“ทนายเดชา” เผยคู่กรณี “แสตมป์” เตรียมแถลงวันนี้ มองสิ่งที่โพสต์ไม่ได้ขอโทษ แถมยังใส่ร้ายลูกสาวนายพล ลั่นอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้นะ อายุเท่าไหร่แล้ว ฉะต้องเป็นลูกผู้ชาย อย่าโยนขี้ให้ผู้หญิง จวกถอนฟ้องเพราะกลัวถูกดำเนินคดี ม. 112 ไม่ได้สำนึก!
ออกมาไลฟ์สดพูดถึงกรณี “แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” โพสต์ข้อความยอมรับผิดชอบไมได้เล่าเรื่องที่ตัวเองนอกใจเมีย จนถูกสังคมขุดคุ้ย พาดพิงคนในวงการจนทำให้เดือดร้อนไปด้วย พร้อมเผยว่าตนเองถอนฟ้องคู่กรณีเพราะถูกข่มขู่ด้วย ม.112 งานนี้ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ฟาดแสตมป์ ไม่ได้ยอมรับความผิด ยังพาดพิงครอบครัวลูกสาวนายพล ซัดแรงไม่หมิ่นสถาบันจะกลัวอะไร
“นักข่าวส่งข่าวว่าแสตมป์โพสต์ทางเฟซบุ๊ก มีผู้ติดตาม 5 แสน โพสต์ยาวเหยียด เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หลังจากเขาโพสต์อะไรต่างๆ ออกจากโหนกระแสแล้ว เดี๋ยวทางฝ่ายผมและคู่กรณีเขาจะแถลงข่าว แนะนำอย่าวิพากษ์วิจารณ์ให้ใครเสียหาย คุณจะถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาท
คดีชู้สาวจะฟ้องร้องต้องมีพยานหลักฐาน สืบก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปฟ้องเขาได้นะ ศิลปินดาราเดี๋ยวนี้มีปัญหาเรื่องชู้สาวเยอะ เนื่องจากหล่อ มีเงิน ดัง จากเอฟซีกลายเป็นซาแซง จากนั้นกลายเป็นเมีย ศิลปินก็ต้องระมัดระวัง เรื่องเมียหลวงเมียน้อยศิลปิน เป็นของคู่บ้านคู่เมืองเลย
ไม่รู้ใครร่างโพสต์ให้ คิดว่าทนายคงร่างให้ เขายอมรับว่านอกใจเมีย แล้วเขาจะซื่อสัตย์ต่อพี่น้องประชาชนไหมล่ะ คิดดูแล้วกัน เมียที่แต่งกันมายังไม่ซื่อสัตย์
ที่เขาพูดว่าขึ้นไปพูดบนเวทีก็เจตนาไม่ได้เมานะ เขาบอกว่าภรรยาเดือดร้อน เดือดร้อนเพราะใคร เพราะการกระทำของคุณหรือเปล่า ไปนอกใจเมียหรือเปล่า เพราะคุณไม่ซื่อสัตย์หรือเปล่า เวลาไปเจอหญิงอื่นคุณบอกไหมว่าคุณมีเมียแล้ว หรือคุณไปโกหกผู้หญิงอีกคนนึง นี่คือคำถามที่อยากถามคุณแสตมป์
เวลาเจอคนใหม่ เจอเอฟซีสวยๆ เคยบอกไหมว่ามีเมียแล้ว หรือบอกว่ากำลังจะเลิกเมียหรือเปล่า แล้วมีเจตนาสื่อสารว่าเมียเดือดร้อน เดือดร้อนเพราะคุณหรือเปล่า”
ฉะแสตมป์โพสต์ไม่ได้ยอมรับความจริง แค่ให้การภาคเสธ. ฟาดใครกันแน่บิดเบือน
