“กาย-ฮารุ” สอน “น้องคิริน” อยู่ ป. 4 วางแผนเรื่องการลงทุนแล้ว ภูมิใจถูกยกเป็นครอบครัวต้นแบบ แต่แอบเสียใจ แต่งงาน-มีลูกช้าเกินไป ฮารุขอบคุณสัญชาตญาณตัวเอง เลือกคนไม่ผิด
เป็นครอบครัวแอดเวนเจอร์ที่มีภาพออกมาทางสื่อโซเชียลเมื่อไหร่ ก็ทำให้คนที่เห็นยิ้มตามได้ตลอด สำหรับครอบครัวของหนุ่ม “กาย รัชชานนท์ สุประกอบ” และ “ฮารุ สุประกอบ” กับลูกๆ ทั้งสามคนได้แก่ น้องคิริน, น้องไนร่า และ น้องเอเดน ซึ่งกายและฮารุบอกว่าพอเริ่มมีงานเข้ามา ก็สอนให้ลูกๆ ได้เรียนรู้เรื่องการใช้เงินและเก็บเงินให้เป็น อยากได้อะไรก็ต้องตัดสินใจซื้อด้วยเงินตัวเอง
กาย : “ตอนนี้เขาน่าจะโตขึ้นครับ แล้วก็น่าจะชินกับพี่ๆ สื่อแล้ว เพราะว่าเจอหน้าตากันบ่อยขึ้น เจอเซฟอัปบ่อยขึ้น เวลามางานก็บอกเขาว่ามาทำงานนะ แล้วก็สอนเขาเรื่องเก็บเงิน สอนหลายอย่าง ทั้งออม ทั้งเก็บเงิน อย่างคิริน ป.4 แล้วก็เริ่มมีการสอนวางแผนการลงทุน คือมันคอนเนกซ์กับสิ่งที่เขาเรียนในโรงเรียนด้วย ก็ลองเอามาใช้กับชีวิตจริงว่าเราจะเอามาทำยังไงได้บ้าง สมมติเรามีงบอยู่ 3,000 บาท กี่ร้อยบาทเราจะต้องทำอะไร แล้วมีกำไรเท่าไหร่ เหมือนกับเอาชีวิตจริงมาสอนให้เขา ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เขาทำในโรงเรียน”
ฮารุ : “แต่เด็กๆ เขาก็จะรู้เรื่องการออมอยู่แล้ว บางทีเราไปหาญาติผู้ใหญ่ ปีใหม่เขาก็จะให้เงินมาเล็กๆ น้อยๆ หรือเวลาเราไปไหน มีเงินเราก็จะให้เขา ก็จะสอนเขาว่าถ้าไม่ทำงานก็จะไม่ได้เงิน ถ้าเขาได้เงินสดมา ซึ่งเขาจะเรียกว่าเงินปึก เขาก็จะมาดูว่าเขาได้มาเท่าไหร่แล้ว กว่าจะได้เงินมาเราต้องแลกมาด้วยการทำงาน เราต้องเก็บไว้ซื้อของ จะใช้ก็ต้องคิดดีๆ ไม่อย่างนั้นเงินมันจะหมด
ล่าสุดไนร่าใส่ชุดไปโรงเรียนผิด เขาก็โทร.มาบอกฮารุ แล้วบอกว่ามัมให้ใส่เสื้อผิด เขาอยากซื้อชุดนักเรียนใหม่ แต่จริงๆ มันไม่ต้องเปลี่ยน ฮารุก็เลยบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอกลูก เราใส่ชุดปกติไปมันก็เป็นชุดโรงเรียนนั่นแหละ แค่ใส่ผิดสี แต่ถ้าหนูอยากเปลี่ยน ก็ต้องเป็นเงินที่หนูจ่าย ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบเขาแหละ เพราะมันเงินเขา ถ้าเขาตัดสินใจเอง ก็ต้องไปเอาจากเขา”
ภูมิใจคนชมเป็นครอบครัวตัวอย่าง
กาย : “เวลามีคนชมว่าเป็นครอบครัวต้นแบบ เวลาอ่านก็ภูมิใจในตัวเองนะครับ ที่คนมองว่าเราเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่อีกมุมนึงก็คิดว่ามันขนาดนั้นเชียวเหรอ คือเราก็เลี้ยงให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ก็คือต้องอยู่ในความเป็นเราด้วย เราชอบแบบไหน ใช้ชีวิตยังไง ก็เป็นแบบนั้นไป อย่าพยายามเปลี่ยนตัวเอง ไม่งั้นเราจะทำได้ไม่นาน”
