xs
xsm
sm
md
lg

“ณวัฒน์” ตอบ สังคมได้ประโยชน์อะไรจากการตายของ “แตงโม” ชีวิตที่น่าสงสาร ตายแล้วยังต้องทวงความยุติธรรม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียกว่าเป็นอีกคดีประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ที่ภาคประชาชน รวมตัวกันช่วยเหลือเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคม สำหรับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่ในทางสืบสวนสอบสวนระบุสำนวนว่าแตงโม เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุตกท้ายเรือเพราะไปนั่งฉี่ แต่สิ่งเหล่านี้กลับค้านสายตานักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามคดีที่คาดการณ์ว่าแตงโมถูกจับถ่วงน้ำ ไม่ได้พลัดตกน้ำ รวมถึงประชาชนที่เสพข้อมูลข่าวสารกว่า 90% เชื่อว่าการเสียชีวิตของแตงโมนั้นเกิดจากการฆาตกรรม

แม้ทางด้าน “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ได้ระบุว่า จากหลักฐานที่มีทั้งหมด สรุปได้ว่าแตงโมเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายสาหัส ก่อนถูกนำไปถ่วงน้ำ และทิ้งลงแม่น้ำเพื่ออำพรางคดี จึงพยายามจะรื้อคดีแตงโมอยู่เรื่อยมา ด้านตำรวจได้ออกมาสรุปว่าจะไม่มีการรื้อคดีของแตงโม นิดา ขึ้นมาสอบสวนใหม่

ทีมประชาชน ผู้ที่สัมผัสกับดวงวิญญาณ และผู้มีวิชาโหราศาสตร์ทั่วฟ้าเมืองไทยก็ยังไม่ยอมแพ้ ออกมาช่วยกันไขปริศนาการเสียชีวิตของแตงโมโดยให้เหตุผลว่า ความจริงของเรื่องนี้ทั้งหมดอยู่ในดวงชะตาของผู้เสียชีวิตก็คือแตงโมหมดแล้วว่าตายเพราะถูกคนปองร้าย ทุกข์ทรมานจนเสียชีวิต เพียงแต่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันได้

เรื่อราวของ “แตงโม” หายไปแล้ว ทำไมถึงกลับมาอีก!
เรื่องนี้หมอดูชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทยออกมาพูดตรงกันว่า ที่ผ่านมาดวงวิญญาณของแตงโมถูกจองจำไม่ให้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งขณะที่กำลังมีกระแสข่าวเตรียมรื้อคดีแตงโมกลับมา ด้าน อัจฉริยะ ก็ออกมาเล่าเองว่า “ผมได้ไปปลดปล่อยวิญญาณแตงโมออกมาแล้ว แตงโมโดนสะกดวิญญาณไว้ มีพระองค์หนึ่งทับแตงโมไว้อยู่ ผมได้ไปขอหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ขอให้ปล่อยวิญญาณของแตงโมออกมาแล้ว”

ชีวิต “แตงโม” น่าสงสาร ลำบากตั้งแต่ยังมีลมหายใจ จนวันนี้หมดลมหายใจแล้วก็ยังต้องดิ้นรนเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง
แม้จะมีรูปเป็นทรัพย์จนได้เป็นนางเอกติดอันดับเบอร์ต้นๆของเมืองไทย แต่ชีวิตของแตงโมนั้นกลับพบแต่ความผิดหวังเรื่อยมาตลอดทั้งชีวิต แตงโมเป็นคนที่พยายามไขว้คว้าหาความรักอยู่ตลอดเวลา เพราะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ พอมีรักก็ไม่สมหวัง ต้องพบแต่กับการพลัดพราก ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็หลายครั้ง ทั้งจากอุบัติเหตุที่ทำให้หน้าเสียโฉมจนขาดความมั่นใจ และยังเคยจบชีวิตตัวเองเพราะเลิกรากับคนรัก ไม่เท่านั้นแตงโม ยังเคยโดนสื่อ โดนสังคมแบน ทำไม่มีงาน ไม่มีเงิน กลายเป็นนางเอกตกอับ ถูกติฉินนินทาว่าเป็นนางเอกขายตัว แต่แม้จะล้มสักกี่ครั้ง แตงโม ก็กลับมาลุกขึ้นยืนได้ใหม่เสมอ เพราะเธอยึดมั่นในความดี รักเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง 2 สิ่งในชีวิตที่แตงโมจะไม่ทำเด็ดขาด คือ เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และ ไม่ใช้ตัวเองไปแลกเงิน เธอมักจะพูดเสมอว่าต้องรอให้เธอตายก่อน? ถึงจะมีคนหันมารัก มาสนใจ ร้องไห้ให้กับเธอ

