“อิ้งค์ วรันธร” ตกใจและขนลุก หน้าโขก “วันทอง” ภาพวาดบนฝาผนัง ลั่นบทเลือกคน ได้เป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องวันทอง มองเป็นพรหมลิขิต แทบจะเปิดสำนักมู ให้ “เฟย” เพื่อนสนิทสมหวังได้เล่นหนังเรื่องเดียวกัน
นานๆ จะรับงานแสดง สำหรับนักร้องสาวเสียงดี “อิ้งค์ วรันธร เปานิล” ล่าสุดก็โดดขึ้นแท่นนางเอกภาพยนตร์เรื่อง “วันทอง” โดยอิ้งค์เปิดใจว่ากดดัน แต่ที่ตัดสินใจรับเล่นเพราะผู้กำกับอย่าง “มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ” เผยว่าภาพวาดวันทองบนฝาผนังที่ไปเห็นมาหน้าโขกตนมาเลย
“ตอนแรกแอบกังวลนิดนึงเหมือนกัน จากที่เคยอ่านหรือเคยดูผลงานหลายๆ คน พี่ๆ ในวงการ รู้สึกว่าเขาทำไว้ดีเยอะมาก เราเป็นศิลปิน ร้องเพลง การที่จะมาเล่นหรือทำอะไร ก็ต้องทำการบ้านมากกว่าคนอื่น แต่พี่มุก ปิยะกานต์ ผู้กำกับ บอกว่าเหมาะมาก เราก็เอ๊ะ หรือเราดูหลายใจ (หัวเราะ) ไม่ใช่ พี่มุกไปเจอภาพเพ้นท์ อิ้งค์ไม่แน่ใจว่าที่ไหน หน้าเหมือนหนูมากเลย หนูก็ขนลุก พี่มุกบอกว่าตอนแรกไม่มีใครในใจเลย แต่พอเห็นภาพนี้แล้วคิดถึงอิ้งค์เลย ก็โอเค ลองแคสดู ก็เลยลองทำแคสติ้งกับพี่มุก ตอนทำก็ยากมาก เขาจะมีบทยากๆ ที่ไม่ได้ทำในชีวิตประจำวัน เหมือนย้อนยุคด้วย แต่ไม่รู้ทำไม เหมือนพี่มุกเล่าอินสไปร์มาแล้วเราเล่นเข้าใจมาก เราอิน ก็เลยได้มารับบทเป็นวันทอง
ภาพที่พี่มุกเห็น หนูก็เห็น เหมือนจริง ตกใจมาก ก็ขนลุก พี่มุกทำเฟรมเทียบกัน หน้าเขากลมๆ ตากลมๆ เฮ้ย มีความคล้ายมากๆ เป็นพรหมลิขิต อย่างที่พี่มุกบอกว่าบทเลือกคน ไม่แน่ใจพี่มุกไปดูภาพตามฝาผนังที่ไหนมา เป็นภาพฝาผนังที่เขาวาดเรื่องวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนนี่แหละค่ะ แล้วตัววันทองที่เขาวาดหน้ากลมๆ ตากลมๆ ขาวๆ ค่ะ ภาพนานมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นภาพที่วัดหรือเปล่าค่ะ หนูก็ตกใจว่าเอ๊ะ มีความคล้ายมาก พี่มุกก็บอกว่าอิ้งค์ลองเล่นก่อน อิ้งค์เลยโอเค งั้นลองดู หลังเห็นภาพเราก็มีแคสติ้งนะคะว่าเราจะสามารถเข้าใจบทไหม
พอพี่มุกเล่าสิ่งที่อยากทำ ตัวอิ้งค์รับบทเป็นพิมพ์มาดา เป็นผู้หญิงในยุคปัจจุบันที่เป็นนักเขียน เขาหลุดไปในโลกขุนช้าง ขุนแผน มีวันทองอยู่ในนั้น คือตื่นมารู้ตัวว่าอยู่ในวรรณคดีที่ฉันกำลังเขียนอยู่เหมือนกัน ตื่นมาก็จะรู้ว่าตัวเองมีชะตากรรมอะไร ถ้าฉันรักสองคนนี้ จะโดนประหารไหม เป็นการเอาตัวรอดค่ะ เราตื่นมาเป็นวันทองเลย อินสไปร์มาจากเรื่องรติรส ไม่นำพาค่ะ ส่วนวันทองจะหลายใจอยู่ไหม ก็ลองดูค่ะ อาจแตกต่างจากที่ทุกคนเคยดู”
กดดัน อยากทำให้ดี
