“อั้ม อธิชาติ” ปิดใจ! ลั่นตอนนี้มีแต่หมานำ โฟกัสงาน-ดูแลหมา-แม่ เคลียร์ดรามา “ตุ๊กตา” ให้พ่อกินน้ำสมุนไพรแล้วเดินได้ (คลิป)

“อั้ม อธิชาติ” เผยชีวิตโสดต้องมีการปรับตัว ยังปิดใจ แต่ไม่เหงา เพราะมีหมากับแม่ ตอบไม่ได้จะโสดตลอดชีวิตไหม แต่วันนี้โอเคกับแบบนี้แล้ว ตอนนี้ขอโฟกัสแค่งาน ปีใหม่มีทักไปอวยพร “นัท มีเรีย” ยังคุยกันบ้างประปราย เคลียร์ดรามาสรรพคุณเกินจริง หลัง “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” ให้พ่อกินผลิตภัณฑ์ของตนแล้วลุกเดินได้ จากที่ป่วยติดเตียง



ยังคงเดินหน้าทำงานอย่างมุ่งมั่นเหมือนเดิม สำหรับ “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์”ที่กลับมาเป็นหนุ่มโสดอีกครั้ง หลังเลิกรากับอดีตภรรยา “นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้” โดยล่าสุดวันนี้ (30 ม.ค.) ได้เจออั้ม ในงาน “Good Health Great Heart รู้ทัน เสริมภูมิ Check List เติมสูตรชะลอวัย” เจ้าตัวก็ได้ได้อัปเดตชีวิตโสดให้ได้ฟังกัน พร้อมเคลียร์ประเด็นที่ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด” ออกมาแชร์เรื่องราวของคุณพ่อ ว่าทานผลิตภัณฑ์น้ำสมุนไพรของอั้มแล้วลุกเดินได้ ทั้งที่ป่วยติดเตียงมานาน จนหลายคนมองว่ามันโอเวอร์เกินไป

“ชีวิตปกติดีครับ ตอนนี้มีแม่ แล้วก็มีหมาครับ ถามว่าปรับตัวไหม ก็ปรับตัวแหละครับ ทุกอย่างในตารางชีวิตมันก็มีการปรับเปลี่ยนไปหมด แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงมันคือสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงในทุกอย่างทุกเรื่องอยู่แล้ว อย่างวันนี้เราก็ได้ใช้ชีวิตในแบบหนึ่ง อย่างที่ทุกคนได้รู้กัน ทุกอย่างมันก็เดินไปข้างหน้า อะไรที่ต้องจัดการ อะไรที่มันต้องเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องจัดการให้มันเหมาะสมกับเวลาที่มันเป็นเรื่องสภาพจิตใจก็ปกติครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์”

ปีใหม่ทักไปอวยพร “นัท มีเรีย” ยังมีคุยกันบ้างประปราย
“ก็มีครับ มีส่งข้อความอวยพรเป็นปกติ ก็อวยพรไปแหละครับ แต่ไม่ได้ถามไถ่อะไร แค่อวยพรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แล้วก็บอกว่าเรามีความตั้งใจที่ดีให้ในทุกๆ เรื่อง ยังมีการพูดคุยกันบ้างประปราย (แอน ทองประสม พาไปเที่ยวฮีลใจ เราได้เห็นไหม?) ก็ได้เห็นในโซเชียลบ้าง ก็มีคนส่งมาให้ดู มันก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นความสุขของเพื่อน ของคนในครอบครัว มันก็เป็นเรื่องที่เรายินดีทุกเรื่องครับ”

ตอนนี้ขอโฟกัสกับงาน เพราะมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
“จริงๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ ว่าเราโฟกัสกับงานมาค่อนข้างนานมาก มันมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ มีภาระหน้าที่หลายอย่างที่เราพยายามรับผิดชอบและจัดการ มันก็เข้าสู่ในเรื่องของการทำงานอย่างเต็มที่ กว่าจะมีวันนี้มันไม่ใช่แค่ไม่กี่วัน วันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลง กับสถานภาพต่างๆ เราก็ยังคงโฟกัสเรื่องงานอยู่ เพราะภาระหน้าที่เรามันยังมีเหมือนเดิม”

ไม่เหงาเพราะมีทั้งหมาและแม่ เลยไม่ได้คิดเรื่องอื่น
“ก็เปิดใจแค่ที่หมาครับ แค่หมาทุกวันนี้ คือสุนัข 2 ตัวเขาเหมือนคนในครอบครัว ตื่นเช้ามากว่าจะแต่งตัว ต้องคลุกข้าวหมาก่อน จริงๆ ไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลย ไม่ได้คิดเลยจริงๆ ไม่เหงา คือต้องบอกว่าด้วยความที่วันนี้เราอายุ 40 กว่าแล้ว เราก็ผ่านหลายช่วงเวลาของอายุแล้ว จากเคยเป็นวัยรุ่นอยากใช้ชีวิต มันผ่านมาทุกช่วงเวลาแล้ว ตอนนี้รู้สึกโอเคกับแบบนี้ เรามีเป้าหมายอยากทำเพื่อสุขภาพ เพื่อครอบครัว เพื่อสังคมต่างๆ ที่เราตั้งใจไว้ สิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ เราอยากทำให้มันเสร็จ”

ตอบไม่ได้จะโสดตลอดชีวิตไหม ตอนวันนี้โอเคกับแบบนี้แล้ว
“ถ้าถามตอนนี้ตอบไม่ได้ แต่ ณ วันนี้เราโอเคกับแบบนี้แล้วจริงๆ ตื่นเช้ามาก็มีอะไรหลายอย่างให้ทำ ไม่ได้รู้สึกเหงา ต้องดูแลที่บ้าน ดูแลสุนัข ซึ่งเป็นงานท้าทายอีกอย่างหนึ่ง ว่าวันนี้จะทำยังไงให้หมาไม่ฉี่ใส่ของ ไม่กัดของในบ้าน โฟกัสเท่านี้เลยครับ”

