กรณี “ยายเปรมจิต” อายุ 80 ปี ชาวจังหวัดสระบุรีสุดช้ำ ยกที่ให้หลานทำปั๊มน้ำมัน แต่สุดท้ายถูกหลานยึดปั๊ม แถมยักยอกเงินหลายล้าน เกิดการกระทบกระทั่ง และฟ้องร้องกัน
ล่าสุดยายเปรมจิต ได้มาออกรายการ โหนกระแส วันที่ 21 ม.ค. 68 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทางช่อง 3 พร้อม อุ๊ - นิ้ง พนักงานปั๊มน้ำมัน, วัลภา พนักงานบัญชี รวมทั้ง ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ยายมีลูกกี่คน?
ยายเปรมจิต : 3 คนค่ะ ลูกแยกอยู่แต่ละปั๊มๆ
ปัญหาเกิดที่ไหน?
ยายเปรมจิต : ปั๊มสระบุรี หนองยาว อ.เมืองค่ะ
เรื่องเกิดอะไรขึ้น?
ยายเปรมจิต : ตั้งแต่ปั๊มสามทหาร ปี 15 ทำปั๊มสามทหารเสร็จ ตอนหลังเปลี่ยนเป็นปตท. สามทหารเปิดที่เสาไห้ ปี 30 มาเปิดที่หนองยาว เป็นปตท. ใช้ชื่อว่าสามชาย เพราะมีลูกชายสามคน หลังจากนั้นลูกชายคนที่สองก็ออกไปตั้งปั๊มอีกปั๊มอยู่หนองแค เอาเงินจากปั๊มเราแยกออกไป ตอนหลังแฟนเราตายปี 50 ปี 54 ลูกชายคนเล็กมีปัญหากับเรา เขาก็แยกออกไปทำปั๊มอีก
เหลือยายคนเดียว ปั๊มยายอยู่ที่หนองยาว แล้วยังไงต่อ?
ยายเปรมจิต : เราก็เปลี่ยนมาเป็นบริษัท จาก หจก. เป็นบริษัท สามชาย 2011 ต้นปี 58 ซื้อที่ติดกันที่มีปัญหา
ปั๊มนี้เป็นชื่อยาย ปรากฏว่ายายอยากขยายกิจการ เลยไปซื้อที่ด้านข้างมาอีกแปลง กี่ไร่?
ยายเปรมจิต : 12 ไร่ค่ะ จะทำปั๊มค่ะ ที่เก่าประมาณ 13-14 ไร่ ที่ 12 ไร่ทำปั๊มแล้วจะเพิ่มที่เก่าของเราด้วย ป้าเอาเงินไปซื้อที่ประมาณ 65 ล้าน เป็นเงินเก็บป้า ไม่ได้กู้ พอซื้อที่เสร็จเราถมที่อีก 10 ล้าน เป็นเงินสด คนละโฉนด คนละชื่อ ที่เก่าเป็นชื่อป้า ที่ใหม่เป็นชื่อหลาน เราคิดจะให้เขาแหละ เราแก่แล้ว เด็กเขาจบมาไม่มีงานทำ
หลานอายุเท่าไหร่?
ยายเปรมจิต : ตอนนั้นอายุ 25-26 หลานสามคน แต่ไม่เกี่ยวกับปั๊ม มันเป็นที่เปล่า
แบ่งให้กี่คน?
ยายเปรมจิต : ลงชื่อทั้งหมดสามคน ครั้งแรกมีชื่อพ่อเขาด้วย แต่พ่อเขาใช้เงินเก่ง ก็เลยเอาออก จากนั้นก็ทำปั๊ม ไปกู้เงินมาให้เขา เพราะเขามีชื่อ แต่เอาสเตทเมนต์ที่ปั๊มสามชาย ย้ายจากที่เก่าไปที่ใหม่ เวลาขอกู้ต้องมีสเตทเมนต์ว่าเรามีกิจการอะไรบ้าง ยื่นรายได้ว่ามีเท่าไหร่เขาถึงพิจารณาว่าจะให้กู้เท่าไหร่
หมายถึงเอาไปค้ำ?
ยายเปรมจิต : ใช่ค่ะ
กู้เท่าไหร่?
ยายเปรมจิต : 100 ล้านค่ะ เอาที่แปลงใหม่ ที่เป็นชื่อหลานสามคมไปค้ำ ได้ 100 ล้าน ทำอาคารอย่างเดียว ทีนี้ตกแต่งไม่พอ ป้าก็เอาเงินป้าเองอีก 10 ล้านไปตกแต่งร้านเสื้อผ้าที่ป้าเปิดขาย โดยเป็นไม้สักทั้งหมด แล้วทำน้ำตกอีกด้านหลังอเมซอน ใหญ่มาก ประมาณ 5 ล้าน ทำเพื่อดึงดูดให้คนมานั่ง มันอยู่ในที่เก่าเรานะ อเมซอนก็อยู่ในที่เรา ที่ 12 ไร่มันไม่พอ ก็เอาที่ของป้าไปใส่ด้วยเพื่อให้มันสวยงาม
แต่ชื่อโฉนดยังแยกกันอยู่ น้ำตกทับกันอยู่ แต่เงินป้าทั้งนั้น อยู่ดีๆ เขาฮุบ?
ยายเปรมจิต : เขาฮุบแปลงใหม่ ปั๊มเก่าปิดไป เพราะปตท.ให้ปรับปรุง ย้ายไปอยู่ที่เขาแทน
เขาเลยยึดเงินเลย นี่คือที่มาที่ไป?
ยายเปรมจิต : ใช่ค่ะ
ทำไมยายใส่ชื่อหลาน ไม่ใส่ชื่อเอง?
