพสต์ช่วยผม ก็ไปปล่อยข่าวว่าใครห่วงมึง ใครรักมึง หรือไปปล่อยข่าวในเชิงอื่นๆ จากเพจต่างๆ ว่าผมพรากผู้เยาว์บ้างอะไรบ้างเพื่อยึดเครดิตเขาใช้เทคนิคในการเป็นสื่อยึดเครดิตคนๆ นึงไปหมดเลย ผมมีแฟนคลับผู้หญิงเยอะ แฟนคลับก็ไปโพสต์ให้ว่าไม่จริงบ้างอะไรบ้าง พี่ฟิล์มเป็นคนดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไปปล่อยข่าวว่าผมพรากผู้เยาว์ ก็ทำให้คนเกลียดชังผมอีก มันมีหลายๆ เหตุการณ์ที่ผมโดนมา”
อ.ประมาณ : “มันเกิดเหตุการณ์ว่าคนที่ไม่รู้จักฟิล์มก็เกลียดฟิล์มไปค่อนประเทศ คนที่รู้จักนี่ไม่ถึงเศษ 1 ส่วน 100 เลย แต่กลายเป็นเกลียดไปทั้งประเทศ เพราะมีคนบางคนทำลายชื่อเสียงคนอื่นเพื่อหาแสดงให้กับตัวเอง วันนี้ก็เลยมาใช้สิทธิตามกฎหมาย”
ฟิล์ม : “ถามว่าได้คุยกับคู่กรณีบ้างไหม คือตัวผมเองไม่เลยครับ แล้วแต่อาจารย์ประมาณเลยครับ แต่ทางคู่กรณีก็ส่งคนมาขอโทษผมเต็มไปหมด ผมก็บอกว่าแล้วแต่อาจารย์ประมาณ พอวิเคราะห์แล้วก็เลยมาเป็นวันนี้ครับ ส่วนหลักฐานที่เขานำไปเสนอข่าว ต้องบอกว่ามันเท็จหมดก็ต้องเท็จหมดครับ (หัวเราะ) เพราะเราก็มีหลักฐานของเราครับ”
อ.ประมาณ : “ต้องบอกว่าคดีที่ตรัง สำนวนการสอบสวนมีอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้นแหละครับ วันนี้ผมก็แค่มาร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายที่นี่นะครับ เดี๋ยวก็จะนำเรื่องไปฟ้องที่ศาลเลย แล้วให้ศาลออกเลขเอกสารทั้งหมดในคดี เพราะวันนี้คดียังเป็นการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น แต่ถ้าอำนาจศาล ศาลก็สามารถจะเรียกมาตรวจสอบได้หมดเลย เพราะฉะนั้นข้อเท็จจริงมีอยู่อย่างไร พยานหลักฐานมีอยู่อย่างไรก็เป็นอย่างนั้นแน่นอน ชัดเจนครับ
ขั้นตอนวันนี้ก็คือเป็นการร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี แล้วพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียก สอบสวนก่อนว่าคดีมีมูลหรือเปล่า พอคดีมีมูลเขาก็จะออกหมายเรียกผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหา แล้วก็เข้าสู่กระบวนการพิมพ์ลายนิ้วมือส่วนผู้ต้องหาไปจะอ้างพยานหลักฐานอะไร แล้วพนักงานสอบสวนก็จะทำความเห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องไหม
