เป็นคู่ชู้สุดฉาวที่ไม่หวั่นคำครหาของสังคมเลยทีเดียวสำหรับคู่รักต่างวัยอย่าง ผู้กำกับชื่อดัง “ฮงซางซู” กับนักแสดงสาว “คิมมินฮี” ที่ล่าสุดทั้งคู่กำลังจะมีลูกคนแรกด้วยกันแล้ว
แม้จะเจอดราม่า หรือถูกสังคมเกาหลีแบนหนัก แต่นักแสดงสาว คิมมินฮี วัย 42 ปี ก็ขอใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ แม้งานในวงการบันเทิงจะไม่มีแล้วเพราะข่าวฉาวจากการเป็นชู้ แต่เจ้าตัวก็ขอใช้ชีวิตเงียบๆในฐานะว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกของ ฮงซางซู ผู้กำกับดังวัย 64 ปี
ตามรายงานระบุว่าทั้งคู่คบหากันมานาน 9 ปี จากการพบรักกันในกองถ่าย จนกระทั่งถึงขั้นยื่นฟ้องหย่ากับภรรยา ก่อนที่ปี 2019 ฮงซางซู จะแพ้คดีหย่าร้างเนื่องจากมีสัมพันธ์ชู้สาวกับ คิมมินฮี ส่งให้ความสัมพันธ์นอกสมรสของพวกเขาดำเนินต่อไป โดยที่ภรรยาหลวงไม่ยอมหย่า
เรื่องอื้อฉาวนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาถูกเหยียดหยามจากสังคมเกาหลีเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ยังเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ยังคงมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งดูเหมือนทั้งคู่เองก็ไม่สนใจและไม่เคยหยุดคิดเรื่องที่จะมีทายาท แม้ว่าฝ่ายชายจะอยู่ในวัยเกษียณและฝ่ายหญิงอายุเกิน 40 ปีแล้วก็ตาม
โดยล่าสุดมีคนเห็นทั้งคู่ที่อาศัยอยู่ในย่านฮานัม จังหวัดคยองกี ควงกันไปพบแพทย์ที่คลินิกสูตินรีเวชท้องถิ่นเพื่อรับการตรวจครรภ์ ซึ่งตอนนี้แข็งแรงสุขภาพดีทั้งแม่และลูก และคาดว่าจะให้กำเนิดทายาทช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้
การตั้งครรภ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้จำต้องขึ้นทะเบียนเป็นลูกนอกสมรสของ ฮงซางซู อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตามกฎหมายแล้ว การจะมีชื่อระบุไว้ในทะเบียนครอบครัวคนที่เป็นแม่จะต้องเป็นภรรยาตามกฏหมาย ซึ่งก็คือภรรยาที่แยกกันอยู่กับ ฮงซางซู ทำให้ คิมมินฮี จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนเด็กโดยใช้ชื่อของตนเอง
การที่พวกเขาไม่แยแสต่อความคิดเห็นของสาธารณชนทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งและเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางอารมณ์ที่มีต่อผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภรรยาตามกฎหมายของฮงซางซู ดูเหมือนจะชัดเจน แม้จะรู้ว่า คิมมินฮี ตั้งครรภ์จากสื่อ แต่ภรรยาตามกฏหมายของเขาก็ยังคงมีท่าทีสงบนิ่งและเฉยเมย ทำให้การวิพากษ์วิจารณ์ คิมมินฮี ในที่สาธารณะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
คิมมินฮี ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงชั้นนำของเกาหลีจากบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่อง “Helpless” และ “The Handmaiden” ปัจจุบันเธอกำลังเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้ว่าบางคนอาจโต้แย้งว่า งานกับชีวิตส่วนตัวควรแยกจากกัน แต่มุมมองนี้แทบไม่มีอิทธิพลใดๆ ในสังคมอนุรักษ์นิยมของเกาหลี
การตั้งครรภ์ของ คิมมินฮี ครั้งนี้จึงนับเป็นการปิดประตูแบบปิดตายให้กับเส้นทางในวงการบันเทิงเกาหลีอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่ยากจะหวนกลับมาได้อีกครั้ง และดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจเส้นทางในเกาหลีแล้ว โดย ฮงซางซู หันหัวเรือในอาชีพไปที่ยุโรปและสถานที่จัดงานระดับนานาชาติอื่นๆ ส่วน คิมมินฮี ที่มักถูกมองว่าเป็น "แรงบันดาลใจ" ของฮงซางซู ก็ยังจำกัดการปรากฏตัวออกสื่อให้อยู่แต่งานในต่างประเทศเท่านั้น