“อิ้งค์ก็กดดัน เป็นศิลปิน นานน้านจะรับภาพยนตร์หรือการแสดง แต่ถ้ารับแล้วก็อยากทำให้ดีที่สุด ยิ่งเห็นพี่หมาก (ปริญ สุภารัตน์) กลัฟ (คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) คนร่วมงานทุกคนเขาเก่งมาก เรารู้สึกว่าเราต้องทำการบ้านหนักกว่าปกติมาก อิ้งค์รู้สึกว่ากดดันเรื่องภายนอกด้วยนิดนึง แต่สิ่งที่อยากทำที่สุดคืออยากให้ตัวพี่มุกเองถ่ายทอดสิ่งที่เขาอยากจะสื่อสารเข้าไปในหนังเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด อิ้งค์ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องประเด็นว่ารักใคร ไม่รักใคร เลือกใครไม่เลือกใคร อิ้งค์รู้สึกว่าประเด็นที่พี่มุกอยากสื่อสารมันมีเยอะกว่านั้น ถ้าเราสามารถส่งสารนี้ให้คนดูได้เต็มที่เราจะแฮปปี้ กดดันตรงนั้นมากกว่าอยากให้พี่มุกแฮปปี้ด้วย
ถามว่าคาดหวังไหม คาดหวังนะ อิ้งค์ว่าทุกคนที่ทำโปรเจกต์นี้ตั้งใจมากๆ ตัวอิ้งค์เองรู้สึกว่าการมารับบทที่มีความท้าทายขนาดนี้ ก็คาดหวังมากๆ อยากให้ตัวเองทำออกมาได้ดีที่สุด ลุคหนูเป็นคนเรียบร้อย (หัวเราะ) แต่จริงๆ เป็นคนที่เฮฮาและมีเพื่อนเป็นผู้ชายค่อนข้างเยอะ เช่นเฟย (ภัทร เอกแสงกุล) เป็นเพื่อนหนู ตอนที่หนูเจอเฟย หนูไปเวิร์กช็อปพอดี เฟยไปแคสติ้ง หนูได้รับบทแล้ว เลยไปเวิร์กช็อป เราไปที่เดียวกัน เฟยก็มาแคสเหมือนกัน เราก็บ๊ายบายจบกลับบ้าน สักพักเฟยโทร.มาบอกว่าแคสแล้วสนุกมากเลยว่ะ อยากเล่น เราก็ถามว่าแล้วทำไงดี เขาบอกว่าหรือว่าต้องไปมู เราก็บอกว่าถ้าอยากมู อยากมูอะไร บอกมา (หัวเราะ)”
ไม่ได้เปิดสำนัก แค่อยากช่วยเพื่อนให้สมหวังได้เล่นหนังด้วยกัน
“เราไม่ใช่สำนัก (หัวเราะ) แต่หนูเป็นฟีลชอบช่วยเหลือคนอื่น ก็ถามว่าอยากมูอะไรให้บอกมา หนูก็ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และถามพี่ๆ ในวงการว่าถ้าจะมูแบบนี้ต้องเอาอะไรไปไหว้บ้าง หนูก็ไปตามหามา สรุปว่าของที่ต้องไหว้ มีประมาณ 10 อย่าง เยอะมาก หนูก็รู้สึกว่าเพื่อนหนูเป็นชายแท้ ไม่เตรียมของเองแน่นอน พอดีวันนั้นผู้จัดการและคุณแม่ว่างพอดี ทุกคนก็รักเฟย เฟยเคยมาบ้าน ก็เลยโอเค เดี๋ยวช่วยไปซื้อให้ หนูก็ไปซื้อให้แล้วส่งเดลิเวอรี่ไปที่บ้านเฟย
เฟยก็ตกใจว่าชุดใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ ยามที่คอนโดถามว่าไหว้พระหรือครับ (หัวเราะ) จริงจังมาก วิดีโอคอลเพื่อสอนเพื่อนว่าต้องวางจุดไหน หนูไม่เคยทำ แต่ไปหาข้อมูลมาให้เพื่อนค่ะ พี่ผู้จัดการบอกว่าต้องทำยังไง อย่าลืมเปิดขวดน้ำปักหลอดนะ เพราะเพื่อนเป็นชายแท้ไม่เคยไหว้
