“กีต้าร์ ศิริพิชญ์” สัมผัสได้ “อ๋อม อรรคพันธ์” ยังไม่ไปไหน สวดคืนแรกรู้สึกได้ว่ามาหา ด้านภรรยาก็รู้สึกเหมือนกัน เล่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล จิตอ๋อมอาจจะผูกกันกับ “บูล อินดิโก้” หลังคืนแรกบูลมาหาที่บ้าน และทำทุกอย่างเหมือนอ๋อม ทั้งที่ไม่เคยเจอกัน ถามแม่รักผมไหม พ่อรักผมไหม และเข้ามากอด อัปเดต “ดาเรีย” ยังอยู่บ้านอ๋อม เพื่อช่วยดูแลพ่อกับแม่แทนเจ้าตัว กำลังเรียนภาษาไทยและหางานทำ มีชวนกินข้าวตลอดกลัวน้องเหงา
แม้จะผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ความโศกเศร้ายังไม่จางหาย สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของพระเอกหนุ่ม “อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์” วัย 39 ปี ในวันที่ 22 ก.ย. 2567 หลังป่วยเป็นมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจและรักษาตัวอยู่นาน โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางครอบครัวและภรรยา “ดาเรีย เชฟรุก” ก็เพิ่งทำบุญครบ 100 วันให้พระเอกหนุ่มไปที่วัดสระเกศฯ ซึ่ง “กีต้าร์ ศิริพิชญ์ วิมลโนช” พี่สาวคนสนิทก็เข้าร่วมด้วย ล่าสุดวันนี้ (16 ม.ค.) ได้เจอกีต้าร์ ที่มาร่วมพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ ระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ช่อง 7HD เจ้าตัวก็เผยถึงความรู้สึกถึงน้องชายสุดที่รัก พร้อมอัปเดตชีวิตของ “ดาเรีย” ให้ได้ฟังกัน
“อันนี้พูดด้วยความสัตย์จริงเลย เรารู้สึกว่าน้องยังไม่ได้ไปไหนค่ะ ด้วยความที่สนิทกับน้องมากๆ เวลาอยู่ที่บ้าน น้องก็จะมาหาบ่อยๆ เราก็รู้สึกว่าน้องไม่ได้ไปไหน เวลาทานข้าวกัน หรือเวลาไปเที่ยวไหน อย่างล่าสุดเมื่อปลายปีไปเที่ยวราชบุรี น้องก็สัญญาไว้ว่าเดี๋ยวจะไปเที่ยวด้วยกันปีนี้ เวลาไปไหนเราก็จะชวนน้องไปตลอด ก็เลยรู้สึกว่าน้องไม่ได้หายไปไหน แล้ว 100 วันที่ผ่าน รู้สึกว่ามันเร็วมากจริงๆ รู้สึกว่าเขาอยู่ในใจเรา
เพราะปกติตอนที่น้องป่วย เราจะเจอบ้างไม่เจอบ้างอยู่แล้ว พอน้องจากไป เราก็รู้สึกว่าเขาอาจจะไปรักษาตัว เลยรู้สึกว่าเขาไม่ได้ห่างจากเราไปไหน ก็ยังอยู่ในความทรงจำและในหัวใจเสมอ เพราะทุกพื้นที่ในบ้านต่างๆ อ๋อมเขาก็นั่งอยู่ นอนอยู่ ทานข้าวอยู่ เราเดินไปตรงไหนก็เห็นแต่หน้าเขา แล้วรูปเขาที่บ้านเราก็ยังมีอยู่ ยังมีความทรงจำ ความประทับใจดีๆ ที่เรายังอยู่ด้วยกันตลอดเวลาค่ะ”
เล่าสวดคืนแรก “อ๋อม” มาหาทั้งตนและ “ดาเรีย”
