สื่อเผยรายละเอียดสะเทือนใจ การกลับมาของ "จ้าวลู่ซือ" ทั้งที่ยังอ่อนล้า เพียงเพราะเงิน 14.4 ล้านดอลลาร์
การกลับมาของจ้าวลู่ซือ ท่ามกลางปัญหาสุขภาพ สร้างความกังวลเกี่ยวกับสภาพจิตใจและแรงกดดันจากข้อผูกพันตามสัญญาของเธอ
จ้าวลู่ซือเตรียมกลับสู่วงการบันเทิงในวันที่ 25 มกราคมนี้ โดยจะเข้าร่วมงานอีเวนต์เชิงพาณิชย์ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน แต่การปรากฏตัวครั้งนี้กลับสร้างความห่วงใยมากกว่าความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ
ในวิดีโอประกาศการกลับมา จ้าวลู่ซือปรากฏตัวด้วยใบหน้าซูบซีดและสีหน้าที่อิดโรย แสดงให้เห็นว่าเธอยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แพทย์ระบุว่าอาการของเธอต้องได้รับการรักษา การตรวจติดตาม และการพักผ่อนอย่างน้อย 2-3 เดือน แต่เธอต้องกลับมาทำงานเพียง 1 เดือนหลังจากล้มป่วย ซึ่งถือว่าเร็วเกินไป
ตามรายงานของ QQ จ้าวลู่ซือเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการบันเทิงจีนยุคนี้ปัจจุบันเธอมีสัญญาแบรนด์มากถึง 25 แบรนด์ ซึ่งเธอจำเป็นต้องเข้าร่วมอีเวนต์ ถ่ายภาพ และถ่ายทำโฆษณาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า การหยุดงานนานเกินไปจะทำให้บริษัทของเธอต้องชดเชยทางการเงินจำนวนมากแก่พันธมิตร
สื่อจีนรายงานว่าแม้จ้าวลู่ซือจะพยายาม "ต่อสู้" เพื่อเผยถึงการถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงถูกใช้แรงงานเกินขอบเขตและการทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถยกเลิกสัญญากับ Galaxy Cool Entertainment ได้ โดยบริษัทได้แถลงว่า “เราขอพื้นที่และเวลาให้ลู่ซือฟื้นตัว และรอการกลับมาของเธอ” ซึ่งแสดงถึงท่าทีแน่วแน่ของบริษัทว่าสัญญาจะไม่ถูกยกเลิก
จากข้อมูลที่สื่อค้นพบ จ้าวลู่ซือเซ็นสัญญากับ Galaxy Cool Entertainment ในเดือนกันยายน 2016 เป็นระยะเวลา 10 ปี สัญญาระบุว่าหากเธอยกเลิกหรือผิดสัญญา จะต้องชดเชยค่าเสียหายถึง 10 เท่าของมูลค่าสัญญา ซึ่งหากเธอออกจากบริษัทในตอนนี้ อาจต้องจ่ายค่าปรับถึง 496 ล้านบาท (ประมาณ 14.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในทางกลับกัน หากเธอเลือกประท้วงโดยหยุดงานหรือขัดแย้งกับบริษัท ก็อาจถูกใช้เส้นสายแช่แข็งอาชีพของเธอไปอีก 2 ปี ซึ่งในวงการบันเทิงจีนที่มีการแข่งขันสูง การหยุดพักงาน 2 ปีอาจทำให้เส้นทางอาชีพของจ้าวลู่ซือต้องยุติลง
จ้าวลู่ซือต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตมาตั้งแต่ปี 2019 โดยเธอเปิดเผยว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้าจากการถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็ก การถูกผู้บริหารทำร้ายในที่ทำงาน การถูกขู่กรรโชกจากผู้จัดการส่วนตัว การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ความกดดันจากสาธารณะ และตารางงานที่หนักหน่วง แม้เธอจะทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้ามาหลายปี แต่เธอก็ไม่กล้าเปิดเผยเพราะกลัวถูกกล่าวหาว่าแสร้งทำเป็นป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจ จนกระทั่งปลายปี 2024 เธอจึง "อาการทรุดหนัก" ในที่สุด
