“บอม KPN” เคลียร์ตรงกันกับ “มีน จิรฏฐ์” ยังไม่พร้อมจดทะเบียนสมรส เพราะยังติดเรื่องธุรกิจ อยากให้ทั้งสองครอบครัวยอมรับกันแบบสนิทใจก่อน เพราะเพิ่งได้รับการยอมรับจริงๆ เมื่อไม่นาน แต่มีแพลนอยากจะจัดงานแต่งงานไว้แล้ว คิดธีม คิดสถานที่ไว้เรียบร้อย แค่รอเวลาที่เหมาะสมก่อน
เป็นคู่รัก LGBTQ+ อีกคู่ที่คบกันมานาน และเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมต่อสู้กับกฎหมายสมรสเท่าเทียมมาโดยตลอดด้วย สำหรับคู่ของ “บอม อนุรักษ์ บุญเพิ่มพูล” หรือ “บอม KPN” และหนุ่ม “มีน จิรัฏฐ์ เกตุภู่” ตอนนี้กฎหมายผ่านเรียบร้อย และหลายๆ คู่ก็จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ทำให้คู่นี้ก็ถูกถามจากแฟนๆ ที่คอยเชียร์ว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นจดทะเบียนกันบ้าง ล่าสุดได้เจอทั้งคู่พร้อมกัน เจ้าตัวก็เลยชี้แจงว่าขอเป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อม ติดเรื่องธุรกิจและครอบครัว
บอม : “ก็ดีใจกับหลายๆ คู่ครับ ก็มีหลายๆ คนที่รอคอยมากๆ เราเองก็รอคอย แต่ด้วยความที่เราสองคนยังไม่พร้อมในเรื่องของการแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส เพราะเรายังไม่มีทรัพย์สินให้แบ่งกันเลย (หัวเราะ)”
มีน : “ไม่หรอก จริงๆ แล้วเราทำธุรกิจด้วยกัน ก็กลัวเรื่องของข้อกฎหมายบางอย่างที่ถ้าสมมติมันล้มขึ้นมา ก็จะกลายเป็นล้มคู่ ซึ่งในพาร์ตของความรักมันไปด้วยกันอยู่แล้วแหละ แต่ในพาร์ตของธุรกิจบางทีก็ต้องจัดสรรมันหน่อย ถามว่าในเรื่องของกฎหมายยังขาดอะไรไหม ส่วนตัวผมว่าทุกอย่างมันพร้อมของมันอยู่แล้ว จริงๆ ก่อนที่จะมาสู่ในพาร์ตของนิตินัย มันอยู่ในพาร์ตของพฤตินัยอยู่แล้วของทุกคู่ เพราะฉะนั้นคิดว่าก่อนที่เขาจะไปจดกัน เขาน่าจะประมวลผลหลายๆ อย่างและคิดดีแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับแค่ตัวหนังสือหรือเรื่องของกฎหมายครับ”
บอม : “ของเราก็ติดเรื่องของธุรกิจและมองในเรื่องความรู้สึกของคนในครอบครัว คือถ้าเขายังรู้สึกว่าเรายังไม่ได้พร้อมขนาดที่ต้องมาจดทะเบียนกัน เราก็ยังให้เกียรติกับพ่อแม่ จนทำให้เขารู้สึกว่าเราพร้อมจริงๆ ใช้ชีวิตและสามารถดูแลเขาได้แบบเต็มที่ แล้วค่อยคุยในพาร์ตนี้กับครอบครัวดีกว่า”
มีน : “มันยังมีเรื่องของความเข้าใจบางอย่างของคุณพ่อทางมีนด้วย เพราะยังไม่ได้คุยในรายละเอียดกับเขาเท่าไหร่ ในพาร์ตของการใช้ชีวิตคู่ก็เพิ่งจะได้การยอมรับมาไม่นานนี้เองครับ กับการที่พี่บอมกลับบ้านไปแล้วเจอเขา ก็เริ่มได้ยินคุณพ่อถามถึงพี่บอม ก็มีการเริ่มยอมรับตรงนี้ แต่เรื่องของการจดทะเบียนสมรสอาจจะยังเอ๊ะอยู่สำหรับเขานะครับ แต่คุณพ่อก็รับทราบเรื่องสมรสเท่าเทียมครับ แต่มันก็ยังมีเรื่องของช่องว่างระหว่างเจนเนอเรชั่นบางอย่างที่เรารู้สึกว่าเราอยู่จุดไหนแล้วเรามีความสุข ครอบครัวมีความสุขแล้วไปด้วยกัน”
บอกอยากให้ครอบครัวเปิดใจยอมรับจริงๆ ก่อน
มีน : “พอคนถามเยอะๆ ส่วนตัวผมนะผมไม่ได้กดดัน เพราะถ้าคนถามผมก็พร้อมตอบโดยมีเนื้อหาเดียวกัน ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์บอกไปเลยดีกว่า จะได้บอกทีเดียวเลย”
