“ณวัฒน์” ไม่ยกเลิกสัญญา “อุ้ม ทวีพร” เคลียร์งานเก่า ไม่รับงานใหม่ยาวๆ บอกหนักกว่า “โกโก้ อารยะ” ชื่อใหม่ชีวิตแย่ลง สวดยับ “มีนา” ปากพาจน บอกเวทีมิสแกรนด์แค่ทางผ่าน สวนอีกฝ่ายก็แค่ทางผ่านหาเงิน แฟนคลับไม่ต้องมาด่า ยิ่งด่ายิ่งดับ
หลังจากที่ “ณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ปรี๊ดปรอทแตกถึงขั้นขึ้นสตอรี่ส้มฉะ “อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส” เหตุเปลี่ยนชื่อนามสกุลแล้วไม่บอก แถมมาสั่งให้ตนห้ามพูดถึงเรื่องพ่อแม่อีกฝ่ายด้วย แม้อีกฝ่ายจะร่อนจดหมายขอโทษแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววว่าจะได้รับการให้อภัยหรือไม่ ซึ่งล่าสุดณวัฒน์ได้ออกมาเปิดใจแล้วว่าจนถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้รับคำตอบถึงการเปลี่ยนชื่อ และยอมรับว่าโกรธมากจริงๆ
“ผมไม่ทราบเลยจริงๆ ว่าเขาเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะตอนเปลี่ยนไปเขามีการประกาศของเขา แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีประกาศนี่ครับ ผมก็จะรับรู้ได้แค่ตามนั้น เพราะเวลามีอะไรใช้สาธารณะ เราก็รอทางสาธารณะว่าจะมีอะไรแค่นั้นเองครับ วันที่ขึ้นสตอรี่ส้ม ยอมรับว่าโกรธครับ เพราะรู้สึกว่าเราเมตตา เอ็นดู ให้อภัยมาหลายร้อยเรื่อง หลายเรื่องใหญ่ๆ ผมไม่สามารถจะบอกได้ตรงนี้ ตัวน้องรู้ดีครับว่าผิดเรื่องอะไรบ้าง และยังทำตัวแบบนี้อีก มันก็เกิดแก่การที่เราจะรู้สึกได้ว่ามองผ่าน ปรอทมันก็ขึ้นปรี๊ดๆ เลย
โกรธมากครับ เพราะว่าไม่มีการบอกกล่าว การที่ไม่ให้ข้อมูล เห็นทุกคนเป็นหัวหลักหัวตอในบริษัท และเราเป็นบริษัทมหาชนนี่ก็แย่แล้ว แต่การที่จะตามหาความจริงโดยการเข้าไปถามในทุกรูปแบบก็ยังไม่บอก ใช้วิธีกระแซะบนเวที ก็กลายเป็นว่าเอาไปเป็นประเด็นตำหนิเรา ตำหนิเราตรงๆ เลย คุณเขาตำหนิผม เหมือนผมเป็นลูกน้องเขา ใช้คำว่าอย่า ต่อไปนี้อย่า ก็ครับผม ก็อย่ายุ่งกับแกเลย แต่ตอนนี้ไม่โกรธแล้ว แต่ไม่อยากเกี่ยว (หัวเราะ) ให้เป็นหน้าที่ของทีมงาน ให้เป็นหน้าที่ของคุณแชมป์ คุณแวนไป”
ถามเท่าไหร่ไม่เคยบอกว่าเปลี่ยนทำไม ใครให้เปลี่ยน
“แม้กระทั่งถามบนเวทีว่าใครเปลี่ยนให้ยังไม่บอกเลย ทุกคนก็ประจักษ์อยู่ จนถึงทุกวันนี้มีใครรู้บ้างในบริษัทว่าใครเปลี่ยน เขาไม่ได้ให้เกียรติเราในการที่จะบอกเรา เขาจะบอกกันกับพวกเขาตามลำพัง แล้วพวกเขาก็จะช่วยกันปิด พวกเขาก็คือคนที่เดินติดตามเขานั่นแหละ เปลี่ยนทั้งชื่อนามสกุลทั้งคู่ไง คนดูแลที่ผมเคยบอกว่าห้ามใส่เสื้อเปิดพุงน่ะ ผมก็บอกให้หยุด เพราะมันเสียภาพลักษณ์ ก็ไปปรับมา คนนั้นแหละจูงกันไป แล้วก็เปลี่ยนทั้งคู่