ยายเปรมจิต : เจ้าของที่มีปัญหากับป้าว่าเราไปซื้อที่ข้างหลัง ครั้งแรกที่ดินป้ามีแค่ 4 ไร่กว่าๆ ข้างหลังที่ตาบอดติดโรงเรียนเซนต์จอห์น ข้างล่างติดที่ที่มีข้อพิพาทกัน เราก็เลยขอซื้อ สมัยก่อนไร่ละ 4 หมื่น 10 ไร่ก็ 4 แสนกว่าบาท เจ้าของที่ขายที่ให้เรา เขามีที่ติดกับเจ้านี้ เขาเป็นพี่น้องกัน เขาบอกว่ามาดูสิที่อยู่ตรงไหน มาชี้เอาเลย เขาจะขายเพราะทำนาไม่ได้ ที่ตรงนั้นบ้านคนเยอะ น้ำก็ไม่มี แกก็ไม่มาดู สองสามครั้งจนที่ดินเขามาปักหลักว่าที่ตรงนี้ๆ พอเขากลับไปแกก็ไปถอนเขาทิ้ง เขาก็มาปักใหม่อีก แกก็ถอนทิ้งอีก เขาเลยแจ้งตร.มาจับแก ไปอยู่โรงพัก แกก็แก่แล้ว 70 กว่า อยู่โรงพัก 2 อาทิตย์ พอออกมาแกก็มาว่าเราเป็นคนแจ้งตร.ให้มาจับแก เราบอกว่าไม่ใช่ เป็นเจ้าของที่แกก็ไม่เชื่อ แกก็ปักใจว่าเราเป็นคนแจ้ง แกบอกลูกบอกหลานว่าต่อไปถ้ากูตาย แล้วยายเปรมว่าซื้อที่ตรงนี้ไม่ขายให้นะ แกประกาศไปทั่ว แกไม่ขายให้เรานานแล้ว ตอนป้าไปซื้อแกก็ตายแล้ว ป้ากลัวว่าลูกหลานเขาจะคิดเราในราคาแพง ก็ให้คนอื่นไปติดต่อ คือลูกน้องคนชื่อสักไปติดต่อ พอติดต่อได้ก็ให้หลานสามคนไปใส่ชื่อ โอนเงินใส่ชื่อลูกชายคนโต จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปโอน มันมีปัญหาตรงนี้ที่เราใส่ชื่อไม่ได้เพราะอะไร
ทนายแก้ว : ใส่ชื่อหลานสามคนให้ถือแทนป้า เพราะเจ้าของที่เดิมไม่อยากขายป้า
ยายเปรมจิต : กรณีตั้งบริษัทครั้งแรก เราติดต่อปตท.เรียบร้อยแล้ว แต่เซเว่นไม่ยอมทำให้ เพราะเราเคยไปปิดเซเว่นของเขา ลูกชายคนเล็กตั้งแต่สามชายเก่า เขาเป็นคนทำสัญญาแต่มันเป็นที่ของเรา เราก็ไปปิดเขา เราคิดว่าต้องเอาเงินมาให้เราสิ เราขายแต่น้ำมันมันก็ไม่เหลืออะไร เราไม่รู้กฎหมาย เราว่าที่เราเราก็กั้น เขาก็ไปฟ้อง ทางเซเว่นโกรธว่าเราไประรานเขา เขาเลยบอกว่าไม่ทำกิจการกับยายเปรมแล้ว ไม่เอา พอเราไปตั้งใหม่ เขาบอกชื่อสามชายไม่เอานะ ต้องเอาชื่อใหม่ คนบริหารเก่าก็ไม่เอา เราเลยต้องใส่ชื่อหลานทั้งหมด แทนชื่อเรา
หลังจากนั้นเกิดปัญหาอะไรขึ้น?
ยายเปรมจิต : เราทำอยู่ที่ปั๊ม นอนที่นั่น เด็กทุกคนก็อยู่หมด หลังจากใช้หนี้หมดแล้ว ป้าไปผ่าขาหัวเข่าสองข้าง เด็กได้ยินข่าวว่าน้ำมันหมด ไม่มีเติม เราก็เอ๊ะ ยังไงกัน เราขายน้ำมันมา 30 ปี น้ำมันไม่เคยหมด เรามารู้ตอนหลังว่าเขาไม่มีเงินซื้อน้ำมัน เราต้องเอาเงินไปซื้อน้ำมันมาถึงจะลงที่เรา
เงินไปไหน?
ยายเปรมจิต : เราก็ไม่ทราบ เราก็ถามหลานชาย เขาบอกไม่รู้ ถามหลานผู้หญิงบอกว่าไม่รู้ มันไม่เหลือ ก็ถามว่าไม่เหลือได้ไง มันหมดหนี้ไปแล้วอย่างน้อยต้องเหลือเดือนละล้านกว่าบาท
เหลือเดือนเท่าไหร่?
ยายเปรมจิต : ประมาณ 2-3 ล้าน กำไรค่ะ น้ำมันไม่ได้หรอกแต่ได้สิ่งรอบข้าง
ได้อะไร?
วัลภา : ได้เป็นพวกค่าเช่าหรือร้านที่ทำเองมากกว่า น้ำมันกำไรน้อยสุดค่ะ ได้จากเซเว่น ที่ทำอเมซอน รายได้จะเยอะกว่า
เงินพวกนั้นไปไหนหมด?
วัลภา : ไม่ทราบค่ะ เงินจากบริษัทถอนมาใช้ซื้อน้ำมันอย่างเดียว แต่เงินจากพวกร้านค้าเราจะไม่ทราบ
คนที่บริหารปั๊มนี้เป็นใคร?
วัลภา : จริงๆ เป็นป้า แต่ช่วงหลังป้าไม่สบาย ช่วงโควิดไม่สบาย แต่ก็จะเข้ามาบ้าง ปกติน้องเขาจะนับเงินส่งป้า หลังๆ มาไว้ที่ออฟฟิศอย่างเดียว
คุณดูบัญชี?
วัลภา : ดูแค่บัญชีน้ำมัน แต่จะมีการเงินอีกคนนึง
คนมาเติมน้ำมัน เงินต้องเข้าสู่ฝ่ายบัญชี หลานป้าคนไหนดูแล?
วัลภา : คนโตกับคนเล็ก
ได้เงินปุ๊บเอาเงินไปให้ยาย?
วัลภา : แรกๆ ค่ะ ช่วงหลังป้าไม่สบาย เขาก็ดูเอง
หลังๆ ไม่ส่งแล้ว เอาเงินไปไหน?