อย่างกรณีคดีตรัง 60 ล้าน พนักงานสอบสวนก็สอบสวนเสร็จเรียบร้อย เขาไม่แจ้งข้อกล่าวหาคุณฟิล์มนะ เขาสั่งยุติการสอบสวน ยุติการดำเนินคดีเลยนะครับ ว่าสิทธิในการฟ้องคดีอาญามันระงับไปแล้วก็สั่งยุติ อัยการก็เห็นชอบ ไปถึงภาค 9 ก็เห็นชอบด้วย ยุติหมด อันนี้ก็เหมือนกัน ก็จะทำความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ถ้าพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็อาจจะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอก็สั่งฟ้อง ถ้าสิทธิในการดำเนินคดีอาญามันระงับไปแล้ว เขาก็สั่งยุติการสอบสวน ยุติการดำเนินคดี แต่ทั้งหมดนี้พยานหลักฐานผมว่าชัดเจนพอ ถ้าพี่น้องทุกคนที่ดูข่าวก็ชัดเจนพอครับ ข้อความที่ให้ส้มภาษณ์ไป ข้อความต่างๆ ที่ชี้นำสั่งไปเพียงพอว่าหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาคุณฟิล์มแน่นอน มั่นใจ หลักฐานก็มีอยู่ในมือ”
ไม่เจรจา เอาเรื่องถึงที่สุด จวกไม่แมน หิวแสง เหลือจะเชื่อชี้นำสังคมจนไปไกลได้ถึงขนาดนั้น
อ.ประมาณ : “ต้องถึงที่สุดอยู่แล้ว ถามว่าถ้าเขามาขอเจรจา โอ้ย ไม่เอาๆ”
ฟิล์ม : “มาขอเยอะแล้วครับ มาขอหลายคนแล้ว ถามว่าถ้าเขามาเอง เขาคงไม่กล้าหรอกครับ เพราะผมก็มองว่าการกระทำแบบนี้มันไม่แมนนะ คุณหิวแสง พอคุณได้แสงไปแล้ว แต่คุณก็ส่งคนมาขอโทษผม ผมว่ามันไม่แมนนะ ผมไม่ชอบ”
อ.ประมาณ : “มาทำลายชื่อเสียงคนอื่นเพื่อให้ตนเองได้ยืนอยู่ตรงนั้น”
ฟิล์ม : “ผมก็มีหลักฐานหมด ผมเก็บหลักฐานที่เขามาขอโทษไว้หมด เมื่อก่อนไม่เคยเก็บอะไรพวกนี้นะ แต่เดี๋ยวนี้ต้องเอามาปกป้องตัวเอง และอย่างที่ทุกท่านถามกันมาว่ามีพยานหลักฐานไหม ก็ต้องบอกว่ามีครบ ที่ผมบอกว่าค่อนข้างที่จะเป็นสื่อกับสิ่งที่ผมเจอครั้งนี้หนักที่สุด เพราะคนที่ผมเจอแต่ละคนเป็นคนที่เป็นสื่อ เพราะเขาใช้เทคนิคในการที่ผมมีรูปอยู่ตรงบริษัทนี้ ก็หาว่าผมไปโกงบริษัทนี้ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เขาไม่ได้ศึกษาว่าผมมีกี่ธุรกิจ ผมเป็นเจ้าของ 10 กว่าธุรกิจผมเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ แล้วทำไมผมจะไปรับทัวร์ไม่ได้ เป็นเจ้าของบริษัทพีอาร์ เป็นเจ้าของมาร์เก็ตติ้งต่างๆ เขาไม่ได้มองว่าผมทำอะไร แต่เขาเห็นว่าพอผมไปอยู่กับบริษัทนี้ บริษัทนี้มีเรื่อง ผมต้องเป็นคนโกง ยึดเครดิตผมทุกด้านเพื่อให้ตัวเขารู้สึกว่ามาพูดกับคนที่ไม่ดีนะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ถูกต้องครับ”
อ.ประมาณ : “กว่าจะมาถึงวันนี้เราหารือกันหลายรอบ และพิจารณาหลายครั้งว่าอย่างนี้มันใช้สิทธิเกินกว่าเหตุ เกินความจำเป็น เกินมาก และทำลายชื่อเสียงคนอื่นเพื่อให้ตัวเองไปยืนอยู่ตรงนั้น คือผมก็แปลกใจนะครับว่าเขาพูดจนกระทั่งคนทั้งประเทศเกลียดฟิล์มได้ อย่างเอาคลิปเสียงมาเปิดก็ไม่มีข้อความไหนที่เขาจะไปตบทรัพย์ หรือไปด่าคุณหนุ่ม ก็พูดจนกระทั่งกลายเป็นคนตบทรัพย์ กลายเป็นประมาท กลายเป็นกรรโชกทรัพย์ ผมก็เหลือเชื่อจริงๆ นะครับว่าการชี้นำสังคมไปไกลถึงขนาดนั้น ก็ไปพิสูจน์กันในศาลเลยดีกว่า“
