“พีท ทองเจือ” ยันสร้างบ้านใหม่ไม่ถึง 100 ล้าน ไม่มีส่วนไหนเป็นของตนเลย ให้ลูกและภรรยาจัดการเองทั้งหมด ไม่เจอปัญหาจุกจิก แถมถูกบริษัทขอให้เป็นบ้านตัวอย่าง พาคนมาดูกันเป็นร้อย เร่งสุดๆ อยากให้เสร็จภายใน 3 เดือน ลั่นหลังบ้านไม่ง่าย หลังถูกยกให้เป็นพ่อและสามีตัวอย่าง เคล็ดลับอย่าให้ชีวิตสามีภรรยาจืดชืด ตกหลุมรักกันอีกครั้ง เหมือนเป็นแฟนกันวันแรก
อวดภาพบ้านหรู แม้ยังไม่เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เห็นถึงความอลังการอยู่ไม่น้อย ทำแฟนๆ คิดว่างบต้องทะลุ 100 ล้านแน่นอน แต่ล่าสุด “พีท ทองเจือ”ได้เผยระหว่างมาร่วมงานไทยพีบีเอส บวงสรวงละคร 3 เรื่อง ซึ่งพีทเป็นหนึ่งในนักแสดงของเรื่อง “ฝันของฉันคือฟันดาบ” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าจริงๆ แล้วงบไม่ถึง 100 ล้าน ก่อนแชร์เคล็ดลับในการเป็นคุณพ่อและสามีที่ตัวอย่าง
“(หัวเราะ) เป็นบ้านที่สาวๆ ลูกสาวและคุณเจ็ง (วิไลลักษณ์ ตระการรุ่งโรจน์) เป็นคนทำกัน ผมเป็นแค่ผู้ช่วยเฉยๆ ตอนนี้ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ผมไม่มีรีเควสส่วนอะไรเลย ให้เขาเลือกแล้วก็ตัดสินใจทำทุกๆ อย่างกันเอง เราแค่ซัปพอร์ตเฉยๆ ถามว่างบถึง 100 ล้านไหมไม่ขนาดนั้น เพราะเราใช้บริษัทใหญ่ทำงาน จะมีตัวเลขที่ค่อนข้างชัดเจน ให้คำแนะนำสำหรับคนที่จะทำบ้านนะครับ อาจจะมีเพื่อนที่มีผู้รับเหมา หรือคนสนิทก็ดี แต่ลักษณะนั้นสุดท้ายปัญหาคืองบจะบานปลาย ถ้าทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ตัวเลขทุกอย่างจะอยู่บนโต๊ะแล้วก็จะจบบนโต๊ะ แล้วก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นด้วย บริษัทคุมให้เรา เหมือนมีคนคุมบัดเจ็ตให้ ผมว่ามันดีกว่า เราเห็นตัวเลขที่ชัดเจนแน่นอน”
ไม่เจอปัญหาจุกจิก แถมถูกบริษัทขอให้เป็นบ้านตัวอย่าง พาคนมาดูกันเป็นร้อย
“ไม่เลยครับ เพราะที่บ้านเป็นบ้านตัวอย่างที่ทางบริษัทขอ สมมติมีลูกค้าอยากมาขอดูบ้าน เขาก็ขอให้ดูบ้านของเรา เป็นการบีบบังคับให้เขาทำให้ดีที่สุดด้วย เวลาไปเช็กบ้านช่างบอก โห วันก่อนมีรถตู้มา 5-6 คัน คนมาที่บ้านเป็นร้อยครับ พามาทัวร์ดูบ้านมาดูความเรียบร้อยในการสร้างของเขาว่าเป็นยังไงบ้าง มันก็ดี ผมบอกว่ารอบหน้าผมจะเอาหมูปิ้ง เอาก๋วยเตี๋ยวมาจอดขายข้างหน้า เพราะคนมาดูเยอะมาก ผมว่าดีนะ ใช้บริษัทสร้างบ้านดีกว่า”
เร่งสุดๆ อยากเข้าอยู่ภายใน 3 เดือน