วัลภา : เราไม่ทราบ เราส่งเงินให้หลานเขาแล้ว แต่ไม่รู้ไปไหน น้ำมันถอนจากบัญชีที่เป็นบริษัท มันจะมีรูดบัตรเครดิต หรือคิวอาร์ หน้าปั๊ม เงินพวกนี้ไปซื้อน้ำมันแต่ไม่พอ ต้องเป็นเงินสดเพิ่มไปด้วย แต่เวลาเงินสดพี่การเงินต้องมาเบิกกับน้องเพื่อเข้า ถอนปกติ ก็เข้าปกติ แต่เงินสดมันน้อย บางทีพ่อเขาก็จะมาดีลกับพี่เขาเวลาซื้อน้ำมัน จะเอาเงินก็ต้องขอน้องให้เขาจัดการให้เฉพาะเงินสด
ทนายแก้ว : พูดง่ายๆ รายได้เข้าในนามบริษัท หลานสาวคนเล็กกับหลานชายคนโตเป็นคนดูแล แล้วเงินบางส่วนที่ซื้อน้ำมันก็เอาเงินค่าเช่าไปเติมด้วย
ยายเปรมจิต : เฉพาะคิวอาร์จากร้านเสื้อผ้าและของฝาก เดือนนึงก็เกือบ 2 ล้าน
แต่เงินไม่ได้กลับมาหายายเลย แล้วไปไหน?
ยายเปรมจิต : ตอนหลังเราไม่ได้ดูเขา เราไปผ่าขาด้วย เขาก็เอาไปใช้กันหมด คนโตไปแข่งรถ มีถ้วยรางวัลเกือบร้อยใบ คนที่สองไม่ทำงานอะไร เบิกเดือนละ 2 แสน ปั๊มจ่ายให้เขา ซื้อรถปอร์เช่ให้ ให้ไปดาวน์ 5 ล้าน เหลือ 2 ล้านผ่อนเดือนละแสนกว่าบาท เราผ่อน แต่ตอนหลังไม่ให้แล้ว
ยายก็รักหลาน?
ยายเปรมจิต : รักทุกคน แต่ไม่รู้เขาคิดยังไง (ร้องไห้)
คนเล็กล่ะยาย?
ยายเปรมจิต : ปกติป้ารักเขามาก เขาเอาเงินเราไปหมด (ร้องไห้) เงินคิวอาร์เดือนเกือบ 2 ล้านเขาเอาไปหมด เราถามว่าเอาเงินไปไหน เขาบอกว่าไม่ได้เอาไป แต่เราตรวจดูก็มีส่วนที่เขาเอาไปเยอะ แต่เราทำอะไรไม่ได้
มีคลิปที่หลานสั่งรปภ.มาเอาเงินที่นี่ แล้วยายเป็นคนลงทุน ยายเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองเวลาบั้นปลาย?
ยายเปรมจิต : เงินมีเท่าไหร่ป้าก็ถอนมาหมดเพื่อมาโปะ เพราะเงิน 100 กว่าล้าน กลัวดอกเบี้ยเยอะ มีเท่าไหร่ก็ถอนมาหมดจนไม่มีเงิน (ร้องไห้)
หลานคนที่สามเอาคิวอาร์ไปเบิกเงิน?
ยายเปรมจิต : เดือนละล้านกว่าบาท
เขาบอกมั้ยเอาเงินไปไหน?
ยายเปรมจิต : เขาบอกว่าเอาไปซื้อโน่นนี่ เขาไม่บอก บอกแค่ว่ามันไม่มี ให้เอาสมุดบัญชีมาดู ก็ไม่ให้ดู อาจมีเงินแต่เขาไม่ให้เราดู
เขาบอกจะคืนให้มั้ย?
ยายเปรมจิต : เขาไม่คืนให้ เขาบอกเงินไม่มี
มีคลิปนึงเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ สักเดือนนึงแล้ว มันคืออะไร?
ยายเปรมจิต : หลานคนที่สองไปเปิดเซฟ เอาคิวอาร์ของเขาได้เดือนละล้านกว่าบาท
วัลภา : ช่วงมีปัญหาใหม่ๆ น้องนานมาช่วยป้าอยู่สักพักใหญ่ๆ แล้วมีบางร้านจ่ายเงินด้วยการสแกน ก็เปิดเป็นชื่อหลานคนที่สอง ตอนหลังทะเลาะกับป้า เขาก็จะมาเอาสมุดบัญชีคืน ซึ่งเป็นชื่อของเขา เราเอาเงินเข้าบัญชีนี้
แล้วเขาผิดตรงไหน เงินเหลืออยู่ในบัญชีเท่าไหร่?
ยายเปรมจิต : ที่เขาไม่ให้เราเลย เหลือประมาณ 1.5 ล้าน
เขาเอาสมุดไปเพราะเป็นชื่อเขา แต่เงินในบัญชีเป็นของเรา คิวอาร์รูดปุ๊บก็เข้านี่ ทำไมไม่เปิดของเราเอง?
ยายเปรมจิต : ตอนหลังก็เปิดเองแล้ว พอคนนี้มาเอาไป เราก็ใส่ของเราเอง ครั้งแรกใส่ของน้องสาวเขา
การเติมน้ำมันหรืออะไรก็แล้วแต่ ในบริษัท ก็จะมีการรูด หรือสแกนคิวอาร์โค้ด ยายเปิดเป็นชื่อหลานสาวบ้าง หลานชายบ้าง คิดว่าหลานต้องถอนมาให้แก แต่วันดีคืนดี หลานเห็นเงินเข้าก็เอาไปเลย เพราะเป็นชื่อบัญชีตัวเอง เมื่อคืนลูกชายคนโต พ่อของเด็กสามคนนี้จะมางัดร้านเสื้อผ้า มันคือเหตุการณ์อะไร?
ยายเปรมจิต : เขาจะไปงัดห้อง ไม่ทราบทำอะไร แต่ถ้าเขาบอกว่าจะปิดไฟ หรือทำอะไร ก็บอกเรา เพราะกุญแจอยู่กับเรา เขาเอาเหล็กไปงัด แต่ก็ยังไม่ออก ยังไม่สำเร็จ เรามาพอดี มีเด็กที่เดินไปเดินมา เขามาบอกว่าไม่รู้เขาทำอะไร ป้าขึ้นไปเจอเขากำลังงัดอยู่
เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืน คุณยายก็ดึงคอเสื้อเขา เขาผลักอะไรมั้ย?