บอม : “ของคู่เรามันยังติดอีกหลายๆ ปัจจัยรวมกันครับ ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจหรือครอบครัว คือปีนี้เราก็คบกันเข้าปีที่ 10 แล้วครับ”
มีน : “แต่ที่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวแล้ว ส่วนตัวผมดีใจนะ เพราะเวลากลับบ้านไปเราก็ไม่ได้อยากให้เกิดประเด็นอะไรขึ้น เพราะเรากลับบ้านเราก็อยากกลับไปที่เซฟโซนของเรา และคำว่าคอมฟอร์ทโซนจริงๆ มันไม่ควรมีรอยแผลหรือบาดแผลเกิดขึ้น ในจุดนั้นก็เลยรู้สึกว่าดีใจและสบายใจครับ”
บอม : “คือ ณ วันนี้เรายังไม่ได้มีการคุยกับครอบครัว แต่สมมติเวลามีนกลับบ้านคนเดียว ครอบครัวของมีนก็จะถามหาบอม หรือถ้าบอมกลับคนเดียว แม่ก็จะถามหามีน ก็รู้สึกว่าสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราสบายใจที่เวลาคนของกันและกันเขาถามหา เขาเป็นห่วง ณ ตอนนี้คู่ของเราก็เรียนรู้กันไปอยู่แล้ว แต่กับครอบครัวก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไปด้วย ให้มันจุดที่สามารถเป็นครอบครัวกันจริงๆ ได้”
มีน : “ถามว่าการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่เราสำคัญยังไงบ้าง ผมมองว่าสำคัญนะ อย่างที่บอกว่าพอเป็นในเรื่องของข้อกฎหมาย มันเป็นตัวการันตีของชีวิตคู่สำหรับครอบครัวที่เขายอมรับตรงนี้จริงๆ และต่อให้มันเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ คู่แม้กระทั่งคนที่เป็นคู่ชีวิตหรือครอบครัวของคู่ชีวิตคนนั้นด้วย มันคือความชัดเจนที่เกิดขึ้นว่าทั้งสองคนไม่ได้อยู่แค่ในรูปแบบพฤตินัยแล้วนะ แต่ตอนนี้คุณเป็นคู่สมรสที่มีข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วนะ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ต้องคิดดีๆ แต่ก็ยังไม่ได้แพลนเลยว่าจะอีกสักกี่ปี ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย เพราะรู้สึกว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบนี้มันก็มีความสุขอยู่แล้ว”
เผยมีการคิดเรื่องแต่งงานไว้แล้ว
บอม : “จริงๆ ก็มีคุยกันเรื่องงานแต่ง เราคิดว่าธีมจะออกมาเป็นอะไรยังไง แต่เรายังไม่ได้คิดกันว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน เอาที่เราสองคนพร้อมจริงๆ ดีกว่า ล่าสุดไปงานแต่งเพื่อนมาก็อินมากจนกลับมาคุยกันเรื่องงานแต่ง แต่สุดท้ายก็คุยกันว่ารอให้ถึงจังหวะเวลาก่อนดีกว่า แต่เอาจริงๆ มีนเขามีลิสต์ไว้แล้วว่าขั้นตอนนี้ๆ มีใครบ้าง และในอนาคตข้างหน้าจะมีใครที่อยู่ในชีวิตเขาบ้าง”
มีน : “ก็มีคิดไว้หลายอย่างครับ แต่จริงๆ วางเรื่องธีม เรื่องสถานที่เอาไว้ ลิสต์ไว้ครับ ถ้าบอกว่าคู่เรามีส่วนช่วยผลักดันกฎหมายตรงนี้ จริงๆ มีนคิดว่าคู่ตัวเราเองเป็นส่วนเล็กๆ มากเลยนะที่ไปช่วยขับเคลื่อนเรื่องนี้ แต่ก็รู้สึกดีใจกับทุกคู่ที่เขาคาดหวัง เพราะของคู่เรามันมาในพาร์ตของพฤตินัยและถูกยอมรับลงตัวแล้ว แต่บางคู่เขาก็อยากได้จุดๆ นึงที่ครอบครัวยอมรับด้วย คือคำว่าสมบูรณ์แบบในแต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกัน ผมเชื่อว่าทะเบียนสมรสที่มันเกิดขึ้น มันเป็นอีกจุดหนึ่งที่กลายเป็นความสมบูรณ์ของหลายๆ ครอบครัวที่เขาคาดหวังจุดนี้ไว้ ก็ดีใจที่มันเกิดขึ้นสักทีครับ ก็อยากจะฝากบอกแฟนๆ คลับว่ามาแน่ แต่รอหน่อยนะ (หัวเราะ)”
