“สนธิ” เรียกร้องความยุติธรรมให้ “แตงโม” ผูกพันตั้งแต่เด็ก เพราะ “พ่อโส” เป็นลูกน้องเก่า ชม “ณวัฒน์” บ้าระห่ำเหมือนกัน ด้าน “ณวัฒน์” ขนลุกได้รู้จัก “สนธิ” ยิ่งได้กอดยิ่งเป็นแรงบันดาลใจ ต้องทำตามเจตนารมณ์ต่อไป ท้าคนขู่ฟ้อง ขอให้ฟ้อง แต่ถ้าตนชนะจะฟ้องกลับ “อ.ปานเทพ” ชมทั้งคู่กล้าหาญ ความจริงต้องปรากฎ
ในที่สุดก็สมหวังหลังจากที่วันนี้ (22 ม.ค.68) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้มีคำสั่งอนุมัติให้ทำการสืบสวน หลังมีผู้ร้องเรียนให้สอบสวนคดี “แตง นิดา พัชรวีระพงษ์” หลังตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
ซึ่งช่วงสายวันนี้ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ผู้จัดการ ได้นัดผู้เกี่ยวข้องกับการจำลองเหตุการณ์วันที่ “แตงโม” ตกเรือ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 มาที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อเลี้ยงอาหารกลางวันขอบคุณบุคคลที่ช่วยกันเปิดโปงพิรุธ และเหล่าอาสาสมัคร ทั้ง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวทีมิสแกรนด์, อ.ปานเทพ พัวพันธ์พงศ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์อดีตศัลยเเพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนางงามมิสแกรนด์ ทั้ง 5 คน ฟ้าบาร์บี้ วิศัลย์ศยา ภคศุภกุล มิสแกรนด์เชียงใหม่ 2025 , ปอย เฌอลินณ์ ไกรอารยะพัทธ์ มิสแกรนด์นครพนม 2025 , เฟริน วีรินท์ แก้วปุกมิสแกรนด์นครสวรรค์ 2025 , นิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์ มิสแกรนด์ชุมพร 2025 , หนูวรรณ กัลยาวรรณ เพ็ชร์อินทร์ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา 2025 และ “ครูลิต้า วีรินดา อัครวาณิช” ครูสอนว่ายน้ำนางเงือก มีการมอบรางวัลตอบแทนทำเอามิสแกรนด์อึ้งไปตามๆ กัน ขณะที่ครูลิต้าถึงขั้นหลั่งน้ำตา
งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล เผยว่า ตนยืนอยู่ข้างหลัง อ.ปานเทพ และ ณวัฒน์ ต่อสู้ให้ได้ความยุติธรรม พร้อมออกมาปกป้องทั้งสองคนถ้ามีภัย รวมทั้งได้เล่าความผูกพันกับแตงโม ตั้งแต่วัยเด็ก
สนธิ : “วันนี้ผมก็อยากจะชวนคุณณวัฒน์ และน้องๆ มิสแกรนด์และทีมที่จำลองสถานการณ์ในวันนั้นมาทานข้าวกัน ผมยังยืนยันนะครับว่าผมยืนอยู่ข้างหลัง คุณปานเทพ และคุณณวัฒน์ และผมก็พร้อมที่จะออกมาปกป้องเขาทั้งสองคนถ้ามีภัยเข้ามา
มีคนถามว่าทำไมจะต้องทำอย่างนี้ สิ่งที่ผมต้องตัดสินใจทำนั้นเพราะ อาจารย์ธวัชชัย ที่อยู่ๆ ก็แวะมาที่ออฟฟิศ แล้วก็มาเล่าข้อเท็จจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ให้เราฟัง อาจารย์ธวัชชัยสู้มาตั้งแต่ต้น รวมถึงคุณอัจฉริยะด้วย อาจจะเพราะว่าแรงไม่พอ เลยต้องขอมาพึ่งแรงผม เอาจริงๆ เรื่องของแตงโมก็ไม่ได้ต่างกับเรื่องของทนายตั้ม (ษิทรา เบี้ยบังเกิด) ที่คุณอ้อยกลัวทนายตั้มจะใช้อำนาจโดยมิชอบต่างๆ ก็เลยให้คนมาหาผมให้ผมช่วย ผมก็ช่วยมาตลอดจนถึงวันนี้ ที่ผมช่วยคุณอ้อยมีเพียงข้อเดียวเพราะอยากให้คุณอ้อยได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม
