xs
xsm
sm
md
lg

“ก้อง ห้วยไร่” ไม่เลิกคบ “แน็ก ชาลี” รับห่วงแต่ไม่ยุ่งดรามา กรรมใครกรรมมัน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ก้อง ห้วยไร่” ให้กำลังใจ “แน็ก ชาลี” รับห่วงในฐานะเพื่อน แต่ไม่ยุ่งเรื่องดรามา ให้ไปเคลียร์ตัวเองในสิ่งที่ทำ กรรมใครกรรมมัน ใครทำผิดก็รับผิดชอบตัวเองไป แจงร้านอาหารใน “ห้วยไร่อีหลีน่าเฟสติวัล 3” มีแต่คนกันเอง เพื่อความสบายใจ เพราะปีที่แล้วโดนวีนว่าขายไม่ได้ ย้ำห้ามสูบพอต บุหรี่ และกัญชาในพื้นที่ ไม่งั้นจะเชิญออกและดำเนินคดีด้วย

เป็นอีกหนึ่งพี่ชายคนสนิทของ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” สำหรับนักร้องหนุ่ม “ก้อง ห้วยไร่” ล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ได้เจอเจ้าตัว ก็เลยขอถามไถ่ถึงน้องชายสักหน่อย ว่าได้พูดคุยหรือให้กำลังใจกันอย่างไรบ้าง หลังเจอดรามาถาโถมหนัก ทั้งเรื่องความขัดแย้งกับพี่สาวทั้ง 4 คน และปมเรื่องเงินกับ “ปู อดีตผู้จัดการส่วนตัว” โดยก้องได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ ว่าขอไม่ยุ่งและไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่ก็ยอมรับว่าเป็นห่วงในฐานะเพื่อน ซึ่งในคอนเสิร์ต “ห้วยไร่อีหลีน่าเฟสติวัล 3” ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 11 -12 มกราคมนี้ แน็กก็จะมาขึ้นเวทีด้วย

บัตรขายหมดภายในชั่วโมงนิดๆ ที่นี้ก็เลยขออนุญาตเติมอีกสัก 3,000 ใบ ตอนนั้นผมขาย 18,000 ใบ เสร็จแล้วก็ขอเติมอีก 5,000 ใบ ก็เลยลากยาวไปถึง 3 ชั่วโมงหมด สถานที่ปีนี้กว้างกว่าที่เดิม 4 เท่าครับ ขยายออก ขอเช่าที่ข้างๆ กัน เพราะว่าเราอยากให้คนที่มาเที่ยวไม่แออัด เพราะปีที่แล้วแออัดมากเลยครับ

ถามว่าเอาประสบการณ์ปีที่แล้ว มาปรับปรุงเพิ่มเติมยังไงบ้าง ผมว่าห้วยไร่อีหลีน่าเฟสติวัล เป็นคอนเสิร์ตที่ผู้จัดและผู้มาเที่ยวนั่งคุยกันต่อหน้าเลย คือแก้ตอนนั้น เวลานั้น มันเลยกลายเป็นเสน่ห์ ว่าถ้าน้ำไม่ไหล เราก็รีบไปแก้เลย คือเขามีที่ร้องเรียน แล้วเราร้องเรียนกับคนจัดงานเลย คุยกับผมโดยตรงเลย มันเลยแก้ไขทันถามว่าเฟอร์เฟกต์ไหม เพียบพร้อมไหม เขาเรียกว่าความเนี้ยบไม่มีจริงในโลก ความสมบูรณ์แบบมันไม่มีแต่ว่าเราก็แก้ไขทันท่วงที มันก็เลยกลายเป็นเสน่ห์