สิ่งที่ผมรู้สึกไม่ดีก็คือว่าถ้าเปลี่ยนชื่อ ถ้ามาแจ้งผมก็ยังพอได้นะ แต่ก็ลำบากนักข่าวอีก ลำบากทุกอย่าง แต่ผมว่าคนเราจะเปลี่ยนนามสกุลได้ใน 2 กรณีนะ หนึ่งแต่งงาน และยอมใช้นามสกุลสามี เพราะเดี๋ยวนี้เขาเลือกจะไม่ใช้ก็ได้ กับสองมีปัญหาเรื่องของกฎหมายจริงๆ ที่อาจจะมีเรื่องของกฎหมายในตระกูลตัวเอง ที่นามสกุลนี้มันก่อให้เกิดปัญหาอะไรใดๆ ที่ยื่นวีซ่ายากหรือทำอะไรยาก อาจจะต้องเปลี่ยน แต่อยู่ๆ มาเปลี่ยนก็เลยเป็นอย่างนี้ครับ”
ไม่เลิกสัญญา เคลียร์งานเก่า และไม่รับงานใหม่
“ถามว่าหลังจากที่เปลี่ยนมาและก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชีวิตเขาดีขึ้นไหม แย่ลงสิครับ ก็ดูจากตอนนี้สิครับ ตั้งแต่วันที่มีปัญหาผมก็ไม่ได้คุยกับเขา และผมก็ไม่ได้สนใจที่จะตอบอะไรใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้บริษัทแค่พิจารณางานเก่าที่ตกลงไปแล้ว งานใหม่ก็ยังพักยาวๆ ครับ แต่ไม่ได้ยกเลิกสัญญาครับ ยกเลิกทำไม เก็บไว้สิครับ รักจะตายสัญญา ไม่ยกเลิกครับ แต่ไม่รู้จะเป็นยังไงหรือเปล่า ถามว่างานจะน้อยลงกว่าเดิมไหม ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไม่รับงานครับ”
บอกทั้งอภัยและแก้ปัญหาให้หลายเรื่อง เพราะอยากให้โอกาส
“มันไม่ใช่รอบเดียวนะครับ มีรอบที่คุณไม่รู้อีกเยอะนะ เรื่องที่สถานบันเทิง ช่างมันเถอะครับ แล้วแต่ ก็คือให้รู้ว่าได้ช่วยแล้วในทุกสิ่ง ในชีวิตคนนึงที่คุณณวัฒน์จะทำให้ ถามว่าทำไมถึงช่วยตลอด ก็เห็นว่าเมื่อเลือกเขามาแล้ว เราก็ต้องอดทนสูงที่สุด เพราะผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราตัดสินใจไปแล้วเราจะเททันที แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้หลายปีแล้วเทได้ ถ้าอยากเทก็เท
แต่ถ้าย้อนกลับไปช่วงประกวด แล้วเขาบอกว่าห้ามพูดถึงภูมิหลังและอาชีพคุณพ่อคุณแม่ในห้องสัมภาษณ์ ผมก็จะให้เขาตกรอบแรก ผมพูดอย่างนี้ ซึ่งผมก็จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ สมมติผมพูดอาชีพพ่อแม่อิงฟ้า วราหะไม่ได้ พ่ออิงฟ้าเป็นนักดนตรีอยู่ต่างจังหวัด แม่เป็นนักร้องงานวัด ผมพูดไม่ได้ พูดแล้วถูกนางงามสั่งห้าม ถ้าบอกมาผมก็ไม่กล้าเลือก เพราะมันเป็นเส้นที่เราจะต้องไปด้วยกัน แต่น้องพูดว่าห้ามพูด ผมก็เลยบอกว่าถ้าน้องบอกแบบนี้ตั้งแต่ตอนประกวด อย่าว่าแต่ตอนที่ไปวี้ดบึ้มที่ภาคเหนือ ถ้ารู้แม้กระทั่ง 1 วันก่อนขึ้นเวทีไฟนอล น้องก็จะได้แค่ยืนปรบมือ 20 ก็ไม่เข้า
แต่ที่ให้โอกาสเขาก็เพราะเขาไม่บอกอย่างนี้ไงครับ ก็ยังรู้สึกว่าการให้โอกาสก็ยังอยากให้อยู่ และกว่าจะกู้ความรู้สึกกลับมาได้ใช้เวลาเกือบ 10 วันนะจากวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดของเราในปั้มน้ำมัน จำได้หมด ร้านอยู่ในปั้ม ลูกชิ้นหมูสับ ไม่ได้กินเลยครับ (หัวเราะ) แต่ละเรื่อง ต้องยอมรับว่าเหนื่อยกับน้องมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ส่งไปเอลซัลวาดอร์ เตรียมทุกอย่างให้หมดแล้ว น้องก็เหมือนคู่ปัญหามั้ง ไม่จบไม่สิ้น (หัวเราะ) ตอนแรกคิดว่ามีโกโก้ (อารยะ ศุภฤกษ์) อันนี้หนักกว่าเยอะ โกโก้เนี่ยเขาเป็นปัญหาสไตล์คอมเมดี้ แต่อันนี้เป็นปัญหาสไตล์ดรามาละครหลังข่าว 2 ทุ่ม”