“ทำมาเกือบปีเองครับ ถือว่าเร็วครับ เหลืออีกนิดนึงขั้นตอนตกแต่งก็เสร็จแล้ว ก็เร่งมากเลยครับ เร่งสุดๆ อยากให้อยู่ภายใน 2-3 เดือนนี้ให้ได้ พยายามให้เสร็จก่อนสงกรานต์ น้องเซย่าเพิ่งกลับมาจากอังกฤษด้วย ตอนแรกมีความหวังว่าน้องกลับมาจากอังกฤษน้องจะได้มาอยู่บ้านใหม่เลย สรุปแล้วก็ต้องรออีกนิดนึง”
ถอยออกมาให้สาวๆ เลือกทั้งหมด
“ก็สนุกในการเลือกของ ก็ให้สาวๆ เขาทำงานกัน ทุกอย่างที่บ้านเดินเข้าไปแทบจะไม่มีอะไรที่เราเป็นคนเลือกสักชิ้นเลย เพราะสไตล์ผม ผมชอบบ้านเป็นแวร์เฮาส์เป็นโกดังเป็นลอฟต์มันไม่ตรงกับสไตล์ใครเลย เราเลยเป็นคนถอยออกมาแล้วให้เขาเลือกทุกอย่าง ไม่มีส่วนไหนที่รีเควสเลยครับ (หัวเราะ) โรงรถก็ถูกลูกชายยึดไป ตอนแรกคิดว่าเราจะได้โรงรถนะ เราจะได้อยู่ในโรงรถ มีห้องทำงานอยู่กับรถที่เราชอบ แต่ปรากฏว่าเขาดึงไปทำหมดเลยผมก็โอเคไม่เป็นไร อาจจะเป็นสวน (หัวเราะ) งบไม่ถึง 100 ล้านขนาดนั้นหรอก อย่างที่บอกมันเป็นแค่การเปลี่ยนบ้านเฉยๆ จากบ้านหลังเก่าเปลี่ยนเป็นบ้านหลังนี้ เผอิญบ้านหลังเก่ามูลค่าค่อนข้างสูง เราแค่เปลี่ยนที่อยู่ เป็นอีกหลังหนึ่ง ใช้คำว่าไม่ต้องเดือดร้อนมาก”
หลังบ้านไม่ง่าย หลังถูกยกให้เป็นพ่อและสามีตัวอย่าง
“(หัวเราะ) มันไม่ใช่เรื่องง่าย หน้าบ้านอาจจะดูโอเค เป็นสามีตัวอย่าง แต่หลังบ้านทุกๆ วันยังอยู่ในขั้นตอนของการพยายามอยู่ในความเป็นผู้นำครอบครัว เป็นสามีหรือว่าเป็นคุณพ่อไม่มีเรื่องใดง่ายเลยครับ ยากมาก เพราะว่าน้องๆ ก็กำลังเป็นวัยรุ่นเต็มตัว สังคมก็หมุนไปเร็ว เราก็ไม่อยากให้น้องเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ในขณะเดียวกันก็อยากให้เขาเรียนรู้ในการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีเราให้ได้ด้วย การดูแลเป็นภรรยาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ปล่อยให้เขาอยู่ตามมีตามเกิด พยายามดูแลให้ดีที่สุด ค่อนข้างยากไม่ได้ง่ายเลยครับ”
เคล็ดลับอย่าให้ชีวิตสามีภรรยาจืดชืด เหมือนเพิ่งจีบกัน พยายามให้ประทับใจ เหมือนเป็นแฟนวันแรก ตกหลุมรักอีกครั้ง
“จริงๆ แล้วเวลาผ่านไปอย่าให้ทุกๆ อย่างที่มันเคยดี มันจืดชืดลงไป ถ้าเรามีเวลาว่างเราจะนึกถึงวันที่เราได้เจอกันวันแรก แล้วเราจะพยายามรักษาบรรยากาศนั้น หรือว่าถ้ามันหายไปก็พยายามเอามันกลับมาให้ได้ ไม่ใช่อยู่ไปแล้วเริ่มต่างคนต่างอยู่ แยกกันทำกิจกรรม หรือว่าคุยกันน้อยลงอะไรก็แล้วแต่ ความรู้สึกผมคือเหมือนพึ่งจีบกัน เรายังมีความพยายามที่จะทำให้เราประทับใจแล้วก็ชื่นชมเราในความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นสิ่งที่เราพยายาม ไม่ใช่อยู่กันมานานแล้วไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ เรายังดูแลอยู่ เดินไปขึ้นรถด้วยกันเรายังไปเปิดประตูให้เขา ให้เขาขึ้นไปนั่งบนรถปิดประตูให้ เขาหนาวก็หาเสื้อหนาวมาใส่ให้เวลาอยู่ข้างนอก ก็ยังดูแลเหมือนเป็นแฟนวันแรกๆ