แจ้งความอี้ แทนคุณ ข้อหาเดียวกัน แต่คนละกรรม อี้ 8 กรรม หนุ่ม กรรชัย มากกว่า 2 กรรม
อ.ประมาณ : ””ผู้ที่จะถูกกล่าวหามี 2 คนครับ มีอี้ แทนคุณ กับคุณหนุ่ม กรรชัยครับ ตอนนี้ 2 คนก่อนครับ ถามว่าข้อหาเดียวกันไหม คนละกรรม ต่างกรรมกัน ต่างการกระทำ แต่ไม่ได้ฟ้องช่องครับ คือเดิมทีถ้าพูดถึงในหลักการมันพาดพิงไปถึงเจ้าของรายการ พาดพิงไปถึงบก. พาดพิงไปถึงช่องนะครับ ถามว่าแจ้งหนุ่ม กรรชัยกี่กรรม ก็ลดหลั่นลงมาหน่อย (หัวเราะ) แต่หลายกรรมอยู่ครับ ไม่น้อยกว่า 2 กรรมหรอกครับ ประมาณ 3-4 กรรม กำลังพิจารณาอยู่ว่าอาจจะมีตัดบางกรรมออกไหม จริงๆ วันนี้เตรียมมาประมาณ 5-6 กรรม ของคุณอี้ แทนคุณ 8 กรรม จริงๆ มีประมาณ 40-50 กรรมนะ แต่เตรียมมาแค่ 8 กรรม คุณหนุ่มฟ้องบุคคลครับ ไม่ได้ฟ้ององค์กรเขา”
เปลี่ยนใจฟ้องเพราะลามปามถึงพ่อแม่ ดักรอหน้าบ้านทำครอบครัวผวา
ฟิล์ม : “ก็อย่างที่ผมบอกครับว่าตอนแรกผมไม่ได้อยากไปทำอะไรใครครับ ก็ปรึกษาอาจารย์ทุกเรื่อง แต่พอหลังๆ เห็นว่าเรานิ่งก็พูดกันไม่หยุด แล้วมันเริ่มลามปามไปถึงพ่อแม่ผม สื่อบางช่องไปถึงหน้าบ้าน ไปหลอกหมู่บ้านว่าจะไปเข้าห้องน้ำบ้างอะไรบ้าง ยื่นกล้องไปถ่ายหน้าบ้าน พ่อแม่ผมออกมาตกใจผวากันหมด คือเราโดนอะไรมาเยอะมากครับ ก็เลยเล่าให้อาจารย์ฟัง อาจารย์ก็เลยบอกว่าถ้าอะไรที่มันไม่ไหวก็จะจัดการให้ ก็ใช้สิทธิตามกฎหมาย ที่วันนี้แค่ 2 คนก็เป็นแค่ส่วนเดียวเองนะครับ จริงๆ แล้วทุกคนครับที่ออกมามั่วใส่”
ยินดีหากอีกฝ่ายโต้กลับ
ฟิล์ม : “ยินดีเลยครับ”
อ.ประมาณ : “ยินดีครับ พร้อมหมดแหละ พร้อมที่จะดูหลักฐานถ้ามี ยิ่งคดีที่ตรังบอกว่าพยานหลักฐานเยอะ ผมอยากเห็น อยากดูจริงๆ”
ฟิล์ม : “ถามว่าที่อี้ แทนคุณไปแจ้งความ มีตร.รับอันไหนบ้าง ไม่น่ามีสักเรื่องครับ เพราะว่ามั่วหมดเลย (หัวเราะ) ไม่น่ามีรับสักเรื่องครับ”
อ.ประมาณ : “ก็เรียกฟิล์มไปเป็นพยานไง พอเสร็จก็สั่งยุติการสอบสวนเลย”
เผย “อี้ แทนคุณ” ทั้งโทร. ทั้งพิมพ์ผ่านคนกลาง อยากขอโทษตน อ้างคล้อยตามสื่อที่กำลังเล่นตน หมอดูผ่าดวงก็โดน