ยายเปรมจิต : ไม่ๆ ไม่กล้าทำ แต่ก็มีเขียวๆ เพราะป้าไปดึงคอเสื้อเขา มีลูกน้องเขาดึงมือเราออก ป้าโดนบ่อย ลูกน้องเขามาตีป้าจนเขียวก็มี
ลูกชายอาจไม่ได้สั่ง ลูกน้องน่าจะทำเอง แต่ลูกชายต้องด่าลูกน้อง มาทำแม่ทำไม ถึงแม่กูตีกู เขาก็เป็นแม่กู มึงเป็นลูกน้องมาทำคนแก่ได้ไง เห็นแล้วกลุ้มใจ ทำยังไงดี?
ยายเปรมจิต : แจ้งความเป็นสิบๆ เรื่อง ร้องปปช. ร้องจเร ร้องมาหมดแล้ว ตร. 5 คนที่ป้าร้องไป ยังไม่หมดนะ มีที่แจ้งไปแล้วไม่ทำอะไรให้ป้า
ทนายแก้ว : ป้าอ้างว่าตร.อยู่ฝั่งเขา เลยมาร้องจเร
สภ.ไหน?
ยายเปรมจิต : สภ.เมืองสระบุรี อยากถามว่าป้าขายของอยู่ในปั๊ม ร้านอาหาร เสื้อผ้า ของฝาก ป้าลงทุนทั้งหมด แม้แต่น้ำมันป้าก็ลงทุน เขามาเมื่อต้นเดือน ก่อนปีใหม่ ก็ไปซื้อของเป็นล้าน ของในร้านเสื้อผ้าสัก 20 ล้านได้ แต่น่าจะมากกว่านั้น เพราะเครื่องเงินมันเยอะ เขามาปิดร้านป้าหมดเลย (ร้องไห้) ไม่ให้ขายของ ถ้าขายต้องให้เงินเขา แล้วก็มาเอาเงิน (ร้องไห้)
ทนายแก้ว : เขาอ้างแบบนี้เพราะปั๊มใหม่ไม่ได้มีชื่อป้าเกี่ยวข้องเลย
ยายเปรมจิต : กรณีเราไปเช่าบ้านเขาอยู่ แล้วเราไม่จ่ายเงินเขา เขามีสิทธิ์มาไล่เราออกจากบ้านได้มั้ย (ร้องไห้) เขาปิดร้านป้า ไม่ให้เข้า (ร้องไห้) ของป้าก็เสียหายหมด (ร้องไห้) มีของอะไรเขาก็เอาออกไปขาย
มีคลิปหลานชายคนโต?
ยายเปรมจิต : กลางคืนมาลักเอกสารในที่เรา ในออฟฟิศเรา อยู่ฝั่งเรา ที่เรา เขาออกไปตั้งเป็นปีแล้ว แล้วก็เข้ามา เขามาเอาเอกสารเราไป เราบอกว่าเป็นเอกสารเรา เขาบอกว่าไม่ใช่ เป็นของเขา เราแจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ตั้งแต่พ.ค.
ก็ยังกริบอยู่?
อุ๊ : มีไปปั๊มลายนิ้วมือแล้วค่ะ แต่ยังไม่ส่งฟ้อง สามเดือนแล้วค่ะ หนูก็โดนฟ้องมาแล้ว เอาบริษัทฟ้องว่าให้การเท็จ ตอนไปขึ้นของป้าคุ้มครองชั่วคราวในคดีแพ่งแรก เรื่องแย่งถุงเงิน หนูให้การว่าแย่งถุงเงินจริง เขาเอาคนนอกมาแย่งถุงเงินจากป้าไป ช่วงนั้นป้าเก็บเงินป้าปั๊ม หนูอยู่ในเหตุการณ์ หนูให้การเพราะเหมือนผู้เห็นเหตุการณ์ เขาก็แจ้งความ ป้าด้วยความตกใจท่านก็วิ่งค่ะ
ทนายแก้ว : เบิกความแบบนี้ เขาเลยฟ้องกลับเบิกความเท็จ คดีหนูเป็นยังไง
อุ๊ : เดี๋ยวขึ้นศาลวันที่ 27 ม.ค. นี้ค่ะ
คุณหนุ่ม ลูกชาย และ นาน หนึ่ง นุ้ย หลานสามคน นี่พี่หนุ่มนะ ฝากบอกแบบนี้ แก 80 กว่าแล้ว อีกไม่นานแกก็ไม่ได้อยู่กับคุณแล้ว คุณอดใจรอสักนิดนึง สิ่งที่แกมีอยู่เป็นของคุณแน่ๆ มันไม่ได้ไปอยู่กับใครเลย แกก็ไม่ได้จะเอาไปให้มูลนิธิที่ไหน ตอนนี้แกเหมือนคนแก่คนเดียว สามีตายแล้ว ปู่คุณเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ลูกน้องต้องมานั่งดูแล เชื่อผมเหอะดูแลแกดีๆ คนเราไม่ได้อายุ 100 ปีหรอก นี่ 80 กว่าแล้ว แกอยากถือเงิน 20 ล้าน เอาตรงๆ คนเราจะถือได้นานเท่าไหร่ วันนึงก็เปลี่ยนมือ คุณต้องย้อนกลับไปมองก่อนนะ ว่าล่าสุดที่คุณกับทนายกำลังจะบอกว่าที่แปลงนี้คุณกู้มาเอง ผ่อนเอง สุดท้ายก็ต้องกลับไปดูว่าต้นน้ำคืออะไร คนเราต้องไม่ลืมต้นน้ำ คุณจะอยู่กลางน้ำหรือปลายน้ำไม่ได้ ลองคิดดูดีๆ ผมสงสารย่าคุณ มานั่งร้องไห้ออกรายการ อายคนมั้ย อาย บอกเลย เป็นคนแก่ ลูกหลานไม่รัก ชีวิตบรรลัยเลย?
