“ต้าห์อู๋ พิทยา” วอนเอฟซีอย่างอน เจอกันนอกเวลางานแล้วไม่คุยด้วย ลั่นไม่ได้หยิ่ง อยากให้เข้าใจว่าตนกำลังปกป้องทุกคนอยู่ เพราะเป็นกฎของบริษัท ฝ่าฝืนตนจะโดนปรับ รักศิลปินเจอกันในพื้นที่เวลางาน ไม่ตามไปถึงพื้นที่ส่วนตัว เผยตอนนี้ย้ายที่อยู่หนีเพื่อความปลอดภัยแล้ว
เคยออกมาโพสต์ว่าถูกแฟนคลับคุกคามตามไปยังพื้นที่ส่วนตัวทั้งที่พักและรถยนต์ เมื่อถามเรื่องนี้กับ “ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว” อีกครั้งว่าสามารถจัดการกับเหล่าซาแซงได้หรือยัง เจ้าตัวก็อัปเดตว่า…
“ได้แจ้งความแล้ว ส่วนตัวผมไม่มีอะไรแต่ทางค่ายรู้สึกว่าปล่อยไปไม่ได้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะตามได้ถึงไหน ผมไม่ได้อยากจะเอาเรื่องอะไร ถือว่าเป็นการเตือนแล้วกัน ขำๆ ดีเนอะ ไม่ได้มีเวลาว่างมาทำอะไรขนาดนั้น ก็มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดครบหมด มันต้องไปรอติดต่อหลายฝ่ายเหมือนกัน ติดต่อทางตำรวจแล้วตำรวจก็ต้องไปสืบสวนต่อ แล้วก็ต้องไปขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ต่างๆ เรียกได้ว่าก็พอเดาคนได้เหมือนกันว่าใคร ในหมู่แฟนคลับเขาก็มีเบาะแสกัน แฟนคลับเองก็ช่วยกันหาหลักฐานด้วยว่าเป็นใครที่มาคุกคาม ผมไม่มีความหลอน หรือแพนิกกับเรื่องนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าจะตามเอาเลขทะเบียนผมไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล มันไม่มีอะไร อย่าเลย รถผมก็ขูดๆ ขีดๆ แล้ว อย่าทำรถผมเลย ประกันก็ไม่เอาแล้ว”
เชื่อตอนนี้ยังมีคนตามตนอยู่ แต่ตนย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
“ผมว่ายังมีคนตามเรื่อยๆ แต่ผมไม่เห็นมากกว่า ตอนนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการย้ายที่ ไปอยู่ใกล้ๆ บ้านหม่าม๊าอยู่กับครอบครัว ตอนนี้ตามไปก็ไม่เจอผมนะ เจอแต่แมว (ไม่กลัวการสะกดรอยตาม?) เราก็อยู่ในที่ที่มันปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ตอนแรกผมอยู่ในคอนโดที่มันก็ไม่ได้มีความปลอดภัยมาก มันกว้างไง ตามประสาคนงบน้อย คือเอาไว้ใช้วางของไง
แฟนคลับช่วยกันเตือนช่วยกันสอดส่อง ทุกอย่างผมอยากให้เป็นไปตามกฎตามนโยบายทางค่าย ต่อให้ผมอยากจะมีความส่วนตัวแค่ไหน ผมเองก็ต้องเคารพค่ายเหมือนกัน มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็เข้าใจกันเพราะตอนนี้แฟนคลับผมค่อนข้างหลากหลาย วัฒนธรรมต่างชาติก็ไม่เหมือนกับเรา แต่สุดท้ายแล้วผมมาจากค่ายวัน 31 ถ้ามีกฎห้ามตามนอกเวลา ผมเข้าใจนะเวลาผมไปเจอข้างนอก แฟนคลับงอนคิดว่าเราไม่คุยด้วย แต่อยากให้เข้าใจด้วยว่าผมเองปกป้องพวกคุณอยู่ ผมไม่อยากให้คุณเป็นจำเลยสังคม ทำไมไปตามน้องนอกเวลางาน พวกคุณก็จะโดนกล่าวหาว่าเป็นซาแซง ถ้าเรารักกันเราก็รักษากฎระเบียบจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เดี๋ยวผมจะหางานมาให้ทุกคนได้เจอผมทุกวัน
ถ้าเราเจอกันนอกเวลางาน สุดท้ายมันเป็นความไม่สบายใจระหว่างตัวศิลปินเองกับแฟนคลับที่เขาทำตามกฎระเบียบ สุดท้ายคุณเองก็ทำให้เราไม่สบายใจ ขอบคุณที่รักกันนะครับ ผมก็รักพวกคุณ แต่ที่ผมไม่คุยอย่างอนผมเลย หรือที่ผมไม่อยากสื่อสารด้วยระหว่างที่ผมอยู่นอกเวลางาน หรือไม่ให้ถ่ายรูป นั้นคือผมกำลังทำตามกฎบริษัทอยู่จริงๆ ไม่ได้หยิ่ง ผมเป็นดาราที่เฟรนด์ลี่มาก เข้าถึงง่าย แต่เดี๋ยวหมดตัวนะถ้าโดนค่ายปรับ”
ยังไม่มีผลกระทบต่อทรัพย์สินตน ฝากถึงแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศรักศิลปินอย่างมีขอบเขต
“ตอนนี้ยังครับ ผมไม่รู้นะว่าเจตนาเขาเป็นยังไง แต่ไม่อยากให้ไปถึงตรงนั้น ผมอยากบอกแฟนคลับ ถ้าตรงนี้สามารถแปลเป็นภาษาต่างประเทศ หรือข่าวนี้ไปถึงแฟนคลับต่างประเทศด้วยรวมถึงคนไทยด้วยกันเอง คือเรารักกันได้ รักกันแบบมีขอบเขต พอคุณตามไปนอกเวลางาน คุณได้โมเมนต์กับเขา แต่แฟนคลับที่เขาทำตามกฎระเบียบเขาจะเสียใจ ตัวศิลปินที่คุณรักก็จะตกเป็นจำเลยเหมือนกันเพราะความใจดีของเขา
คุณใช้ความใจดีของศิลปินทำร้ายตัวเขาเอง แล้วก็ทำร้ายแฟนคลับที่เขารักศิลปินด้วย สุดท้ายตัวคุณเองก็โดนเหมือนกัน คุณก็ตกเป็นจำเลยสังคมถูกกล่าวหาว่าเป็นซาแซง ทั้งๆ ที่ทั้งหมดมันเกิดจากความรักหมดเลย แค่ทำตามกฎระเบียบเท่านั้นเองขอแค่นี้ อดใจไว้รอเจอกันตามงานอีเวนต์ (ไม่กลัวการประชิดตัว?) ผมไม่กลัวแต่อย่าทำถึงขั้นนั้นเลย ยังไม่เคยโดนครับ”
