“แต้ว ณฐพร” เผยโมเมนต์เป็นเจ้าสาวแต่งงาน “ไฮโซณัย” ตัวชาไปเลยเหมือนกัน เล่าจดทะเบียนสมรสเปลี่ยนนามสกุล แต่ยังใช้นางสาว แม้จะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้วแต่ก็ยังต้องศึกษาค้นหากันและกันต่อไป จากนี้อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
แม้จะเล่าว่าชมแฟนสาวว่าสวยในทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้วันมงคลพิเศษ “ไฮโซณัย ประณัย พรประภา”เอ่ยปากชมวันนี้ เจ้าสาว “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” สวยทุกชุด ซึ่ง แต้ว-ไฮโซณัย ได้จัดงานแถลงข่าวพิธีมงคลสมรส ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ (ถนนเจริญกรุง) บอกเล่าความรู้สึกของวันแรกที่เป็นสามีภรรยากัน แต้วเล่าว่าแม้จะไปมาหลายงานแล้ว แต่พอถึงงานของตัวเองรู้สึกตัวชาไปเลยเหมือนกัน
แต้ว : “มันเหมือนชาไปเลยนะ ที่ผ่านมาเราเองก็เคยไปงานแต่งงานมาเยอะ งานที่โรงแรมนี้เราก็เคยมา พอเป็นงานของตัวมันกลายเป็นที่ใหม่ไปเลย ทุกอย่างเราค่อยๆ รับรู้ใหม่รู้สึกแฮปปี้มากๆ ตอนที่เดินเข้าไปในห้องแล้วทุกคนมองมาด้วยความรักจริงๆ เป็นกำลังใจให้เรา อยากเห็นเรามีความสุข ก็ตื้นตันมากค่ะ”
ณัย : “มีความสุขครับ วันนี้ได้เจอคนที่เราไม่ได้เจอกันมานาน ได้เจอครอบครัวแต้วที่รับผมอย่างอบอุ่น ก็รู้สึกโล่งใจที่ได้แต่งงานแล้ว”
เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ใส่ชุดไทยโบราณของ “อ.วีรธรรม ตระกูลเงินไทย” ในช่วงพิธีทำบุญตอนเช้า บอกเป็นผ้าที่มีเทคนิคในการทำหายไปเป็น 100 ปี
แต้ว : “พิธีเช้าเราทำบุญกันก่อน มีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ แล้วก็พิธีหมั้นก็จะมีสวมแหวน ยกน้ำชา รดน้ำสังข์ ตอนเช้าที่ทำบุญก็ได้มีโอกาสใส่ชุดไทย ที่ อ.วีรธรรม เป็นคนออกแบบ เราสองคนรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เพราะผ้าที่ใช้มีเทคนิคในการทำที่หายไปเป็น 100 ปีแล้ว เรียกว่า ปัตหล่าปัตทองแล่ง เราสองคนตื้นตันมากๆ ก็ขอบคุณ อ.วีรธรรมมากๆ ในความตั้งใจดีของอาจารย์และทีมงาน ณัยเองก็ไม่เคยนุ่งโจงกระเบนที่เป็นทางการแบบนี้มาก่อน ถือเป็นเกียรติกับเรามากๆ
(เป็นความตั้งใจที่ใช้เครื่องทองเป็นพญานาค?) ความตั้งใจของแต้วตั้งแต่แรกเลยที่จะจัดงานแต่งงาน คือแต้วอยากให้ อ.วีรธรรมเป็นคนทำชุดให้ ทุกอย่างเป็นการออกแบบผ่านอาจารย์เลย”
ณัย : “ครั้งแรกที่ใส่ก็รู้สึกแปลกอยู่ เขาจะมีวิธีใส่ที่แปลกคือต้องนั่งยองๆ ให้เขาใส่ อาจารย์ทำมาสวยมาก ผ้าเป็นสีพยัคฆ์หมอกผสมสีทอง เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้สวมใส่ในงานพิเศษวันนี้”
แต้ว : “วันนี้ก็มีชุดทั้งหมด 5++ เป็นการทำการบ้านรอมีเผื่อไว้สำหรับสถานการณ์ต่างๆ”
เล่าบรรยากาศงานเช้าอบอุ่นมากๆ
ณัย : “เมื่อเช้าเป็นงานที่รู้สึกอบอุ่นมาก เป็นครอบครัวและคนสนิท ทุกคนก็ให้พลัง ก็รู้สึกดี รวมถึงแขกผู้ใหญ่ด้วย รู้สึกมีความสุขที่มีคนให้ค่าเรา มาในงานวันพิเศษของเรา ผู้ใหญ่ก็ฝากฝังไม่ได้ฝากณัยอย่างเดียว ก็มีฝากแต้วดูแลณัยด้วย ฝากให้ดูแลกันและกัน”
แต้ว : “อยากให้อยู่กันไปเป็นคู่ชีวิตไปนานๆ เลย คุณแม่แต้วก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะ พอจะเริ่มพูดก็บอกน้ำตาจะไหล ก็คงเอาไว้คุยกันสองคน แต่เราก็คุยกันอยู่แล้ว คุยกันมาเรื่อยๆ แต้วเองก็มีน้ำตาหลายช่วงนะคะ แต่ก็พยายามฮึบไว้ บ้านคุณณัยก็ให้คติการครองคู่กันจะต้องเข้าใจกัน เคารพกัน ทุกท่านก็มีแต่ความหวังดีที่อยากจะให้เราไปด้วยกันอย่างมั่นคง”
