“เจเจ กฤษณภูมิ” ผวา ถูกซาแซงตามถึงบ้าน เพราะคอนเทนต์ที่ทำเอง! ยกเป็นบทเรียน (คลิป)

“เจเจ กฤษณภูมิ” ยกเป็นบทเรียน ทำคอนเทนต์เข้าบ้านโพสต์ผ่านโซเชียล เจอซาแซงบุกตามถึงหน้าบ้าน ลั่นไม่อยากเอาเรื่อง ทำได้ดีที่สุดคือลงบันทึกประจำวัน วอนมาเจอที่งาน หวั่นพ่อแม่จะรำคาญ เกิดอันตราย



ช่วงนี้คนดังเจอซาแซง (แฟนคลับคลั่งรักคนดัง) สะกดรอยตาม จนบุกไปถึงบ้านเป็นจำนวนมาก ล่าสุด “เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม”ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนด้วย ซึ่งเจ้าตัวเผยในงาน “ONE DYNASTY” Chinese New Year Celebration 2025 ยอมรับว่าเป็นบทเรียนจากการทำคอนเทนต์

“จริงๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นขนาดนั้นครับ ก็คือมีคนมารอที่หน้าบ้าน 3-4 วัน ตอนแรกเราก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะว่าเราก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร แต่ว่ามันดันมีวันหนึ่งที่เขามาตอน 4-5 ทุ่ม แล้วก็เป็นวันที่คุณแม่มานอนพอดี ผมหลับไปแล้ว แล้วคุณแม่ออกมาเปิด ก็เลยค่อนข้างเป็นห่วง พฤติกรรมของเขาคือวันแรกๆ จะมากดกริ่งครับ แต่วันหลังๆ ก็มายืนรออยู่หน้าบ้าน ถามว่ามีกี่คน ไม่แน่ใจครับ แต่ก็นานๆ ที มาๆ ไปๆ

ตั้งแต่เข้าวงการมา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครับ เพราะว่าที่เชียงใหม่ก็ไม่น่ามีคนรู้บ้าน แล้วที่ผ่านมาอยู่กรุงเทพฯ ก็อยู่คอนโดมาตลอด แต่พอย้ายเข้าบ้านปุ๊บ เขาอาจจะเห็นจากคอนเทนต์ที่ผมทำลงเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นบทเรียน ที่อาจจะเอาไปปรับแก้ที่ตัวเองในอนาคต

ผมก็ทำเท่าที่ทำได้ ก็คือประกาศ แล้วก็มีการบันทึกหลักฐานไว้ ลงบันทึกประจำวัน แล้วในส่วนที่ต้องดูแลตัวเอง ก็คือเรื่องคอนเทนต์โน่นนี่ครับ จริงๆ ไม่ถึงกับกลัว แต่มันมีความระแวงมากกว่า เพราะจริงๆ คนที่เขามาตาม เขาก็อาจจะชื่นชอบในผลงานหรือตัวเรา ตัวผมไม่ได้มีปัญหา แต่ห่วงความปลอดภัยของครอบครัวครับ ตอนแรกคุณแม่นึกว่าเป็นเพื่อน เพราะเขาก็บอกว่าเป็นเพื่อนผม ตอนแรกผมก็นึกว่าเพื่อน คือตอนนั้นดันเป็นวันที่ผมไม่ได้นัดใครมาที่บ้านเลย ไม่ได้ติดต่อใคร ผมเลยงงว่าใคร จนเขามาอีกรอบหนึ่ง ถึงรู้ว่าอ๋อไม่ใช่เพื่อน แต่ที่บ้านก็มีกล้องวงจรปิดครับ เป็นคนเดิมๆ ซ้ำๆ แต่ว่าถ้าจะให้พูดรูปลักษณ์ก็ไม่ดีกว่า น่าจะเป็นคนไทยครับ”

ไม่อยากเอาเรื่อง ทำได้ดีที่สุดคือลงบันทึกประจำวัน วอนมาเจอที่งาน หวั่นพ่อแม่จะรำคาญ เกิดอันตราย
“เราก็ทำเท่าที่เราทำได้มากที่สุด ก็คือลงบันทึกประจำวัน แล้วก็มีการคุยกับทางหมู่บ้าน ให้เขารักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แล้วก็เช็กให้ดีๆ มากขึ้น จริงๆ ก็ไม่ได้อยากไปเอาเรื่องเขาขนาดนั้น เพราะเราก็เข้าใจเขาเหมือนกัน ตอนนี้ก็เหมือนจะยังมีมาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอจะจะ เพราะตอนนี้พี่รักษาความปลอดภัยเขาช่วยดูอยู่ครับ

จริงๆ ผมก็ขอบคุณมากที่ติดตามและชื่นชอบผลงาน หรือชื่นชอบผม แต่ผมว่าถ้าสะดวกมากกว่า เราก็มาเจอกันที่งานดีกว่า คือถ้ามันเป็นผมคนเดียว ผมจะไม่อะไรเท่าไหร่ แต่มันมีคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่ด้วย กลัวเขาจะรำคาญ ไม่เข้าใจ หรือว่าจะเกิดอันตรายกับเขาได้ ก็ขอให้มาเจอกันที่งานดีกว่าครับ”