“ที่เขาโพสต์ เขาไม่ได้ยอมรับความจริงนะ เขาให้การภาคเสธ. บอกว่าคู่กรณีของผมบิดเบือนข้อเท็จจริง เท่ากับคำพิพากษาต่างๆ ที่มีการโพสต์ บิดเบือนผลของคำพิพากษา ผมว่าเขานำสำเนาคำฟ้องมาเลย มันชัดเจนนะ มันอยู่ในคำพิพากษา จะบิดเบือนยังไง คนบิดเบือนคือคู่กรณีที่มาหาผมหรือเปล่า หรือเป็นคุณหรือเปล่า นี่คุณไม่ได้ขอโทษนะ เริ่มต้นขอโทษ แต่ทำไปทำมายังกล่าวหาน้อง จ. และครอบครัวเขา ยังไปว่าเขาอีกนะ ยังไม่จบนะ ใช้วิธีการเล่าไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล สังคมก็รู้หมดแล้ว เขาเรียกว่าปกปิดความจริงหรือเปล่า
คุณบอก น้อง จ. และท่านนายพลไปคุกคาม เหมือนว่าเมียคุณบ้า เป็นการใส่ร้ายใส่ความหรือเปล่า การที่คุณพูดความจริงว่าไม่ได้คุกคามหรอก คุณมีผู้หญิงกี่คนล่ะ ภรรยาจดทะเบียนแล้วมีหญิงอื่นไหม คนที่อ้างว่าคุกคาม คุณไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวหรือเปล่า ทำให้ครอบครัวเขาเสียหายหรือเปล่า คิดว่าพ่อแม่เขาจะรู้สึกอย่างไรไปยุ่งกับลูกเขา ท่านนายพลจะรู้สึกอย่างไร คิดว่าพ่อเขาจะเสียใจไหม มีเมียอยู่แล้วมายุ่งกับลูกสาวเขา คิดว่าเขาจะเจ็บช้ำน้ำใจไหม ยิ่งเขาเป็นนายทหาร เขาจะโกรธไหม คุณต้องใจเขาใจเรา ยิ่งคุณพูดมีการคุกคามจากครอบครัว น้อง จ. แต่ทำไปทำมากลายเป็นว่าคุณไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นหรือเปล่า ผมไม่รู้นะ เพราะตอนนี้เหมือนคุณมีผู้หญิงหลายคนหรือเปล่า อยากทราบว่าคุณยอมรับความจริงอะไรไหม”
คิดน้อยหรือวางแผน? อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ อายุ 43 แล้ว
“อันนี้มันไม่ใช่การยอมรับ แต่เป็นการให้การภาคเสธ. และต่อสู้คดี และยังพาดพิงในทางลบไปยังครอบครัวลูกสาวนายพลหรือเปล่า ผมแค่สงสัยนะ เขาโพสต์ต่อว่าเขาคิดน้อยเกินไป คิดน้อยหรือวางแผนมาอย่างดีก่อนพูดบนเวที จะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์เหรอครับคุณแสตมป์ คุณอายุเท่าไหร่คุณแสตมป์ ถ้าจำไม่ผิด คุณอายุ 43 หรือเปล่า คุณจะอ้างว่าคิดน้อยเกินไป ผมว่าคุณวางแผนมาอย่างดีนะ ไม่เชื่อว่าคิดน้อยเกินไป
คุณบอกว่าเป็นความผิดพลาดที่สุด คาดไม่ถึงว่าจะมีคนขุดคุ้ยมาเปิดเผยในที่สาธารณะ อ๋อ คุณไม่คิดว่าเขาจะเปิดแผล วีรกรรมต่างๆ ของคุณ (หัวเราะ) ไม่คาดคิดว่าจะไปขุดตัวละครที่เล่าไปว่าเป็นใครบ้างในชีวิตจริง จนเดือดร้อนเป็นวงกว้าง แล้วคุณจะรับผิดชอบยังไง คนอื่นไม่เกี่ยวข้องคุณก็ไปเล่นเขา อย่างทิลลี่เบิร์ด คุณไปพาดพิงเขาจนได้รับความเสียหาย จะรับผิดชอบยังไง แค่โพสต์ขอโทษแล้วจบแค่นั้นเหรอ ที่บอกว่าขอโทษให้เดือดร้อนมาอย่างยาวนาน แสดงว่าคุณทำความเสียหายให้เขามานานแล้ว