จดทะเบียนสมรสเปลี่ยนนามสกุล แต่ยังใช้นางสาว อุบสินสอด แหวน 3.9 กะรัต
แต้ว : “ตื่นเต้นนะคะ มาเป็นเปเปอร์เลย โอ้ว… ก็ดีค่ะ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ก็เปลี่ยนนามสกุลค่ะ แต่ยังใช้นางสาวอยู่ วันนี้ฤกษ์ดีด้วย ดีที่ทุกอย่างมารวมกันในวันนี้ ตอนแรกก็กังวลว่าจะเหนื่อยเกินไปไหม แต่ไม่เลย เหมือนถูกเติมพลังตลอดเวลา สนุกมาก”
ณัย : “เรื่องสินสอด จริงๆ คือผมยังไม่รู้รายละเอียดเลยครับ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกัน”
แต้ว : “แต่แหวนณัยให้เพื่อนมาแอบวัดไซซ์นิ้วแต้ว มารู้ทีหลังซึ่งก็นานมากแล้ว ก็พอดีค่ะแต่ตอนนี้หลวมไปหน่อยเพราะว่าผอมลง”
ณัย : “ให้ภรรยาของเพื่อนไปลองกันไปลองกันมา แหวนประมาณ 3.9 กะรัต เพราะถ้าเป็นเลข 4 สำหรับจีนอาจจะเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยดี”
แต้ว : “อาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็จะเป็นแนวคอนเสิร์ต เป็นวงที่เราชอบกันทั้งคู่ ค่ายเบเกอรี่มิวสิค พี่น้อย วงพรู พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก พี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์”
แม้จะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้วแต่ก็ยังต้องศึกษาค้นหากันและกันต่อไป
ณัย : “พอแต่งงานแล้วทุกอย่างที่ทำจะเป็นแชปเตอร์ต่อไปที่เราต้องมาค้นหาด้วยกัน”
แต้ว : “เราจะพูดกันตลอดว่าดูแลกันนะ แต้วว่าแค่นั้นก็ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ดีมากแล้วที่เรายังพูดกันอยู่ในทุกๆ วัน”
ณัย : “แต้วไม่ได้ทำตัวดารา เป็นนางเอกเท่าไหร่ แต้วก็เป็นตัวของตัวเองตลอดเวลา เป็นสิ่งนั้นที่ทำให้ชอบเขา และอยากจะรู้จักเขามากขึ้น ความประทับใจแรกที่ผมมีต่อเขาคือเขาส่งกาแฟมาให้แล้วก็เขียนโน้ตที่ค่อนข้างดีเทล ผมก็ยังเก็บมันไว้อยู่”
แต้ว : “ตอนแรกประทับใจที่เขาดูขรึมๆ เราก็ทำการบ้านว่าเขาชอบอะไร ก็ดูจะชอบอะไรคล้ายๆ กัน พอได้คุยกันแล้วก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ แมนๆ ดูเป็นผู้นำ แต่ดูดีฟ ทำให้รู้สึกว่าเขามีความเข้าใจและทำให้เรามองเห็นโลกในอีกมุมนึงที่เราอาจจะไม่ได้มองขาดขนาดนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้ดูจะพยายามอะไรกับเรา เขาเป็นตัวของตัวเอง ทำให้เรารู้สึกเชื่อมั่นในความคิดเขา รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดมีเหตุผลต่างๆ เขาทำให้เราทิ้งตัวได้ เพราะที่ผ่านมาเราจะเป็นคนที่คอยจัดแจง จัดการไปเสียหมด แต่พอมีเขาแล้วเรารู้สึกวางใจ (บางคู่เขาตื่นมาก็ต้องจุ๊บกันทุกเช้า?) จุ๊บได้ไม่ต้องรอตอนเช้า พูดเล่น พูดเล่นค่ะ”
ชีวิตที่เหลืออยากใช้ให้มีความสุขกับไฮโซณัย และได้อยู่ด้วยกัน
ณัย : “อยากจะไปไกลๆ เพราะน่าจะใช้เป็นข้ออ้างที่ไปได้นานหน่อย ก็อยากจะไปอเมริกาใต้ ผจญภัยนิดๆ”
แต้ว : “ส่วนเรื่องมีน้องก็อยู่ในแพลนกว้างๆ แต่ยังไม่ได้เคาะเมื่อไหร่ เดี๋ยวดูเรื่อยๆ ว่าเหมาะสมตอนไหน แต่เราก็คิดกันไว้ว่าน่าจะมีถ้าเราพร้อม เราสองคนเองก็ยังไม่เคยได้อยู่ด้วยกันขนาดนั้น เราก็ต้องมาเรียนรู้กันว่าแต่ละคนโอเคที่ตรงไหน เป็นช่วงของการเรียนรู้และศึกษากันไปก่อน ถึงจะแต่งงานไปแล้วแต่แต้วก็จะไปๆ มาๆ เพราะยังเป็นห่วงคุณแม่อยู่ ก็ช่วยกันดูแลกับพี่สาว ชีวิตที่เหลือของแต้วจากนี้ ก็อยากจะใช้ชีวิตทำให้ณัยมีความสุขมากๆ ในทุกวัน”
ณัย : “ก็จะดูแลกันให้ดีที่สุด”