จากการที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินหน้าโครงการ ‘ไม่เทรวม’ มาอย่างต่อเนื่องและได้รับความร่วมมือจากประชาชน ทำให้สามารถลดปริมาณขยะได้มากกว่า 10% ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการบังคับใช้ข้อบัญญัติฯ เก็บค่าธรรมเนียมการบริหารในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (ค่าเก็บขยะ) แต่หลังจาก กทม. ดำเนินการปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมและจัดทำข้อบัญญัติฯ ใหม่ ‘แยกขยะ-จ่ายน้อย ไม่แยกขยะ-จ่ายมาก’ ซึ่งผ่านสภากรุงเทพมหานครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มบังคับใช้กลางปี 2568 และคาดว่าจะสามารถลดขยะของกรุงเทพฯ ได้ปริมาณมหาศาล รวมถึงสร้างรายได้ให้กับ กทม. จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอีกทางหนึ่ง
‘บ้านนี้ไม่เทรวม’ แยกขยะ ลดค่าธรรมเนียม ลงทะเบียนผ่านแอปฯ BKK Waste Pay
กทม. เชิญชวนชาวกรุงเทพฯ เข้าร่วมโครงการ ‘บ้านนี้ไม่เทรวม’ แยกขยะลดค่าธรรมเนียมฯ ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay ที่ กทม. พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบและชำระค่าธรรมเนียมมูลฝอยในพื้นที่เขต สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยข้อบัญญัติฯ ดังกล่าวนี้จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2568 จากนั้น กทม. จะเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราใหม่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เมื่อเริ่มประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ระบบของแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay จะแจ้งเตือนทันที
ค่าธรรมเนียมอัตราใหม่ แยกขยะ-จ่ายน้อย ไม่แยกขยะ-จ่ายมาก
การจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราใหม่ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมฯ (ฉบับใหม่) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
• กลุ่มที่ 1 ปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัม จ่ายค่าธรรมเนียมรวม 60 บาท (ค่าเก็บและขนเดือนละ 30 บาท ค่ากำจัด 30 บาท) กรณีคัดแยกขยะและลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่ กทม. กำหนด จ่ายค่าธรรมเนียมเดือนละ 20 บาท (ค่าเก็บและขนเดือนละ 10 บาท ค่ากำจัดเดือนละ 10 บาท)
• กลุ่มที่ 2 ปริมาณขยะเกิน 20 ลิตร/วัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 4 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 200 กิโลกรัม/วัน จ่ายค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ค่าเก็บและขน 60 บาทต่อ 20 ลิตร ค่ากำจัด 60 บาทต่อ 20 ลิตร)
• กลุ่มที่ 3 ปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 1,000 ลิตร หรือเกิน 200 กิโลกรัม/วัน จ่ายค่าธรรมเนียม 8,000 บาท (ค่าเก็บและขน 3,250 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ค่ากำจัด 4,750 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร)
สำหรับข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว กทม. มุ่งเน้นส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ ซึ่งเมื่อมีการคัดแยกขยะแล้ว อัตราค่าธรรมเนียมฯ ที่จัดเก็บจะลดลงตามปริมาณขยะที่ลดลงจากการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ eBook กทม.สาร: https://links.bookkurry.com/bkk_news_issue_294