ฮารุ : “ก็ดีใจกับสิ่งที่เราเป็นมันไปถูกจริตหลายๆ ครอบครัว ก็ดีใจค่ะ ทุกครั้งที่อ่านคอมเมนต์และหลายๆ คนบอกว่าเอาไปปรับใช้ บางอันบอกว่าลองทำแล้วมันเวิร์ก บางอันก็บอกว่าไม่เวิร์ก มันก็เหมือนเป็นการช่วยกันเลี้ยงลูก และคอมเมนต์ต่างๆ ก็มาช่วยฮารุเลี้ยงลูกด้วย ฮารุก็เป็นตัวอย่างในการเลี้ยงลูกของบางบ้าน มันก็เป็นการแชร์กัน”
บอกยังคิดว่าแต่งงาน มีลูกช้าเกินไปด้วยซ้ำ
กาย : “ในวันที่เราแต่งงานกันก็จะมีคำถามว่ามันเร็วเกินไปไหม อายุ 24 รอก่อนไหม รอให้พร้อม ผมก็บอกว่าแล้วอะไรคือเร็ว อะไรคือช้า รอให้พร้อมคืออะไร ก็ยังไม่มีใครตอบผมได้เลย บางคนบอกว่าเงินทอง วุฒิภาวะ หรืออะไรต่างๆ เต็มไปหมด แล้วอายุ 30 ถือว่าพร้อมไหม ก็มีคนบอกว่าน่าจะพร้อมนะ แต่ก็มีบางคนที่อายุ 30 แต่ยังไม่พร้อมก็มี งั้นก็แสดงว่าอายุก็ไม่ใช่ตัวกำหนดแล้วสิ
กายว่ามันก็อาจจะทำให้พวกเราสองคนเห็นว่าในตอนนั้นที่เราได้บอกคนอื่นไปว่าเราคิดว่าพร้อมแล้ว แสดงว่าตอนนั้นก็คงพร้อมจริงๆ ในเรื่องการตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน และมีลูกกันในวัย 24-25 ตอนนั้น เอาจริงๆ ถ้าเป็นไปได้อยากจะเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้มีความรู้สึกว่าทำไมปวดหลังง่ายจัง ทำไมเมื่อยขาเร็วจัง (หัวเราะ)”
ฮารุ : “ก็ดีใจที่วันนั้นเราเชื่อในตัวเองว่าน่าจะเลือกคนไม่ผิด เพราะคนรอบข้างจะบอกหมดว่าคนนี้มันไม่ใช่แน่นอน ก็ขอบคุณตัวเองที่วันนั้นเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง แล้วก็ขอบคุณพี่กายที่มันมาได้ไกลขนาดนี้จนมีลูก มันก็ไม่ได้อยู่ในจิตใต้สำนึกของเราหรอกว่า ฉันจะพิสูจน์ให้ดูขนาดนั้น ก็ค่อยๆ อยู่กันเป็นคู่ แล้วอยู่ดีๆ ก็ขยายไปเอง จริงๆ อาจจะตัดสินใจผิดก็ได้นะ วันนี้ก็อยู่กัน 15 ปีแล้ว อีก 3 ปี 5 ปี 10 ปีเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ ณ วันนี้มีความสุขดีมาก และคิดว่าตัดสินใจไม่ผิด แต่อนาคตเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน”
กาย : “เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เราก็บอกตั้งแต่วันแรกแล้ว ในการ์ดแต่งงานกายยังเขียนไว้เลยว่า กายไม่รู้นะว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตหรือเปล่า แต่ในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราจะพยายามมีความสุขในทุกๆ วันในวันที่เราอยู่ด้วยกันได้”