กระบวนการยุติธรรมของเราฟังแล้วก็มีความหนักแน่น แต่ก็มีช่องโหว่อยู่มาก ข้าราชการโดยเฉพาะตำรวจหรืออัยการมักจะชอบใช้ช่องโหว่นี้เอารัดเอาเปรียบประชาชนทั่วไป ผมเองเป็นคนบ้าระห่ำ แล้วก็เป็นโรคความดันทุรัง ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ผมคิดว่าความกลัวคือความเสื่อม ก็เพราะว่าคนในประเทศไทยมีความกลัวมากจนเกินไป ไม่กล้าออกมาพูดความจริงกัน
ทุกสิ่งที่อย่างที่ อ.ปานเทพทำ คุณณวัฒน์ คุณอัจฉริยะ คุณหมอธวัชชัยทำ ผมรับรู้รับทราบและเกี่ยวข้องในทุกเรื่อง ผมไม่ได้ปลีกตัวหนี ในเรื่องบางเรื่องผมทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีภัยผมจะออกมาสู้ให้ คุณณวัฒน์เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย นิสัยบ้าระห่ำเหมือนกัน ชอบเดิมพัน แต่สิ่งที่เขาเดิมพันในความถูกต้อง ส่วนน้องๆ ทั้ง6 เป็นคนสวยทุกคนและยังจิตใจงาม ความสวยนั้นร่วงโรยและโรยราไปได้ แต่ถ้ามีจิตใจงามแล้วมันไม่ร่วงโรย จะทำให้เรางามตลอดไป ผมก็เลยอยากจะเลี้ยงข้าวเพื่อตอบแทนในความเสียสละที่เขาช่วยเหลือสังคมไทย พวกเขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น เขาเห็นว่าความยุติธรรมมันหายไป”
ชี้มีพิรุธมากมายที่ตอบไม่ได้
“การตายของน้องแตงโมมีพิรุธมากมาย เป็นพิรุธที่ตอบไม่ได้ ผมดีใจที่พวกเขาจำลองเหตุการณ์ตามคำให้การของคนบนเรือโดยไม่ได้ฉีกไปจากคำให้การ พอจำลองแล้วมันไม่ได้เป็นไปตามคำให้การตามเหตุการณ์ที่ตำรวจและพวกเขาสรุปกัน อาจารย์หมอธวัชชัยถูกเรียกตัวให้เป็นพยานเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไป แต่ถูกนายเดชา (เดชา กิตติวิทยานันท์) ตัดอาจารย์หมอธวัชชัยออกเพราะถ้าอาจารย์หมอธวัชชัยขึ้นให้การแล้วมันจะทำให้คำให้การระหว่างโจทก์และจำเลยจะตกลงด้วยผลประโยชน์ด้วยเรื่องอะไรผมไม่ทราบ แต่ทำให้คดีมันป่วน นี่คือคำพูดของนายเดชา
พิรุธที่สำคัญที่สุดคนตกน้ำต้องให้คนระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาคุมคดี มันออกจะผิดปกติมาก และอะไรก็ตามมันปฏิเสธวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะหลักวิทยาศาสตร์ใช้ความจริงพิสูจน์ สิ่งที่พวกเขาทำวันนี้เขาทำเพื่อให้เกิดความจริงขึ้นมา ถ้าความจริงพิสูจน์ออกมาว่าน้องแตงโมตกน้ำตาย ก็จบ แต่ถ้าความจริงมันพิสูจน์ออกมาว่าน้องแตงโมไม่ได้ตกน้ำตาย บาดแผลที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ถูกใบพัดแต่ถูกอาวุธมีคม
ผมก็มีคำถามในฐานะประชาชนทั่วไปที่รักความเป็นธรรมก็ทนไม่ได้กับเรื่องนี้ ตัวผมเองเป็นสื่อมวลชนที่ตามหาความจริงตลอดชีวิต ผมก็รับไม่ได้ รวมถึงคุณณวัฒน์เองที่รักความเป็นธรรมก็ทนไม่ได้ น้องๆ รวมถึงครูลิต้าเองก็รับรู้เหตุการณ์ก็รู้สึกว่าทนไม่ได้เขาขอมาเข้าร่วมโดยไม่มีข้อแม้อะไรเลยทั้งสิ้น”