หนูถามเฟยว่าอยากไหว้อะไร เฟยบอกไม่รู้เหมือนกัน ก็เลยถามว่างั้นนึกถึงอะไร เฟยก็ตอบว่าท่านพญานาค จริงๆ หนูเคยไปสักการะเหมือนกันเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ไม่ได้ขอ มู อะไรขนาดนั้น เลยบอกเพื่อนว่าไปถามคนรู้มาให้
เมื่อกี้เพื่อนถามว่าต้องรำไหม (หัวเราะ) เพราะต้องไปไหว้อีกรอบแล้วกัน ไหนๆ ก็ได้แล้ว เพื่อนถามว่าต้องรำไหม ก็บอกว่าถ้ารำท่านอาจไม่ให้ เพราะท่านไม่อยากดู (หัวเราะ) หนูมาเล่าให้พี่มุกฟังหลังพี่มุกเลือกเฟยแล้ว พี่มุกบอกว่าเอ๊ะ หรือว่าที่เลือกโดนมนต์หรือเปล่า แต่จริงๆ เฟยเขาเหมาะด้วยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนมีความสามารถนะคะ (หัวเราะ) สมมงค่ะ”
ป่วยเส้นเสียงอักเสบเพราะฝุ่นตั้งแต่ปลายปี ตอนนี้ยังไม่ได้ลดลง
“คนปกติต้องหายใจทางจมูก แต่นักร้องต้องหายใจผ่านคอตลอด เพลงนึงหายใจทุกประโยคเลย จริงๆ เอฟเฟกต์มาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วค่ะ มีการป่วยเส้นเสียงอักเสบไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ลดลง และอาจทำให้คนทำงานกลางแจ้ง ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้รับผลกระทบเยอะค่ะ พรุ่งนี้อิ้งค์มีรับงานกลางแจ้ง ถ้าออกไปเฉยๆ ก็อาจต้องใส่มาสก์กันไว้ก่อน แต่ถ้าต้องออกไปร้องเพลงจริงๆ ก็เลี่ยงไม่ได้
ปลายปีที่แล้วใช้เสียงเยอะ โดนฝุ่นเยอะ เส้นเสียงอักเสบ จะไอง่าย คุณหมอเป็นคนที่นักร้องในวงการแทบ 90 เปอร์เซ็นต์ไปหา ฉะนั้นเขาจะเข้าใจวิถีนักร้องมาก ว่าถึงป่วยก็หยุดใช้เสียงไม่ได้ คุณหมอก็ให้การรักษาที่คิดว่านักร้องยังสามารถใช้เสียงได้และสามารถรักษาควบคู่ไปด้วย จริงๆ เข้าไปในห้องหมอ มีโปสเตอร์ศิลปินแทบจะทุกคนอยู่เลย (หัวเราะ) แทบจะเป็นหนึ่งในทีมงานแล้วคุณหมอท่านนี้
อิ้งค์ว่าตัวศิลปินเอง บางทีเลือกกลางแจ้งหรืออินดอร์ไม่ได้ เพราะเวลารับงาน เรารับล่วงหน้าหลายเดือน ไม่สามารถรู้ได้ว่า ณ วันนั้นฝุ่นจะมีไหม ก็อาจต้องเป็นดุลยพินิจของเจ้าของงานด้วย ว่าเขารู้สึกคอนเซิร์นถึงจุดนี้ไหม แต่มีหลายที่ที่เขาจัดไม่ได้จริงๆ เขาก็เข้ามาข้างในก็มีบ้างค่ะ แต่จริงๆ อิ้งค์คิดว่าคนจัดงานอยากจัดงานให้ดีที่สุด เขาจัดงานล่วงหน้าหลายเดือนเหมือนกัน ก็ใจเขาใจเราค่ะ 1 ชม.แลกกับการที่เขาตั้งใจทำงานตลอด เราก็รู้สึกว่าช่วยกันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ฝุ่นลดลงเร็วๆ ค่ะ จะได้ดีต่อทุกฝ่ายด้วยค่ะ จริงๆ อิ้งค์ไม่ค่อยมีวิธีการอะไร แต่อิ้งค์จะดื่มน้ำเยอะๆ อิ้งค์ว่าดีต่อทุกอย่าง นักร้องเวลาร้องเพลงนานๆ จะชอบลืมดื่มน้ำ หลังๆ ดื่มน้ำตลอดทำให้เส้นเสียงไม่ถูกกันจนเจ็บค่ะ”
