xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีเหนือเปิดตัวหนังสงครามฟอร์มยักษ์ "คิมจองอึน" กำกับเอง รัสเซียยกย่อง "เล่าวีรกรรมกล้าหาญ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฉากในภาพยนตร์
"72 Hours" คิมจองอึนกำกับหนังสงคราม 4 ชั่วโมง กล่าวหาเกาหลีใต้ "หาเรื่องเริ่มสงครามเกาหลี" ก่อน

ในช่วงต้นปี 2025 เกาหลีเหนือได้ปล่อยภาพยนตร์สงครามความยาวกว่า 4 ชั่วโมง เรื่อง “72 Hours” ที่กำกับโดยคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ

โดยเนื้อหาภาพยนตร์บิดเบือนประวัติศาสตร์สงครามเกาหลี โดยกล่าวหาเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาว่าเป็นฝ่าย "หาเรื่องเริ่มสงคราม" ก่อน และชูบทบาทของเกาหลีเหนือในฐานะผู้ปกป้องมาตุภูมิ

ทหารเกาหลีเหนือบุกถึงกรุงโซล
เนื้อหาภาพยนตร์: การปลดปล่อยกรุงโซลใน 3 วัน

“72 Hours” ถูกนำเสนอผ่านสถานีโทรทัศน์กลางเกาหลี (KCTV) เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน โดยอ้างว่าเนื้อหาสร้างจาก “เหตุการณ์จริง” ในช่วง 3 วันแรกของสงครามเกาหลีในปี 1950 ภาพยนตร์เล่าถึงกองพลรถถังที่ 105 ของเกาหลีเหนือที่สามารถบุกยึดกรุงโซลได้สำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว

ในภาพยนตร์ เน้นการโจมตีทางการเมืองต่อเกาหลีใต้และสหรัฐฯ โดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันเพื่อเริ่มสงคราม และเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการตอบโต้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อความนี้ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่นักวิชาการทั่วโลกยอมรับว่า คิมอิลซอง ผู้นำผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ เป็นผู้เริ่มต้นสงครามด้วยการรุกรานเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1950

เจมส์และเท็ด เดรสน็อค ลูกชายของเจมส์ เดรสน็อค ทหารอเมริกันที่แปรพักตร์ไปเกาหลีเหนือ ร่วมแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้
“72 Hours” เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ผิดปกติ

หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสังเกตในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการใช้สัญลักษณ์ของเกาหลีใต้ เช่น ธงแทกึก ซึ่งปรากฏในฉากที่ทหารเกาหลีเหนือล้อมธงและฉีกทิ้ง นอกจากนี้ ตัวละครในภาพยนตร์ยังเรียกเกาหลีใต้ว่า “เกาหลี” หรือ “สาธารณรัฐเกาหลี” แทนคำว่า “นัมโจซอน” (เกาหลีใต้) ที่เคยใช้ในอดีต

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายล่าสุดของเกาหลีเหนือที่นิยามความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีเป็น “สองรัฐที่เป็นศัตรูกัน” โดยมีการยกเลิกคำศัพท์ที่สื่อถึงการรวมชาติ เช่นเดียวกับในเดือนธันวาคม 2023 ที่คิมจองอึนสั่งลบสัญลักษณ์และคำพูดที่เกี่ยวข้องกับการรวมชาติออกจากเอกสารทางการ

ทหาาเกาหลีเหนือในเรื่อง
คิมจองอึน: ผู้นำที่ควบคุมเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์

สถานี KCTV รายงานว่า คิมจองอึนมีส่วนร่วมอย่างมากในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งการตั้งชื่อเรื่อง เขียนบท และควบคุมการถ่ายทำ โดยมีการออกคำแนะนำในสถานที่ถ่ายทำเพื่อให้ภาพยนตร์ออกมาตรงกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ตามมุมมองของเกาหลีเหนือ

แม้ว่าคิมจองอึนจะไม่ได้มีชื่อเสียงในฐานะผู้สนใจด้านศิลปะเทียบเท่าบิดาของเขา คิมจองอิล ซึ่งเคยผลิตภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่การที่ผู้นำสูงสุดประกาศว่าเขาเขียนบทและดูแลทุกขั้นตอนการผลิต ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ในฐานะเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ

นักวิเคราะห์มองว่า “72 Hours” ไม่ใช่เพียงการย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ แต่ยังถูกใช้เพื่อสร้างความรู้สึกเกลียดชังต่อเกาหลีใต้และสหรัฐฯ รวมถึงเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย

ในภาพยนตร์มีฉากที่ คิมอิลซอง สั่งการให้รัฐมนตรีต่างประเทศติดต่อกับทูตรัสเซียเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดที่เกาหลีเหนือและรัสเซียสามารถร่วมมือกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นอกจากนี้ การปล่อยภาพยนตร์ในช่วงที่สองประเทศมีความสัมพันธ์ทางทหารแน่นแฟ้นมากขึ้นในบริบทของสงครามยูเครน ยิ่งทำให้ “72 Hours” กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ทรงพลัง

นักวิชาการชี้มีข้อมูลผิดหลายส่วน และตั้งใจประกาศเป็นศัตรูกับเกาหลีใต้
กระแสตอบรับ ... รัสเซียชื่นชม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการชมเชยจากสถานทูตรัสเซียในเกาหลีเหนือ โดยเอกอัครราชทูต อเล็กซานเดอร์ แมตเซโกรา แสดงความขอบคุณที่รัฐบาลเกาหลีเหนือช่วยเล่าประวัติศาสตร์ “วีรกรรมอันกล้าหาญ” ของประเทศ

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ภายนอกมองว่า “72 Hours” เป็นตัวอย่างของการบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อรับใช้วาระทางการเมืองของคิมจองอึนในปัจจุบัน



กำลังโหลดความคิดเห็น