ฟิล์ม : “ผ่านคนอื่นครับ มีทั้งโทร.ทั้งพิมพ์มาผ่านคนกลาง และคนกลางก็สนิทกับผมมากด้วย เขาก็ฝากคนกลางมาคุยกับผม ก็เป็นข้อมูลจากคนกลางบอกว่าเขาวิเคราะห์น้อย ดูข้อมูลน้อย เห็นว่าสื่อกำลังเล่นผมอยู่ก็เลยคล้อยตามไปด้วย อยากจะเข้ามาขอโทษผม พ่อแม่ผม ผมก็บอกว่าขอปรึกษาอาจารย์ก่อนแล้วกัน ผมไม่ได้อะไร จนวันนี้ผมยังไม่ได้อยากจะอะไรใครเลยครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอาจารย์หมด อาจารย์ดูหมดครับทุกคลิปที่ผ่านมา ศึกษาหมดทุกคนที่พูด แม้แต่หมอดูที่มาผ่าดวงผมก็โดนนะครับบอกแค่นี้”
อ.ประมาณ : “ถามว่าถ้าเขาขอโทษผ่านสื่อจะยอมไหม การจะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่เนี่ยอยู่ที่คุณฟิล์ม ผมเป็นฝ่ายกฎหมาย คือเขาจะด่าฟิล์มยังไงผมก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร ผมแค่วิเคราะห์ว่ามันเข้าหลักเกณฑ์ทางกฎหมายไหม มันผิดข้อกฎหมายไหม ควรจะใช้สิทธิในการดำเนินคดีหรือไม่ ส่วนถ้าจะขอขมา ขอโทษอะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ฟิล์มเขาจะตัดสินใจว่าความบอบช้ำที่ผ่านมามันมากขนาดไหน ให้อภัยได้ไหม ถ้าให้อภัยไม่ได้อย่างบางคนบอกว่าเขาไม่ให้อภัยฟิล์มแล้ว ตัดพี่ตัดน้องกันแล้ว วันก่อนผมก็ถามฟิล์มว่าจะตัดพี่ตัดน้องหรือเปล่า ฟิล์มก็บอกว่าพี่ผมคนก่อนเขาไม่อยู่แล้ว ไอ้คนนี้มันไม่ใช่พี่ผม”
ฟิล์ม : “ครับ ใช่ คือจะบอกว่าจริงๆ มันไม่มีอะไรเลยนะ จนถึงตอนนี้ผมก็ปล่อยวางได้หมด แต่ผมเคยเตือนบอกพวกเขาแล้วว่าอะไรก็ตามในชีวิตผมโดนมาเยอะมาก ผมอยู่กับสังคม อยู่กับพี่ๆ สื่อมาเยอะมาก แต่สิ่งที่อย่าแตะต้องเลยก็คือพ่อแม่ผม ผมเคยเตือนและบอกแล้วว่าอย่าแตะต้องพ่อแม่ผม แม้แต่คนที่มาคอมเมนต์ถึงผม ผมไม่เคยว่านะครับ จะด่าว่าผมยังไงผมไม่เคยว่า แต่ถ้ามาแตะพ่อแม่ผม ผมปล่อยไม่ได้จริงๆ ครับ”
บอกคดีที่หนุ่ม กรรชัยฟ้อง ยังไม่มีการเคลื่อนไหว
อ.ประมาณ : “ก็รอไปให้การเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนก็บอกว่าใจเย็นครับ ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ตอนนี้ยังไม่มีนัดเลย พนักงานสอบสวนบอกว่ายังไม่ต้องเร่งมาก”
ฟิล์ม : “เราเข้าไปให้ข้อมูลทางฝั่งเราหมดแล้วครับ”
อ.ประมาณ : “ผมให้ข้อมูลไปหมดแล้วจริงๆ ว่าข้อความตรงนี้มันแปลว่าอะไร มันหมายความว่ายังไง ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้ว เดิมทีเรามีการนัดไว้แล้ว แต่พนักงานสอบสวนขอเลื่อนไปก่อนเพราะว่ายังมีภารกิจอื่นที่ต้องทำอีกเยอะ เรื่องนี้มันไม่มีอะไร”
ส่ายหัวแทนคำตอบ หนุ่ม ยังเป็นพี่น้องที่รักได้เหมือนเดิม?
ฟิล์ม : “ยังไม่พูดดีกว่า (หัวเราะ) จะได้นิ่งเงียบไปครับ ถามว่ายังเป็นพี่น้องที่รักกันได้เหมือนเดิมไหม (ส่ายหน้า) ส่ายหัวแทนแล้วกัน (ยิ้ม)”