“คือหลายๆ ครั้งค่ะ อันนี้มันนานแล้วเนอะ อาจจะพูดได้ ตั้งแต่วันที่น้องเสียคืนแรก คืนที่ 2-3 เราสัมผัสได้ รวมถึงหลายๆ คน อย่างภรรยาเขา น้องก็สัมผัสได้ว่าอ๋อมมาลา เราก็รู้สึกว่าน้องมาหานะ แต่เราก็บอกน้องไปว่าไม่ต้องเข้ามานะ แต่ให้รับรู้ว่ามา เขาก็มาจริงๆ มาในรูปแบบต่างๆ ที่เรารู้สึกว่าเขามาจริงๆ ค่ะ มาเป็นเสียง เป็นกลิ่น แล้วก็เป็นลักษณะใดๆ ที่เขาทำเวลาที่เขาอยู่บ้านเรา หรือประตู หรือหน้าต่าง คือคืนแรกกลับบ้านไปเราก็จะกลัว แล้วก็จะมีคุณบลู อินดิโก้ มาอยู่เป็นเพื่อน พอน้องเข้ามาได้ประมาณตี 1-2 แอร์มันก็เสียงดังมาก เราก็บอกว่าบลูลุกขึ้นไปปิดแอร์ให้หน่อย เสียงดังเกินไป น้องแค่ก้าวลุกไป เสียงมันก็เงียบไปเลย ซึ่งปกติแอร์มันไม่เคยเสียงดังเลย
แล้วคืนนั้นไม่รู้เป็นอะไร บลูเขาจะแบบแม่ แล้วก็เดินมากอด แม่รักผมไหม อีกสักพักก็เดินไปหาคุณเตอร์ บอกพ่อรักผมไหม ซึ่งบลูไม่เคยเจออ๋อม ไม่เคยดูข่าว คือเขาเพิ่งเข้ามาใหม่ในกลุ่ม อยู่ๆ ก็แบบแม่รักผมไหม พ่อรักผมไหม แล้วก็จะเดินเข้ามากอดทั้งคืน ซึ่งมันเป็นคำถามที่อ๋อมชอบถามเราตลอดเวลาที่เขาอยู่บ้านเรา แล้วน้องจะมาถามตอน ตี 2-3 แม่อยากกินอะไร เดี๋ยวผมเดินไปชงให้นะ ลักษณะการพูดจะคล้ายๆเราเลยรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นจิตที่เขาผูกถึงกันหรือเปล่า ซึ่งทั้งบลูและอ๋อม เขาไม่เคยเจอกันเลย
แล้วของในบ้าน บูลเขามาใหม่ๆ เขาจะไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แต่วันนั้นเขาไม่ถามอะไรเราเลย แก้วอยู่ไหน อะไรอยู่ไหน คือโฟลว์ไปหมด มันเป็นหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แล้วทุกครั้งที่เราไปเคาะโลงที่วัด ก็สัมผัสได้ คือเวลาเราไปถึง เราก็จะไปแจ้งว่าวันนี้ใครมาบ้าง ให้น้องได้รับรู้ ทุกครั้งที่ไปหาน้องเราก็จะสัมผัสได้ว่าน้องอยู่ ขนมันจะลุก แล้วพอออกมาจากตรงนั้นอาการก็จะปกติ”
เผย “ดาเรีย” ยังอยู่บ้าน “อ๋อม” ช่วยดูแลคุณพ่อคุณแม่ และเป็นคนคอยดู “อ๋อม” ตั้งแต่ตอนป่วย
“น้องโอเคค่ะ ตอนนี้น้องก็ยังอยู่เมืองไทย อยู่บ้านอ๋อม แล้วก็ดูแลทั้งคุณพ่อคุณแม่แทนอ๋อมอยู่ น้องเป็นเด็กน่ารักมากจริงๆ สัมผัสได้จากการที่เจอน้องมาตั้งแต่เขาคบกันแรกๆ 2-3 ปีกว่า ก็ต้องขอโทษหลายๆ คนที่ไม่ได้แจ้ง แต่เพื่อความเป็นส่วนตัวของน้องทั้งสองคนด้วย น้องเป็นคนดี เราเคยบอกอ๋อมว่าถ้าแกไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แกไม้ต้องมาเรียกฉันว่าแม่เลยนะ