ยายเปรมจิต : (ปล่อยโฮ)
ทนายแก้ว : เงินก็ไม่มี ลูกหลานเอาไปหมดแล้ว
ผมบอกตรงๆ ผมก็ไม่ได้โลกสวย ผมอยากพูดแทนยาย ผมรู้ว่ายายอยากจะพูด?
ทนายแก้ว : เรื่องนี้ถ้าพูดตามหลักแล้ว ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือกรณีการเป็นตัวการตัวแทน ตอนนี้กิจการของปั๊มนี้บริหารโดยนิติบุคคล ตามปกติเขามีสิทธิ์เก็บค่าเช่า แต่ทรัพย์สินในร้านคุณยาย เขาไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว ต้องไปแจ้งเป็นเรื่องๆ ไป กรณีนี้เป็นตัวการตัวแทนที่ไม่ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร กฎหมายมีแนวคำพิพากษาฎีกา 2342/2524 และ 2611/2525 มีการวางกรอบเอาไว้ว่ากรณีการมอบหมายให้ใครก็ตามกระทำการแทน ไม่ต้องมีลายลักษณ์อักษรก็ได้ เพียงนำสืบให้ได้ว่าเงินชำระเป็นเงินอะไร เพียงนำสืบให้ได้ว่ากิจการนั้นเกี่ยวโยงกันอย่างไร มีที่มาที่ไปให้เห็นว่าคุณยายเป็นต้นน้ำให้ได้ เขาจะต่อสู้ว่าไม่มีหลักฐาน หรือเป็นเงินกงสี มันเป็นสิทธิ์ของเขา สิ่งแรกที่ต้องแก้ไข คือการฟ้องเรียกทรัพย์ในส่วนตัวแทนคืนมาก่อน พอคุณยายฟ้องแล้ว ต้องให้ศาลท่านคุ้มครองชั่วคราว ถามว่าฉุกเฉินมั้ยมองว่าอาจยังไม่น่าฉุกเฉิน หากเราพิสูจน์กันภายหลังบัญชีชาดเกินก็มีสิทธิ์ไปฟ้องข้อหายักยอกทรัพย์ได้ เบื้องต้นมีการขอคุ้มครองฉุกเฉิน แต่ศาลยกคำร้อง ศาลอ้างว่าไม่ฉุกเฉิน คุณยายเลยมีการขอให้คุ้มครองชั่วคราว ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาหรือเปล่า
ยายเปรมจิต : วันที่ 17 ก.พ.มั้งคะ ศาลนัดไต่สวนคุ้มครอง
ทนายแก้ว : กรณีขอคุ้มครองชั่วคราว จะขอในมุมของชนะคดีไม่ได้ เช่นขอว่าเอาเงินทั้งหมดที่ได้มาเก็บที่ยายก่อนไม่ได้ ต้องขอว่ามีบุคคลกลาง ให้มีการตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อดูแลเงินตรงกลางไว้ก่อน ผมคิดว่าศาลท่านน่าจะพิจารณาให้ ในส่วนที่คุณยายถูกทำร้ายร่างกาย เป็นเรื่องแต่ละคดี คุณยายมีสิทธิ์ไปแจ้งความได้ ถึงแม้ลูกไม่ได้กระทำ แต่ลูกเป็นตัวใช้ ยุยงส่งเสริม เราก็แจ้งได้ครับ
พยายามต่อสายหาทนายความฝั่งหลานคุณยาย ไม่รับสายนะ ตอนแรกบอกจะคุย หรือหลานสามคนอยากมาชี้แจงข้อเท็จจริง ก็ยินดีนะ คุณมาพูดชี้แจงข้อเท็จจริงเลย?
ทนายแก้ว : ช่วงบั้นปลายของคุณยายไม่อยากให้ทนทุกข์ทรมานกับการขึ้นศาล ถ้าเขายอมมาเจรจาก็เป็นทางออก แต่ถ้าเขาจะต่อสู้ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ต้องตั้งให้ถูกทางก่อน กรณีนี้เป็นเรื่องตัวแทน เราต้องฟ้องขอให้มีการคุ้มครอง
โฟนอินทนาย “พี่ชูศักดิ์” เรื่องมันคือยังไงกันแน่ ฟังแล้วสงสารคุณยายมาก?
ชูศักดิ์ : มันไม่ได้เหมือนที่คุณยายเขาพูด เดิมทีคดีอยู่ที่ศาล แกก็ฟ้องคดีมาแล้วครั้งนึง แล้วถอนฟ้องไป ฟ้องว่าจะไปเจรจากับหลาน อยู่ๆ กลับมาฟ้องใหม่ ที่แกพูดก็ไม่เป็นความจริงสักอย่างเดียว อย่างเช่นแกบอกว่าเงินเป็นของแก แต่เงินเป็นเงินที่แกให้ลูกชายคนโตแกไป ลูกชายคนโตก็ไปอะไรของแก ที่บอกว่าเจ้าของที่ไม่ขายที่ให้แก เพราะมีปัญหากัน ไปคุยกับลูกสาวเจ้าของที่ เขาบอกไม่มีเหตุการณ์นี้ ใครมาซื้อเขา เขาก็ขายหมด แล้วปั๊มน้ำมันดำเนินกิจการโดยจันทร์ประสิทธิ์ บริหารโดยหลานแก แต่มีพ่อ คือลูกชายคนโตอยู่ข้างหลังในการดำเนินกิจการ แล้วก็เอาที่ดินไปกู้เงินจากธนาคารตั้ง 100 กว่าล้าน ใช้หนี้ตั้งแต่ปี 60 จนพ.ค.ปีที่แล้ว ใช้หนี้หมด แกก็มาอ้างแบบนี้ เป็นกิจการของแก หลานเป็นนอมินี ทั้งที่พวกนั้นมีการทำงานกัน มีการกล่าวหายักยอกเงิน ตรงนี้ต้องไปว่ากันในชั้นศาล มีน้องๆ ทนายหลายคนที่รู้จักกับพี่ เขาก็โทรมาว่าอาม่าไปให้สัมภาษณ์ในรายการคุณหนุ่ม กรรชัย อยากให้คุยกับคุณหนุ่ม พี่ว่าความอยู่ศาลอาญาทุจริต ก็แว้บออกมาว่าความก่อน
เขาบอกแบบนี้ ยายมองยังไง เขาบอกเป็นที่ที่หลานกับลูกยายไปซื้อมาเอง กู้มาเอง ใช้หนี้เอง?