วนไปวนมา สุดท้ายก็เกี่ยวกับการนอกใจเมียของคุณหรือเปล่า คุณพาดพิงบุคคลอื่นเยอะแยะมากมาย จะรับผิดชอบไหวเหรอ การเล่าเรื่องของคุณถ้าทำให้คนอื่นเดือดร้อน คุณมีความรับผิดชอบต่อสังคมยังไง หรือแค่ขอโทษแล้วจบ
คุณขอโทษคู่กรณีและภรรยา และครอบครัวเขา รับเคยมีความสัมพันธ์จริง และได้จบไปแล้ว คุณไม่เคยบอกเลย บอกแค่ว่าพวกเขา นายพลมาคุกคาม แต่ไม่ได้บอกความจริง ซึ่งร้ายแรงด้วย คุณไปโกหกน้อง จ. หรือเปล่า บอกความจริงหรือเปล่า บอกว่าจะเลิกกับเมียหรือเปล่า คุณตั้งใจปกปิดล่ะมั้ง สุดท้ายสิ่งที่คุณพูดทั้งหมดคือการโกหกหรือเปล่า ใครจะสนับสนุนผลงานคุณต่อไปหรือไม่ผมก็ไม่รู้นะ”
เรื่องคุกคามข่มขู่คดีทางการเมือง ยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง ยังไม่จบสิ้นนะ ยังไปกล่าวหาทางนายพล ว่าเขาคุกคามข่มขู่ทางการเมือง ยังใส่ร้ายเขาอยู่นะ เรื่องคดีความฟ้องแกปกับ จ. ร่วมกันหมิ่นประมาท ถอนฟ้องให้ทั้งหมดเนื่องจากถูกข่มขู่มาตรา 112 อ้าว แสดงว่าที่ถอนฟ้องไม่ได้สำนึกในสิ่งที่กระทำ คุณกลัวติดคุกเลยถอนให้ งั้นใช่ไหม แสดงว่าคุณมีการกระทำอันเข้าข่ายมาตรา 112 หรือเปล่า คุณได้กระทำหรือเปล่า มีการหมิ่นสถาบันไหม ถ้าไม่หมิ่นแล้วจะกลัวอะไรล่ะ ถ้าไม่หมิ่นเขาจะฟ้องได้ไหม”
ลั่นไม่ได้ถอนฟ้องเพราะสำนึก แต่ถอนฟ้องเพราะกลัวถูกฟ้องข้อหาหมิ่นสถาบัน
“การข่มขู่ว่าจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งหมิ่นสถาบัน ไม่เรียกว่าการข่มขู่ เขาเรียกการใช้สิทธิตามปกตินิยม ถ้าคุณไม่ได้หมิ่นสถาบัน คุณจะกลัวอะไร อยากถามว่าคุณหมิ่นสถาบันหรือเปล่า ไม่หมิ่นแล้วคุณกลัวอะไร
-ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยมไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ ถามว่าคุณได้หมิ่นสถาบันหรือไม่ ถ้าคุณหมิ่นสถาบัน แล้วนายพลเขาปกป้องสถาบัน เขาจะดำเนินคดีกับคุณ เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ คุณยังมีหน้ามาพูด อยากถามว่าคุณหมิ่นสถาบันหรือเปล่าถามแค่นี้ ทนายคุณปากดี แขวะผมก่อน ก็ให้ทนายช่วย อยากรู้เหมือนกันคุณจะรอดหรือเปล่า
คุณยอมรับว่ามีพยานวัตถุเป็นแชตคุณกับ จ. มีการพูดพาดพิงสถาบันใช่หรือไม่ แล้วแบบนี้คุณจะรอดเหรอ แสดงว่าคุณกลัว มีพยานหลักฐานยืนยันว่าคุณพูดพาดพิงสถาบันจริง คุณเลยกลัว และถอนฟ้อง แล้วแบบนี้คุณจะรอดหรือ พี่น้องว่าจะรอดไหม”
จวกขึ้นเวทีบอกคู่กรณีให้จ่ายเงินที่เหลือ 9 แสน ทั้งที่ตัวเองก็มีส่วนร่วม ต้องรับผิดชอบไหม