คือน้องรู้จักอ๋อมได้ประมาณ 2-3 เดือน อ๋อมก็ไม่สบาย แล้วหลังจากนั้นที่น้องทราบว่าอ๋อมไม่สบาย น้องก็บินกลับมาอยู่เมืองไทย มาดูแลอ๋อมในช่วงระยะเวลาที่น้องป่วย เป็นเวลา 2-3 ปีเลย เราเลยรู้สึกว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่เขาจากบ้านมาอยู่ดูแลผู้ชายที่เพิ่งเจอกัน 2-3 เดือน ภาษาก็ต่างกัน แล้วช่วงที่อ๋อมผ่าตัด หรือเข้าโรงพยาบาลนานๆ น้องก็เป็นคนดูแลตลอดเวลา เพื่อให้คุณแม่ได้พักผ่อนดูแลคุณพ่อ เราเลยรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดีมากๆยังบอกน้องเลยว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คน ที่เขาดูแลเราได้ขนาดนี้ เขาเป็นคนดูแลอ๋อมทุกอย่าง”
บอกให้ “ดาเรีย” ฟังตลอด ว่ามีคนชมเรื่องกิริยามารยาทดี
“ทราบๆ เราก็จะเล่าให้น้องฟังตลอด เวลาเราไลฟ์ติ๊กต็อก คนในไลฟ์ก็จะชมน้องตลอด เราก็จะแปลให้น้องฟัง เล่าให้น้องฟัง เพราะตอนนี้เขาเรียนภาษาไทยอยู่ด้วย ใครเจอดาเรียจะนินทาอย่านะคะ (หัวเราะ) น้องเริ่มฟังภาษาไทยออกแล้วค่ะ เขาอยู่กับอ๋อมมาประมาณ 2-3 ปี ก็ได้ซึมซับภาษาไทย คือรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย รู้ภาษาไทยเบื้องต้นที่เป็นประโยคเบสิก ส่วนเรื่องความน่ารักน้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้วค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ทราบ เพราะเรารู้สึกน้องหลังจากที่น้องคบกับอ๋อมแล้ว คืออ๋อมขออนุญาตพามาที่บ้าน”
กำลังช่วยดูเรื่องการทำงาน มีชวนกินข้าวบ่อยๆ เขาน้องเหงา
“เรากำลังช่วยน้องอยู่ค่ะ แต่เรื่องภาษาของน้อง จริงๆ บ้านน้องทำโลจิสติกส์ด้วย อยู่ที่ประเทศของเขา แต่มาที่นี่เราก็เลยคุยกันอยู่ว่าจะทำงานอะไร เขาก็พยายามเรียนภาษาไทยเพิ่ม เพราะเขารักเมืองไทย แล้วคุณพ่อของน้องท่านก็อยู่ที่เกาะเต่าด้วย ก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่นั่น น้องก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะเต่าด้วย คือพ่อน้องชอบมาเที่ยวไทย เลยซื้อบ้านอยู่ที่เกาะเต่า ดาเรียก็เลยไปๆ มาๆ ยังไม่ได้ทำธุรกิจอะไรค่ะ แต่ก็น่าจะอยู่ไทยยาวๆ ภาพรวมก็คือไปๆ มาๆ ระหว่างกลับประเทศ กับเกาะเต่า แล้วก็ที่นี่ค่ะ
ตัวเราก็ไปเจอเขาอยู่บ่อยๆ ก็ซัปพอร์ตน้อง บางทีก็ชวนทานข้าว เราเข้าใจว่าน้องอยู่คนเดียวอาจจะเหงา เขาอาจจะมีเพื่อนในกลุ่มน้อย เราก็จะชวนน้องมาทานข้าวบ้าง เพราะเขาสนิทกับน้องตั้งตาลูกสาวเราด้วย แล้วด้วยความที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เขาอายุเพิ่ง 26-27 ปี เขาคุยภาษาเดียวกัน เวลาไปไหนก็ชวนกันไปค่ะ”