ชูศักดิ์ : พอใช้หนี้หมดแล้ว แกบอกเป็นของแกอย่างโน้นอย่างนี้ พอทางนี้ไม่ยอม แกก็ทุบทำลายทุกอย่างในปั๊ม ครั้งสุดท้ายตอนปีใหม่ พระสงฆ์ เด็กๆ จะเข้าห้องน้ำ แกตัดน้ำเลย ทำให้ลูกค้าปั๊ม เดือดร้อนมาก คนเป็นเจ้าของเขาไม่ทุบทำลายแบบนี้หรอก
ยายเปรมจิต : ถ้าบอกเป็นของเขา เขาเอาที่ไหนไปซื้อ เงินป้าทั้งหมด
ชูศักดิ์ : เดิมทีลูกชายคนโตเขาช่วยกิจการของแก ให้เงินลูกทุกคนเหมือนกันหมด
ยายให้เงินลูกชาย ลูกชายเลยไปซื้อที่แปลงนี้มา ยายไม่ได้ไปซื้อเอง?
ชูศักดิ์ : แกมีลูกสามคน แกให้เงินเหมือนกันหมดเลย
ยายเปรมจิต : ไม่จริง ไม่เป็นไร เขามีเงินมั้ย
ชูศักดิ์ : แกทุบทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง กล้องวงจรติดกี่ตัว แกทุบทำไม ห้องพนักงานเก็บเงิน แกก็ไปฉกจากร้านที่ขายของ จากแคชเชียร์ของปั๊ม เป็นเจ้าของปั๊มเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกครับ มีคลิปประมาณ 100 คลิปได้มั้ง
เอาน้องๆ สามคนมานั่งคุยหน่อยได้มั้ย?
ชูศักดิ์ : ไม่ได้หรอกคุณหนุ่ม กำลังจะขึ้นศาลอาทิตย์หน้า แกมาออกรายการโหนกระแส แกต้องการกดดัน เพราะอาทิตย์หน้าเจอกันหลายคดี ที่ศาล
แกแก่มากแล้วนะ?
ชูศักดิ์ : แก่มากก็เข้าใจ แต่ไม่ใช่แบบที่แกพูดไง เมื่อวานแกยังทุบลูกชายคนโตแกเลย มีบาดแผล แกทำอะไรยอมทุกอย่างเลย
ทนายแก้ว : เงินที่กล่าวอ้างว่า 65 ล้านที่ให้ลูกชายไป เขาให้ไปแล้วคุณหนุ่ม ลูกชายไปซื้อเองเลยเหรอ
ชูศักดิ์ : อันนี้เป็นรายละเอียดคดี ต้องไปว่ากัน แกไม่ได้ให้เงินไปซื้อที่ เอางี้ดีกว่า
ทนายแก้ว : ให้เงินไปเรื่อยๆ จนคุณหนุ่มเก็บเงินได้ถึง 65 ล้าน ถูกมั้ยครับ
ชูศักดิ์ : มันมีเงินส่วนของเขาด้วย ที่ได้จากการทำธุรกิจ แกให้ลูกทั้งสามคนเหมือนกัน ให้ที่ดิน
ทนายแก้ว : เงินที่คุณยายจ่าย 65 ล้านเป็นเงินกงสี
ชูศักดิ์ : ไม่ใช่ ให้โดยเสน่หา ให้คือให้ลูก ให้ทุกคนอยู่แล้ว
ทนายแก้ว : กรณีติดต่อกับเจ้าของที่ดิน ยายไม่เกี่ยวเลยเหรอ เขาไปดีลเองหมดเลยเหรอ
ชูศักดิ์ : เป็นลูกชายคนโตเขาไปจัดการ เรื่องขยายปั๊มไม่เกี่ยวกับแกเลย แกขยายไม่ได้ แกมีปัญหากับปตท.
ทนายแก้ว : เขาต่อสู้ว่าไม่เกี่ยวกันเลย เป็นเงินเขาเองเขาถึงมีสิทธิ์ ถ้าเขาต่อสู้แบบนี้คุณยายต้องเตรียมหลักฐานเรื่องเราไปติดต่ออะไร เรื่องนี้อยู่ระหว่างพิจารณา จะพูดไปมาเดี๋ยวกลายเป็นละเมิดอำนาจศาล แต่ก็อยาก กรณีนี้ยายสามารถเอาหลักฐานความเชื่อมโยงมาให้เห็นว่าเงินมาจากไหน สมมติยายพิสูจน์ให้เห็นว่าเงินและการติดต่อมาจากเรา
โฟนอินทนายของยาย “เกรียงศักดิ์”
ทนายแก้ว : พี่ฟ้องเป็นแนวไหนครับ
เกรียงศักดิ์ : ผมฟ้องเรื่องตัวการตัวแทนครับ
ทนายแก้ว : แนบหลักฐาน 65 ล้านแรกในการซื้อที่ดินแล้วใช่มั้ย
เกรียงศักดิ์ : เราแนบเป็นบางส่วน เพราะเราเพิ่งหาเจอ ผมเรียกเส้นทางเงินมาทั้งหมด ฐานะการเงินมาทั้งหมด ทั้งคุณสิทธิโชค หลานทั้งสามคน และคนรักหลานคนเล็ก เรียกมาเลยว่า ณ วันที่ซื้อขาย มีเงินอยู่เท่าไหร่ เรื่องนี้เราดูความเป็นมาตั้งแต่เริ่มแรก
ทนายแก้ว : กรณีฝั่งจำเลยต่อสู้ว่าเงินให้โดยเสน่หา
เกรียงศักดิ์ : พี่ชูยังไม่ยื่น แต่คดีเดิมอ้างว่าเป็นเงินกงสี ป้าถอนฟ้องไปแล้ว คดีใหม่พี่ชูยังไม่ยื่น รออยู่
ทนายแก้ว : โอนจากเจ้าของเดิม ทำไมคุณป้าได้ยื่นเป็นชื่อ 3 คนครับ