ชีวิตตอนนี้มีแต่หมานำ ไม่ได้คิดเรื่องรักเลย
“ตอนนี้ต้องบอกว่ามีแต่หมาเลย ชีวิตฉันมีแต่หมานำ (หัวเราะ) เป็นความจริงเลย คือเราโฟกัสแต่การเลี้ยงดูเขา แล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ขาด เพราะเวลาว่างเราคิดเรื่องงาน กลับบ้านไปก็มีงานที่บ้านให้ทำคือถ้าไม่ได้ถาม ก็ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลย เอาแค่วันนี้เราโอเคตามนี้แล้ว ด้วยความที่เราเป็นข่าว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าวันนั้นพูดแบบนั้น วันนี้ไม่เหมือนแบบนี้ เอาเป็นว่าอยู่กับความเป็นจริง เป้าหมายของเราตอนนี้ เราโอเคกับแบบนี้แล้ว”

ยังปิดใจอยู่ แค่ดูแลหมายังจะไม่รอด
“ก็ปิดครับ ณ ตอนนี้ เต็มแล้ว มีแต่หมาและแม่ (เป็นความสัมพันธ์แบบช่วยเลี้ยงหมาได้ไหม?) ถ้าจะไปต้องไปลงไร่สวนนะครับ ต้องดูแลหมาก่อน แค่นี้ก็ยังจะดูแลไม่รอดเลย”

ตอบชัดไม่ได้มีปัญหากับใคร กับ “แอน ทองประสม” ก็ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม
“จริงๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร แต่ด้วยความที่สื่อ บางทีเราเสพข้อความ ว่าเขาจะอย่างนั้นจะอย่างนี้กันหรือเปล่า จริงๆ ต้องบอกว่าชื่นชมพี่แอนในทุกเรื่อง ทั้งเป็นเพื่อนเป็นพี่ เรียกกว่าเป็นผู้ใหญ่ในวงการก็ได้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเราก็ติดตามชีวิตเขาอยู่ ออกกำลังกาย ดูแลสุนัข ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยครับ เจอกันได้ตามปกติเลย จริงๆ ก็ยังคิดอยู่ว่าวันไหนอาจจะนัดไปวิ่ง พาหมาไปเที่ยว แต่ยังไม่ได้โทร.บอกเขาเท่านั้นเองครับ”

เคลียร์ดรามาโอเวอร์เคลม หลังสังคมตั้งคำถามอ้างสรรพคุณเกินจริง
“เรื่องของพี่ตุ๊กตา ต้องบอกว่ายาที่พิเศษที่สุดคือตัวของพี่ตุ๊กตาเองทั้งนั้นเลย พี่ตุ๊กตาดูแลพ่อมาอย่างยาวนาน แล้ววันหนึ่งคุณพ่อมีอาการหนักขึ้น แต่ด้วยความที่พี่ตุ๊กตาทานผลิตภัณฑ์ของเรามาเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อปลายปีที่แล้วเลยคุยกันว่าถ้างั้นเราลองให้คุณพ่อลองทานได้ไหม ก็เลยเอาไปให้คุณหมอที่ดูแลดูคุณหมอก็บอกว่าทานได้เลย เพราะสมุนไพรนี้ไม่ได้มีผลอะไรที่ไม่ดีต่อร่างกาย และไม่ได้ไม่เหมาะกับโรค แล้วพอคุณพ่อทาน คุณพ่อก็รู้สึกว่าได้ของที่มีรสชาติ ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง แต่คุณพ่อมีความสุข

คือวันนั้นเราไปถ่ายรายการแฉ แล้วพี่ตุ๊กตาก็เอาคลิปวงจรปิดที่คุณพ่อลุกขึ้นให้ดู เราก็ถามว่าขนาดนี้เลยหรือ ทำไมแข็งแรงไวจัง เราก็บอกว่าเป็นเพราะยา และการดูแลของพี่ตุ๊กตาใช่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ แต่ส่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือให้ดื่มผลิตภัณฑ์ของเรา เขาเห็นความแตกต่างว่าคุณพ่อสดชื่นขึ้นจากเดิม เราก็เลยบอกว่าจริงๆ มันไม่ใช่แค่การดื่มอันนี้นะ แต่เป็นเพราะตัวเขานั่นแหละแล้วจริงๆ คุณพ่อดีขึ้นมาในระยะหนึ่งแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง”

ยืนยันไม่ได้จ้าง ไม่ได้ทำคอนเทนต์
“ไม่มีเลยครับ พี่ตุ๊กตาบอกว่าฉันอยากบอกว่าพ่อดื่มอะไร แต่เราบอกว่าไม่ต้องเลย อยากให้บอกแค่ว่าพี่ตุ๊กตาดูแลคุณพ่อยังไง เพื่อให้เป็นกำลังใจกับคนที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ดีกว่าครับ คลิปทุกอย่างที่เห็น เราก็เห็นพร้อมกับพี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) ในรายการแฉ แต่เราก็บอกว่าจริงๆ มันอาจจะมาจากหลายส่วน ไม่ใช่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง จากการหาหมอเป็นประจำ เลือกทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย”

ลั่นยาวิเศษคือความกตัญญูที่ลูกดูแลพ่อ
“ไม่ใช่ยาวิเศษอะไรขนาดนั้น ยาวิเศษมันคือความกตัญญูของลูกเขา การกินสมุนไพรแค่ไม่กี่วัน มันต้องรวมกันหลายส่วน เขาดูแลพ่อเขามาตั้งเท่าไหร่”