สม่ำเสมอมาตลอด มันก็จะมีไทม์ไลน์ที่ตอนเลี้ยงน้องที่พี่รู้สึกว่าด้วยกิจกรรมของน้องอาจทำให้เราห่างกัน แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอยิ่งช่วงที่น้องเซย่าไปที่อังกฤษ เริ่มรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่คนในครอบครัวเริ่มโต เริ่มมีชีวิตของตัวเองแล้ว สิ่งที่เราฉุกคิดขึ้นมาได้ คือเราควรที่จะต้องใช้เวลาทั้งหมด ความตั้งใจทั้งหมดหันกลับไปสนใจภรรยาให้เยอะขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วน้องๆ เริ่มโตขึ้น เริ่มไปทำงานมีชีวิตส่วนตัว สุดท้ายก็จะเหลือแค่พ่อกับแม่ที่อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่พอถึงเวลาอยู่กัน 2 คนแล้ว แม่ก็ไปมีกิจกรรมของแม่ พ่อก็ไปมีกิจกรรมของพ่อ ไปตีกอล์ฟ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้ ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้นะตกหลุมรักเขาอีกทีนึง”
มีงานแสดงเรื่อยๆ แค่เปลี่ยนไปอยู่แพลตฟอร์มอื่น ต้องปรับตัว
“ผมแสดงเรื่อยๆ แต่ว่าช่วงหลังเรื่องที่แสดงส่วนมากออกไปอยู่ในแพลตฟอร์มอื่น เลยไม่ค่อยเห็นในทีวีเท่าไหร่ จะไปอยู่ที่อเมซอนไพร์ม 3 เรื่องติดแล้ว มีผลงานตลอดล่าสุดก็มีช่องเวิร์คพอยท์เรื่องเถ้ากระดังงา
ปีนี้จะมีผลงานให้ได้ชมอีกเรื่อยๆ ครับ ด้วยระบบของวงการบันเทิงเปลี่ยนไปเยอะ มีสตรีมมิ่งมีแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้การกระจายการมองเห็นของเรามันออกไปในพื้นที่ๆ กว้างกว่า แต่ในความแคบของการมองเห็นปกติทุกคนจะได้ดูทางช่องหลัก แต่ตอนนี้ช่องหลักน้อยลง
ผมทำงานมาตั้งแต่ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นทีวีขาว-ดำ ต้องใช้มือเดินไปหมุนตรงโทรทัศน์เพื่อเปลี่ยนช่อง จนมาถึงยุคนี้เป็นซูเปอร์ดิจิทัลไปแล้ว แล้วก็เป็นสตรีมมิ่ง สัญญาณลอยอยู่ในอากาศ ทุกคนดูทุกอย่างได้ 24 ชั่วโมง แค่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาดู ไม่ว่าคนดูหรือคนทำงานทุกคนต้องปรับตัวให้ทันใครตามไม่ทันก็จะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ แม้ทีมโปรดักชั่น หรือวิธีแนวความคิดในการนำเสนอ คอนเทนต์ต่างๆ เยอะมาก การแข่งขันสูงมาก ถ้าวิธีนำเสนอไม่น่าสนใจ เราจะถูกเลื่อนผ่านไปทันที ดีนะเนื้อหาเยอะ แต่ทุกอย่างต้องมีความแข็งแรงด้วยในเรื่องของคอนเทนต์แล้วก็เนื้องาน”
