เรียกว่าเป็นดรามาร้อนสะเทือนวงการ สำหรับกรณีของนักร้องหนุ่ม “แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” กับคู่กรณีสาว ที่เปิดมาว่าเป็นเรื่องของซาแซง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องชู้สาว ซึ่งปมต่างๆ ก็ถูกคลี่คลายไปแล้วผ่านรายการโหนกระแส แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร แฟนเพลงต่างก็ผิดหวังกับการนอกใจภรรยาของแสตมป์อยู่ดี และงานเดินสายของเจ้าตัวในตอนนี้ ก็ถูกยกเลิกไปหมดแล้วเช่นเดียวกัน
งานนี้ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตการเป็นนักร้อง จะกลับมารุ่งเหมือนเดิมได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือไม่อดตายแน่นอน เพราะนอกจากอาชีพนักร้องแล้ว แสตมป์ยังเป็นเจ้าของธุรกิจด้วย ซึ่งรายได้ก็ไม่ธรรมดา เพราะสะสม 10 ปี ทะลุไปกว่า 214 ล้านบาท โดย “แสตมป์” มีค่ายเพลงเป็นของตัวเอง ในชื่อ 123Records (หนึ่ง สอง ซั่ม เรคคอร์ดส์) และยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลง ภายใต้ชื่อ บริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด
ซึ่งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะเห็นได้ว่า บริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด มีการจดทะเบียน ก่อตั้งขึ้น 12 พฤษภาคม 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลง ผลิตดนตรีประกอบสื่อโฆษณาให้คำปรึกษาด้านการแสดง และการร้องเพลง และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง มีกรรมการ 2 คน คือ “นิว จีริสุดา ศรีวัฒน์” ภรรยาของแสตมป์ และ “แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” มีผู้ถือหุ้นจำนวน 3 คน ได้แก่ นิว เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 98% รองลงมาคือ แสตมป์ และบุคคลภายนอก ที่ถือหุ้น 1% เท่ากัน และในส่วนของข้อมูลการเงิน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2557 - 2566 มีรายได้รวมและกำไรสุทธิ ดังนี้
ปี 2557 รายได้รวม 15,599,391 บาท กำไรสุทธิ 10,060,622 บาท
ปี 2558 รายได้รวม 24,868,160 บาท กำไรสุทธิ 16,435,521 บาท
ปี 2559 รายได้รวม 22,345,587 บาท กำไรสุทธิ 14,684,838 บาท
ปี 2560 รายได้รวม 24,962,746 บาท กำไรสุทธิ 10,980,454 บาท
ปี 2561 รายได้รวม 25,776,423 บาท กำไรสุทธิ 8,978,021 บาท
ปี 2562 รายได้รวม 27,347,689 บาท กำไรสุทธิ 9,882,905 บาท
ปี 2563 รายได้รวม 21,940,521 บาท กำไรสุทธิ 7,628,159 บาท
ปี 2564 รายได้รวม 8,166,988 บาท กำไรสุทธิ -1,656,390 บาท
ปี 2565 รายได้รวม 20,751,311 บาท กำไรสุทธิ 6,870,097 บาท
ปี 2566 รายได้รวม 22,322,662 บาท กำไรสุทธิ 8,267,219 บาท
ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าผลประกอบการในระยะเวลา 10 ปี บริษัทมีรายได้รวมกว่า 214,081,478 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 92,131,446 บาท แม้ในปี 2564 จะขาดทุนไปบ้างก็ตาม…