บอกสาเหตุที่พูดถึงพ่อแม่เพราะอยากให้หวนนึกว่ามาจากที่ไหน ต้องมีสำนึกรักบ้านเกิด
“เราพูดไปด้วยเหตุผล 2 อย่างก็คืออยากจะบอกว่ามันไม่เหมาะกับเธอเลย มันเป็นไปไม่ได้ พูดกี่ครั้งมันก็ไม่ใช่เธอ เธอคิดดีๆ สิว่าเธอมาจากไหน เธอเป็นอะไร ทำไมเธอต้องเปลี่ยน นามสกุลเดิมก็ดี ชื่อเดิมก็โอเค ฉันปั้นเธอมาก็เพราะชื่อนามสกุลนี้ จะให้มานั่งปั้นใหม่ไม่ปั้นแล้ว ไปปั้นเด็กใหม่เถอะ
อีกอย่างนึงจะพูดให้รู้สึกว่าสำนึกรักบ้านเกิด พ่อแม่ อาชีพ ผมไม่รู้ว่าแตะไม่ได้ คุณเขาห้ามแตะ คุณเขาใช้คำว่าอย่าพูดได้มั้ย จะไปเจ็บปวดรวดร้าวอะไรวะ เราต้องยอมรับในสิ่งที่เรามี เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็น เราต้องยอมรับในจุดเกิดเราทุกก้าวย่าง พูดไม่ได้คืออะไร ไม่อยากให้ใครรู้ ผมจะตีความว่าอย่างนี้ใช่ไหม ผมไม่เข้าใจ พูดแล้วจะเป็นโทษตรงไหน ผมเป็นเด็กวัด พ่อแม่ทำสวน เกิดกลางบ้าน ไม่มีหมอ ไม่มีพยาบาล ชีวิตลำบาก มันก็เป็นปกติ”
ฝากถึง “มีนา ริณา ฉัตรอมรชัย” ก็แค่ทางผ่านของบริษัทเช่นกัน
“คู่จิ้นยังอยู่ครับ คู่จิ้นเพียงแค่ไปบอกว่าเราเป็นทางผ่าน พอได้ยินก็เซ็ง มีความรู้สึกว่าใจเขาใจเรานะ จริงๆ แล้วผมเอามีณาเข้ามารองอันดับ 5 เพราะอยากขายจิ้น มันก็แค่ทางผ่านบริษัทเหมือนกัน (นักข่าวพร้อมใจกันร้องฮือ) คำเดียวกัน อย่าตกใจสิ ถ้าคุณตกใจขนาดนั้นแล้วผมล่ะ ซีอีโอเป็นผู้ให้โอกาส ผมจะตกใจขนาดไหน มันต้องสอนด้วย ใจเขาใจเรา สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ คำพูดทิ่มแทง เจ็บปวดมาตลอด น้ำพริกปลาสลิดจะซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร มันก็เหมือนน้ำพริกกลางตลาดทั่วไป น้องก็ทำมาแล้วในไลฟ์นะจ๊ะ
แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดบอกว่าจะต้องไปหยุด แต่รู้สึกตลก และรู้สึกว่าทำไมน้องไม่คิดถึงใจคนอื่น น้องคิดแต่เรื่องอยากจะพูดด้วยตัวเอง สุภาษิตโบราณเรียกว่าปากพาจน ถ้าไปจากผมแล้วใครเขาจะปั้น เพราะถ้าไปพูดอย่างนี้ใส่เขาอีก ถูกไหม คุณนอนอยู่ที่นี่ แล้วคุณคิดว่าที่นี่แค่ที่ซุกหัวนอน มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่ก็เบื่อที่จะโกรธน้องเขาแล้ว อันนี้พูดตรงๆ นะ ที่เหลือก็แล้วแต่เวรแต่กรรม จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากได้ ผมเอามาท็อป 5 เพราะผมอยากจะขายจิ้นแค่นั้นเอง มันก็แค่ทางผ่านในการหาเงินกับบริษัท
ห้ามดรามาผมนะ เพราะมันคือประโยคเดียวกัน กลับซ้ายเป็นขวา ถ้าผมไม่เห็นความสำคัญของคุณ เรียกคุณว่าทางผ่าน เหมือนที่คุณไม่เห็นความสำคัญกับสถาบัน และคุณเรียกว่าทางผ่าน คำเดียวกันเลย ไม่ต้องมาด่าผมกลับอีก หมายถึงแฟนคลับจัดตั้งก็ไม่ต้องมานั่งด่าผมกลับ ยิ่งด่ายิ่งดับบอกไว้ก่อน ถามว่ามีทำทันบนไหม ก็แล้วแต่ผู้ช่วยครับ เหมือนมองผ่านไปเรื่อยๆ แต่เรามีความหวังใหม่กับ 2025”