“ภรรยาคุณฟ้องมือที่สาม ได้รับค่าชดใช้ 1 ล้าน จาก จ. คุณขึ้นเวทีว่าจ่ายมาแล้ว 1 แสน ที่เหลือ 9 แสนต้องจ่ายกู แล้วจะพูดเพื่อ! คุณมีส่วนร่วมหรือเปล่าที่ทำให้ จ. ถูกฟ้อง คุณได้ร่วมชดใช้ค่าทดแทนให้ภรรยาคุณไหม การที่คุณแสตมป์ไปยุ่งเกี่ยวกับ จ. แล้วโดนฟ้อง 1 ล้าน คุณมีส่วนร่วมรับผิดไหม คุณขึ้นเวทีบอกว่าจ่ายมาแล้วแสน อีก 9 แสนต้องจ่าย คุณต้องรับผิดชอบไหม การที่คุณนอกใจภรรยาแล้วทำให้อีกคนถูกฟ้อง เป็นธรรมกับเขาหรือเปล่า คุณมีส่วนร่วมไหม คุณได้ขอโทษครอบครัวผู้หญิงไหม รับผิดชอบเขาไหมทำไมไปมาคุณเป็นผู้ชายมีโลกสองใบหรือเปล่าไม่ทราบ
คุณสัญญากับแฟนคลับว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตไม่ประมาท แต่มาตรา 112 น่าสนใจนะ คุณพาดพิงสถาบันจนหวาดกลัวต้องถอนฟ้อง ถ้ามีพยานหลักฐาน ถามผมไม่น่ารอดนะ และไม่น่าปล่อยไว้ เดี๋ยวมีนักร้องเต็มไปหมด สนธิญา สวัสดี รออยู่ สนธิญาชอบเลยมีคดีหมิ่นสถาบันเนี่ย คุณจะรอดไหมล่ะ หลังจากนี้คุณจะใช้ชีวิตยังไงไม่รู้
ผมปรึกษาลูกความก่อน เดี๋ยวคุณก็รู้ว่าต้องไปเริ่มต้นชีวิตที่ไหนยังไง ทุกเรื่องอาจให้อภัยได้ แต่เรื่องหมิ่นสถาบัน จะมีใครให้อภัยหรือเปล่า ผมก็พูดกลางๆ นะ เดี๋ยวลูกความมาจะปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการยังไงกับคุณต่อไป เป็นบทเรียนสำคัญว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อครอบครัว แฟนเพลง ทุกการกระทำต้องมีผลตามมา ขอโทษแล้วจบหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ไม่ควรนอกใจภรรยา เมื่อทำผิดแล้วต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ใช่โยนขี้ให้ผู้หญิง ทั้งที่ทุกอย่างคุณเป็นคนสร้างเรื่องมาทั้งหมด ต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย
พวกที่ไม่ค่อยซื่อสัตย์ต่อครอบครัวเวลาทำผิดต้องยอมรับ ไม่ใช่โยนขี้ให้ผู้หญิง หรือให้เมียมาฟ้องร้องผู้หญิงคนใหม่ของเรา พอได้เงินไปแล้ว จ่ายบางส่วน ยังมาทวงส่วนที่เหลือ คุณมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือเปล่า อีก 9 แสนคุณจะเรียกเขาอีกเหรอ คุณไม่ต้องรับผิดชอบเหรอ คุณไปยุ่งเกี่ยวกับเขา คุณได้เยียวยาอะไรกับครอบครัว หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรกับครอบครัวผู้หญิงสองคนหรือเปล่า เวรกรรมมีจริง สังคมตัดสินจบแล้ว หลังจากนี้คุณจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ คุณคิดเอาเองแล้วกัน หลักฐานปรากฏชัดคุณถอนฟ้องเพราะกลัวมาตรา 112 ทุกการกระทำมีผลตามมา”