ผลออกมาอย่างไรก็ยอมรับ เพราะสิ่งที่ทำ ทำให้คนไทยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ตาสว่าง แตงโม ไม่ได้เสียชีวิตเพราะตกน้ำ
“ผลจะออกมาเป็นอะไรก็ตามเราได้ทำดีที่สุดแล้วและเราก็ต่อสู้ ตอนนี้ยังไม่จบเราจะรอเหตุการณ์ต่อไป แต่สิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไปมันได้สร้างกระแส 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ในโซเชียลเชื่อแล้วว่าน้องแตงโมไม่ได้ตายเพราะตกน้ำ ถึงแม้เขาจะแพ้ในทางกฎหมายเพราะมันทางตัน แต่ในทางจิตวิญญาณและคุณงามความดีพวกเขาชนะไปแล้ว ศาลไม่มีทางเลือก ศาลพิจารณาคดีไปตามหลักฐานที่เขาเสนอไป ก็หลักฐานมันฮั้วกัน แล้วเสนอไปอย่างนั้นศาลไม่มีทางเลือก ก็พิจารณาไปตามหลักฐานแล้วศาลค่อยตัดสินใจอีกที เราจะนำหลักฐานใหม่ ทำให้เกิดการรื้อฟื้นคดีมันอาจจะไปในอีกมิตินึงก็ได้”
เรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม ผูกพันตั้งแต่เด็ก เพราะ “พ่อโส” เป็นลูกน้องเก่า
“ทำไมผมถึงผูกพันกับแตงโม ไม่มีใครรู้ โสภณพ่อของแตงโม เป็นลูกน้องเก่าผม ผมเคยตั้งพ่อเขาเป็นผู้จัดการโรงพิมพ์ตะวันออกที่หลัก 4 เวลาผมไปดูงานที่โรงพิมพ์พ่อเขามาหาผม แตงโมก็จะตามมาด้วย วิ่งมาเกาะแข้งเกาะขาทักทายคุยกับผม ลุง แตงโมจะเต้นอะไรให้ดูไหมแตงโมเพิ่งฝึกมาแล้วเขาก็เต้นให้ผมดู น่ารักมาก ผมผูกพันกับเขามาตั้งแต่เขาเด็กๆ จนเขาโตเราก็ต่างแยกจากกัน แต่ความที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ 7-8 ขวบ ผมก็มีความรู้สึกว่าเขาเหมือนหลานของเรา เราก็เลยต้องเรียกหาความยุติธรรมให้เขาหน่อย ทุกวันนี้สวดมนต์ไหว้พระ น้องแตงโมก็เป็นอีกหนึ่งที่ผมแผ่เมตตาให้”
ด้าน “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ขนลุกได้รู้จัก “สนธิ ลิ้มทองกุล” ยิ่งได้กอดยิ่งเป็นแรงบันดาลใจ ต้องทำตามเจตนารมณ์ต่อไป
“ขอพูดความรู้สึกส่วนตัวก่อนที่ยังรู้สึกขนลุกไม่หาย ตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นเด็ก เป็นเด็กวัด ไม่มีจะกิน ชีวิตผมต่อสู้มาตลอด แต่วันนี้สำหรับผมสิ่งที่มันเกิดมันสมบูรณ์ 100% คือการได้รู้จักกับพี่สนธิที่เป็นตัวตนที่แท้จริงผมต้องขอบคุณพี่มากๆ มันยากมากที่เราจะรู้จักใครในทุกมิติ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมมานั่งอยู่ตรงนี้ ผมก็ใช้หลักวิเคราะห์และหลักการทำงาน คนเราไม่ได้มีสิ่งไหนที่ถูกที่สุดในชีวิตและผิดที่สุดในชีวิต ขึ้นกับฤดูกาล เหตุการณ์หรือองค์ประกอบ
ต้องขอบคุณจริงๆ ครับ การมาที่นี่ได้มาไหว้พระ ได้กอดพี่สนธิ มันเป็นแรงบันดาลใจว่าพวกเราจะทำตามเจตนารมณ์ต่อไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแตงโม หรือเรื่องอื่นๆ อีกกี่เรื่อง ถ้าบ้านพระอาทิตย์จะให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการยื้อยุดฉุดกระชากความยุติธรรมเพื่อความจริง