เกรียงศักดิ์ : ป้ามีปัญหากับนางลัง เจ้าของที่เดิม ถ้าไปดูรังวัดกัน ตัวบันทึกเจ้าพนักงาน 15 ส.ค.ปี 31 นางลังไปวัดที่ดิน หายไป 3 ไร่เศษๆ ในนั้นระบุว่าหลักเขตหายไป อันนี้สอดคล้องกับที่คุณป้าพูดว่ามีปัญหาที่ดินกัน มีกำนันคนนึงยืนยันว่ามีการแจ้งจับกัน ที่เอานางลังไปโรงพัก นางลังเลยประกาศว่าไม่อยากขายที่ดินให้นางเปรม ถ้านางลังเสียชีวิตไปแล้ว อันนี้เป็นมูลเหตุจูงใจที่ไม่สามารถใส่ชื่อตัวเองได้ ส่วนที่มีปัญหากับปตท.คุณป้าไม่ได้มีปัญหากับปตท. คุณป้าไปล้อมเซเว่น สมัยลูกชายคนเล็กทำปั๊มอยู่ มีเรื่องฟ้องร้องกัน ทางเซเว่นไม่พอใจป้า ป้าไปขอเป็นตัวแทนตั้งปั๊มใหม่ เซเว่นเขาไม่ปลื้ม ทีนี้เลยตั้งนายเยี่ยม เป็นผู้ประสานงานเจรจา ก็เลยตกลงกันว่า ปั๊มที่จะตั้งใหม่ต้องไม่มีชื่อสามชาย ต้องไม่มีคำนี้ สองป้าเปรมจิตต้องไม่ใช่กรรมการผู้มีอำนาจ อันนี้ผมมีคำพิพากษา เราจะไปดูเส้นเงินตัวเดียวไม่ได้ ต้องไปดูอีกว่าการทำปั๊มน้ำมัน ต้องถมที่ ช่วงที่ซื้อที่ผมเรียกมาทั้งหมด คนรักจำเลยที่สามก็เรียกมา ก็ส่งมาหมดแล้ว
ทนายแก้ว : สเตทเมนต์คุณหนุ่มเขาพอมีเงิน 65 ล้านไปจ่ายเองได้มั้ย
เกรียงศักดิ์ : ไม่มี พี่ชูรู้เพราะพี่ชูไปถ่ายเอกสารเหมือนกัน ผมมีอะไร พี่ชูก็มี แต่ตัวสุดท้ายที่ผมมี 20 ล้านของป้า ผมเพิ่งไปเอาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง เงินออกจากบัญชีป้า ออกจากบัญชีส่วนนึง ออกจากกองทุนที่แกขายจากแบงก์กสิกรอีกส่วนนึง มาจากหลานทั้งสองคนอีก 5 ล้าน อีกส่วนนึง รวมแล้วน่าจะ 97 ล้าน ที่เหลือฝากเป็นเงินสด รวมเป็น 65 ล้าน ผมมีหมดแล้ว แต่คดีเดิมตอนฟ้องใหม่ๆ อันนั้นไม่มี
เป็นข้อเท็จจริงที่เปิดได้?
เกรียงศักดิ์ : เปิดได้ ไม่มีปัญหา
ทนายแก้ว : ผู้รับเจ้าของที่เขายืนยันมั้ยว่ายายเป็นคนซื้อ
เกรียงศักดิ์ : เขาไม่รู้อยู่แล้ว ถ้าเขารู้เขาไม่ขายให้ป้าเปรมหรอก เราจะไปดูเส้นทางเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องไปดูอีกว่า หลังสร้างปั๊ม ป้าเปรมถมที่อีก 11 ล้าน ก็เป็นเงินป้านะ ผมมีหลักฐานการจ่ายเงิน เซ็นรับด้วย ก่อสร้างปั๊ม 3 งวดแรกป้าจ่ายนะ ตรงนี้ก็มีอีก ไม่เป็นไร ตามสบาย สู้กันเต็มที่
คดีอาญาเกี่ยวกับการยักยอก บุกรุก ก็ว่ากันไปเหรอ?
เกรียงศักดิ์ : ถูกต้อง ยายฟ้องคนเดียว ฝั่งโน้นยังไม่มีฟ้องกลับป้า
น้องอุ๊โดนข้อหาเบิกความเท็จ?
เกรียงศักดิ์ : ตอนฟ้องคดีแรก ป้าไปฟ้องหลานทั้งสาม แต่ตอนมาฟ้องเบิกความเท็จ ไม่ใช่หลานสามคนนี้ เอาบริษัทมาฟ้อง ก็เอาเลย อยากฟ้องก็ฟ้อง เบิกความก็ต้องรับผิดชอบด้วย เอาตามสบาย อยากทำอะไรก็ทำ ตอนแรกป้าไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องร้องทุกข์ ผมเลยแนะนำให้แกทำ บันทึกประจำวันน่าจะ 61 ใบนะ ที่ผมให้แกไปร้อง ตร.ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไร
ทนายแก้ว : ทำไมตร.กริบล่ะ
เกรียงศักดิ์ : ป้าไปร้องปปช. จเรตร.เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตร.อธิบายว่าต้องไปร้องปปช.กับจเรตร.เอง ตร.สภ.เมืองสระบุรี
ติดต่อไปแล้ว ผู้กำกับติดประชุม แต่ดูโหนกระแสไปด้วย?
เกรียงศักดิ์ : แกร้องผู้การ แกทำทุกอย่าง สุดท้ายไปร้องปปช. และอาทิตย์ที่แล้วฟ้องจเรตร.
ทนายแก้ว : ขอคุ้มครองชั่วคราว ศาลนัดเมื่อไหร่
เกรียงศักดิ์ : วันที่ 17 ก.พ. นัดวันเดียวกันเลย ป้าแกฟ้อง ข้อแรกขอคุ้มครองประโยชน์ ให้เอากำไรมาวางศาล ช่วงปีใหม่แกถูกปิดร้าน ผมก็ขอคุ้มครองชั่วคราวให้เปิด 3 ร้าน เดี๋ยวดูว่าพี่ชูยื่นคัดค้านเข้ามา แล้วศาลจะว่ายังไง คดีอาญาป้าอยากแจ้งก็แจ้งไปเรื่อยๆ เรื่องบุกรุก ลักทรัพย์ แจ้งไปเรื่อยๆ
มั่นใจมั้ย?