วันนี้ร่างกาย แตงโม ไม่อยู่ 3 ปีแล้วแต่จิตวิญญาณแตงโมยังอยู่เรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง เรียกว่าชีวิตแตงโม ลำบากตั้งแต่ยังมีลมหายใจ จนวันนี้หมดลมหายใจก็ยังต้องดิ้นรนเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งก็อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมตลอดไปเลยก็ได้

เรื่องราวของ “แตงโม” จะช่วยเหลือประเทศชาติได้?
“หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” เคยออกมาเล่านิทาน แตงโม ภาค 2  และบอกไว้ว่า… “ถ้าจะทวงความยุติธรรมก็เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ แต่เดี๋ยวสุดท้ายธรรมชาติจะกระเพื่อมเอง มันทนโดนกดดันไม่ไหวอยู่แล้ว มันจะเกิดนะ แต่มันจะสาวไปได้แค่นิดเดียว สุดท้ายมันจะไปสุดอยู่ที่ๆ นึงที่มันไม่สามารถไปต่อได้แน่นอนอยู่แล้ว ก็ทำกันเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะแค่ไหนก็ตามแต่ละขั้นแต่ละตอนมันจะเจอตัวใหญ่ๆ ที่มีผลในการทำอะไรชั่วๆ ในประเทศนี้พอสมควร ถ้าตัดไปได้สัก 1-2 คนก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติบ้านเมืองได้เยอะเหมือนกันนะ”

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” อีกหนึ่งโตโผใหญ่ที่อาสาเข้ามาช่วยรื้อคดี แตงโม ได้บอกว่า… “พลังสังคมเท่านั้นที่จะช่วยแตงโมได้ ถ้าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งถ้าจริงจะต้องมีคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้เยอะมากแล้วแต่จะดันไปถึงระดับไหน การที่เรามุ่งมั่นต่อคดีแตงโม ไม่ใช่เพียงเรื่องของ แตงโม สังคมจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องของแตงโม จงอย่าหมดหวังที่จะต้องต่อสู้ แม้มันจะลำบากเหลือเกิน บางทีเรารู้ว่าเขาใหญ่และมีอิทธิพลเหลือเกินก็ตาม

แต่จงมองว่ากระบวนการทางกฎหมายก็ส่วนหนึ่ง กระบวนการทางสังคมเป็นมหภาพที่ยิ่งใหญ่ เราจงอย่ายอมแพ้ หากถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม เราจงรักษาสิทธิ์ในการเป็นมนุษย์ สิทธิ์และเสียงของตนเอง ให้กฎหมายได้ใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมจริงๆที่จะพาไปสู่ความสงบสุขในสังคมได้ ถ้าจะไม่เท่าเทียมก็ขอให้มันมีอัตราน้อยที่สุด อย่าโจ๋งครึ่มจนทำให้คนในสังคมรู้สึกว่าทำอะไรก็ได้เสมอ เพราะมันคือความยุติธรรมของคนในประเทศ

เราเป็นสัตว์สังคม การจะอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเราต้องรู้จักรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นมาถึงแม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรงแต่ถ้ามันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่แฟร์ ไม่เหมาะสม มันก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในสังคม ในบ้านของคุณ เราต้องช่วยกันดูแลบ้าง อย่ามองความผิดปกติในสังคมแล้วรู้สึกเฉยๆหรือนิ่งดูดายเลย

ที่ผมเข้ามาไม่ได้เพื่อแตงโมอย่างเดียว แตงโมตายไปแล้วจะไปเอาอะไรกับเขา ถ้าคิดว่าแตงโมตายไปแล้วก็จบ ประเทศเราคงด้อยพัฒนาอย่างขุนไม่ขึ้น ประเทศเรามีช่องโหว่ในการใช้กฎหมายกับคนที่อยู่ในฐานะไม่เหมือนกัน ต้องยอมรับว่าประเทศไทยความยุติธรรมไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรอก การที่เราส่งเสียงลุกขึ้นมาโวยวายในเรื่องนี้ ก็เพื่อแตงโมนิดนึง 20 % อีก 80% ทำเพื่อคนที่ยังอยู่ เราทำเพื่อต้องการท้ากับความยุติธรรม ประชาชนจะต้องได้ใช้กฎหมายที่ปราศจากเงินและตำแหน่งที่เข้ามาเบียดบังความยุติธรรม ตรงนี้สำคัญที่สุด

หลายๆ เรื่องในสังคมที่เกิดขึ้นหลายคนเขาก็ไม่เชื่อ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาให้เวรกรรมตามพวกมันทัน ซึ่งก็ไม่รู้มีจริงหรือเปล่าอีก แต่นี่คือเรื่องของประชาชนและความยุติธรรมในประเทศนี้ ถ้าเรื่องราวแบบนี้เกิดกับคนใกล้ตัวของคุณ ลูกของคุณ ญาติของคุณ คุณจะให้มันจบแบบแตงโม?”





























กำลังโหลดความคิดเห็น