ที่ผ่านมาผมต่อสู้ทุกมิติในเรื่องของความยุติธรรม เรื่องของน้องแตงโม เรารู้จักกันมาก่อน น้องไปดูเวทีมิสแกรนด์แทบทุกครั้งในรอบไฟนอล ก่อนแกเสียแกก็ไป เรามีภาพความสุข เราก็เหมือนอยู่แก๊งเดียวกัน ทั้งแก๊ง พี่เอ - แอนนา เราก็อยู่ร่วม ๆกันทั้งหมด บอกตรงๆ ว่าเราไม่เชื่อตั้งแต่แรกว่ามันเป็นอุบัติเหตุอยู่ๆ แอนนามาบอกผมว่าพี่ณวัฒน์หนูต้องหยุดพูดแล้ว มีผู้ใหญ่สั่งให้หนูหยุด ถ้าหนูไม่หยุดเอง เขาจะเอาคนมาทำให้หนูหยุด ทั้งแอนนา โม (อมีนา พินิจ) ทุกคนต้องหยุดหมด ให้เป็นเรื่องของคุณแม่และครอบครัว
แรงบันดาลใจที่ทำให้ลุกขึ้นมาสู้กับเรื่องนี้อีกครั้ง คือตำรวจ 21 คนฟ้องคุณอัจฉริยะแล้วยกฟ้อง มันสอดคล้องกับสิ่งที่ไม่แฟร์ในสังคมเกินไป การที่ผมเข้ามาผมไม่ใช่คนสำคัญอะไรนะ ผมมาเป็นส่วนเติมเต็ม เพราะเขาบู๊กันมานานแล้ว ผมรู้สึกว่าถ้าเราไม่เอาโซเชียลมาเป็นป่าล้อมเมืองท่าทางจะไปช้า ก็เลยมองว่าน้องๆ เราพอจะมีแสงและพวกเราเล่นโซเชียลกันเก่งทุกคน มิสแกรนด์เราเก่งและชอบมากในทุกมิติของโซเชียล”
ยินดีให้จับ ให้ฟ้อง แต่ถ้าชนะจะฟ้องกลับ
ขอบคุณพี่สนธิจริงๆ ที่เป็นเหมือนสถาบันเล็กๆ ที่ดันทุรังในความถูกต้อง ผมเองเคยตั้งคำถามกับลูกน้องพี่สนธิพูดแบบนี้ เขาเอ่ยชื่อ เราพูดไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้เลย ถูกฟ้องทุกวันแน่นอนเพราะมันเป็นการพูดแบบสุดซอย มีระบุชื่อ ระบุทุกอย่างชัดเจน เราพูดแบบนี้ไม่ได้แน่นอนแม้กระทั่งเราไปจำลอง ทนายตุ๋ย (พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์) ก็บอกว่าเดี๋ยวจะจับพวกเราไปให้หมด ที่บริษัทก็ถามว่าเขาจะมาจับพวกเราจริงไหม
ผมก็บอกว่ายินดีให้จับ ยินดีให้ฟ้อง เอาเลย ถ้าเราแพ้คุณก็มาจับเราได้เลย แต่ถ้าเราชนะเราฟ้องกลับนะ เราวิพากษ์โดยสุจริต เราไม่ได้บอกให้คุณหยุดคดีเก่า เราไม่ละเมิดศาลเลยเป็นความเหมาะสมของศาล แต่เรามีเหล่าหลักฐาน เอกสาร มีทุกอย่างทางวิทยาศาสตร์ที่พร้อมเข้าสู่สำนวน เราเลยอยากจะเปิดคดีใหม่ ผมให้สัญญาว่าเรื่องของแตงโมเราจะไม่หยุด เราจะไม่เป็นคลื่นกระทบฝั่งเด็ดขาด แม้มันจะมีเรื่องอื่นๆ มีคดีอื่นมีการเมืองเข้ามาก็ตาม อยากให้คนไทยอยู่กับเรื่องนี้จนจบ อยากให้คนไทยเปรียบเสมือนเป็นเจ้าทุกข์ ช่วยกันติดตามข่าว ช่วยกันออกความคิดเห็น ช่วยแชร์ ช่วยเป็นบังเกอร์ให้กับความถูกต้องต่อไปจนจบเรื่องนี้ เราจะดันกันทุกมิติ”
“อ.ปานเทพ” เผยไม่คาดคิด “ณวัฒน์-สนธิ” ได้จับมือกัน ชมกล้าหาญ ความจริงต้องปรากฎ
อ.ปานเทพ : “วันนี้ผมดีใจมากที่พี่ณวัฒน์มาหาคุณสนธิ ผมอยากจะบอกว่าผมไม่คาดคิดว่าคนสองคนที่ทำงานสำคัญ ผลักดันสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ตรงไปตรงมา จะได้มาจับมือกัน ผมดีใจและภูมิใจมากๆที่ได้ทำงานร่วมกับทั้งสองท่าน เป็นสองคนที่มุ่งหวังทำความจริงให้เป็นหนึ่งเดียว ความจริงต้องปรากฏ เป็นคนที่กล้าหาญมากๆ อยากให้ทุกท่านได้เห็นภาพที่ผมเองเห็นแล้วก็ภูมิใจมากๆ ที่ทั้งสองท่านจับมือกัน”
สนธิ : “ผมขอมากกว่านั้น ผมกอดเขาเลยแล้วกัน”