เกรียงศักดิ์ : แล้วแต่ท่านผู้พิพากษา พยานหลักฐาน พยายามรวบรวมให้เต็มที่ (หัวเราะ)
เป็นคนถ่อมตัว?
ทนายแก้ว : ของค่อนข้างครบ ที่มาที่ไปภายนอกภายใน ครบถ้วนอยู่แล้ว
มีหลักฐานหักล้างเขาทั้งหมดมั้ย?
เกรียงศักดิ์ : จะพยายามหักล้างให้ได้เต็มที่ครับ
ทนายแก้ว : เรื่องแบบนี้ ส่วนใหญ่ศาลดูความเป็นมา ความเชื่อมโยง คุณยายอธิบายถึงปั๊มสามทหาร กับสามชาย มันมีที่มี แล้วมีเหตุผล มีที่ไปที่มาอยู่แล้ว
มีน้องคนนึงที่รู้จักกัน เขาขายเลโก้ ชื่อน้องเอี่ยม?
ยายเปรมจิต : หลานป้า ลูกน้องชาย
เขาส่งมาว่าป้าเปรมเป็นป้าแท้ๆ ให้ช่วยป้าหน่อย แกแก่แล้ว ทำมาหากินตลอด เห็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ รู้จักมั้ย?
ยายเปรมจิต : รู้จัก ลูกของน้องชาย (ร้องไห้) ติดต่อมาตลอด เอี่ยมเก่ง (ร้องไห้) เกรียงเขาทำเกินกว่าทนาย เหมือนเราเป็นแม่เขาคนนึง (ร้องไห้) เขาช่วยป้าทุกอย่าง แม้กระทั่งไปหาคนโน้นคนนี้แกก็ไปหมด แกบอกว่าทำไมลูกไม่ช่วยป้า (ร้องไห้)
ป้าก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน?
ยายเปรมจิต : จ๊ะ พยายามใจเย็นๆ
ทนายแก้ว : ป้าทุบวงจรปิดไม่ได้นะครับ
ยายเปรมจิต : ป้าบอกให้ฟ้องเอาเลย เป็นของป้าทั้งหมด
ทนายแก้ว : มันเป็นทรัพย์สินในนามบริษัท ป้าต้องแยกส่วน เดี๋ยวจะกลายเป็นคดีสาขา สู้กันในข้อกฎหมาย
หลานๆ อยากชี้แจงก็มา ไม่ว่าจะนาน หนึ่ง นุ้ย หรือพ่อหนุ่มก็ได้ มานั่งคุยว่ามุมคุณเป็นยังไง มาชี้แจงกัน เราก็ยินดี เมื่อกี้คุณนานอนุญาตให้คุยกับทนาย แต่เรื่องนี้ลูกฟ้องแม่ไม่ได้ เพราะเป็นคดีอุตตลุม แม่ฟ้องได้มั้ย?
ทนายแก้ว : ได้ครับ
ตอนไม่มีเงินซื้อน้ำมัน ทำยังไง?
ยายเปรมจิต : ป้าก็ทำเอง น้ำมันก็ค่อยๆ เติม เต็มถังเหมือนเดิม ของที่เชื่อเขาไว้ก็ใช้หนี้หมด ปีกว่านานเอาไป 10 กว่าล้าน เป็นค่ารถปอร์เช่เขา 5 ล้านแล้ว เงินเดือนอีก เขาใช้ต่างหากอีก แล้วของป้าจะเหลืออะไร ก็เหลือนิดหน่อย เอาไว้แจกพวกนี้ เขาทำงานกับป้า
ที่ดินแปลงข้างๆ ชื่อใคร?
ยายเปรมจิต : ชื่อป้าค่ะ
จะให้ใคร?
ยายเปรมจิต : ยังไม่รู้จะทำยังไง ถ้าเขาไม่คืนจริงๆ เราก็ต้องเผื่อเอาไว้เผื่อเราตาย เราจะเอาเงินที่ไหนไปเผาตัวเราเอง
ที่นั่นให้ใคร?
ยายเปรมจิต : ยังไม่ได้คิด (ร้องไห้) ถ้าป้าตายเขาก็ค่อยไปแย่งชิงกันเอาเอง
คิดว่าต่อไปจะแย่งชิงกันมั้ย?
ยายเปรมจิต : ฆ่ากันแน่ (ร้องไห้) ตอนนี้เขาก็แย่งเงินกันอยู่แล้ว
สามคนไม่ถูกกันเหรอ?
ยายเปรมจิต : ไม่ค่อยจะลงรอยกัน ไอ้นานจะแย่งเงินเขา
ล่าสุดไปต่อยพนักงาน?
ยายเปรมจิต : เขามาขนหม้อเราไป ใบนึงหมื่นกว่าบาท
พนักงานเดินมาเลือดอาบ?
ยายเปรมจิต : เด็กเขาไล่ป้าไม่ให้ออกมา กลัวหลานมาทำร้ายป้า
เขาเอาหม้อไปทำไม?
ยายเปรมจิต : เขาบอกของเขา แต่มันเป็นของป้า ใบละหมื่นกว่าบาท ป้าฟ้องทนายมาแล้วด้วยนะ เป็นทนายฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่ใช่ชูศักดิ์ เขาบอกว่าป้าฟ้องทำไม ผมทำมา 20-30 ปี ไม่มีใครฟ้องทนายฝ่ายตรงข้าม ป้าไปขอโทษเขานะ ป้าไม่ขอ ป้าเคยเห็นคุกมั้ย เคยติดมั้ย ป้าบอกไม่เคย แต่ถ้าจะติดป้ายอม พอศาลรับฟ้อง ทนายก็มากราบตักป้าว่าจะเอาให้ถึงตายเหรอ ศาลยกฟ้องเพราะเขาทำให้ป้าเหมือนคนไม่มีคุณธรรม ให้ลูกมาฟ้องเรา แล้วฟ้องได้ด้วย เอาบริษัทฟ้อง ศาลบอกว่าคุณเลี่ยงบาลี ก็เลยยกฟ้อง ทนายไม่มีคุณธรรม