ส่วนห้องน้ำปีที่แล้ว 100 ห้องคิดว่าเยอะ ปีนี้เพิ่มอีก 300 เป็น 400 ห้องครับ แล้วก็เจาะน้ำบาดาลเพิ่มอีก 6 จุด และที่สำคัญคือเราเพิ่มไฟ เพราะปีที่แล้วที่มันไม่ทัน เพราะผมใช้ไฟเกษตร ทีนี้ก็ต้องแจ้งทางกรมไฟฟ้า คือเอาหม้อมาลง เพื่อให้จ่ายไฟได้อย่างเต็มที่ เพราะว่ามันดูดน้ำไม่ทัน ยังไงมันก็ไม่ทัน น้ำมันจะขึ้นไป แล้วก็หาถังกักเก็บน้ำครับ”

ดีเทลคอนเสิร์ตจัดเต็ม ใช้งบเยอะกว่าปีที่แล้วเท่าหนึ่ง
“ผมว่าอยากให้คนที่ไปเที่ยวได้เห็น เพราะว่าเคยได้ยินป๋าเต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม) แกพูดว่าการจัดงานคอนเสิร์ตครั้งหนึ่ง แค่ทำเรื่องประทับใจแค่ 3 ช็อต แค่นั้นก็ถือว่าสร้างความประทับใจในทั้งงาน แต่ว่าเราเตรียมไว้เยอะมาก ทั้งการต้อนรับ การดูแล การเอาใจใส่แฟนๆ ที่มา อยากให้ไปสัมผัส และงานศิลปะชิ้นนี้จัดเต็มมาก ใช้งบเยอะกว่าปีที่แล้วเท่าหนึ่งเลย

ต้องเต (ธิติ ศรีนวล) ดูแลเรื่องงานอาร์ตครับ ส่วนพี่ปาล์มมี่ (อีฟ ปานเจริญ) ตอนนี้ ด้วยสุขภาพของคนใกล้ชิด พี่มี่ก็เลยขอพักเบรกคอนเสิร์ตไว้ก่อน แต่ว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เราก็ไปกันครบแก๊ง ไม่ว่าจะเป็นพี่สิงโต นำโชค พี่โอม Cocktail ก็ไปให้กำลังใจ เพราะว่า Cocktail ปีนี้ไม่ได้มีคอนเสิร์ตจากงานจ้างแล้ว เป็นคอนเสิร์ตที่พี่ๆ เขาไปทัวร์กันเอง”

ฝากคนมาให้เตรียมใจ ความสนุกมีให้ ความสบายไม่มีเลย
“ตามสโลแกนตั้งแต่ครั้งแรกครับ ความสนุกเรามีให้ ความสบายไม่มีเลย ให้เตรียมใจไปตั้งแต่ออกจากบ้านเลยครับ คือมันกลางทุ่งนาจริงๆ การเดินทางก็คือต้องลงเครื่องจากสกลนคร เดินทางไปอีกชั่วโมงกว่าๆ 100 กว่ากิโลกว่าจะถึงงาน แต่พี่ๆ เขาก็ไป และส่วนมากคนที่ไปเที่ยวงานไม่ใช่คนในพื้นที่ อันดับ 1 ในการซื้อตั๋วคือคนในกรุงเทพฯ ที่ตั้งใจไป อันดับ 2 เชียงใหม่ อันดับ 3 ภูเก็ต อันดับ 4 โคราช อันดับ 5 เพชรบูรณ์ เพราะมันจะมีสถิติการซื้อตั๋วแต่ละสถานที่”

ทำการบ้านมาหมด เพราะต้องทำสถิติ
“ใช่ ต้องทำสถิติ เพราะว่าทุกวันนี้งานเฟสติวัล ปีที่แล้วมีอยู่ 408 งานทั่วประเทศ แล้วเราเป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องสู้ ว่าเราจะมีข้อดีข้อเสียอะไร ที่จะไปสู้กับพี่ๆ น้องๆ เพราะว่าเรามีข้อเสียเยอะมาก เพราะว่ามันอยู่ไกลมาก ห้องน้ำ ฝุ่น ขนาดเราชวนเพื่อนไปเรายังเขิน กลัวเพื่อนลำบาก”

แจงมีแต่ร้านคนกันเอง เพื่อความสบายใจ หลังปีที่แล้วแม่ค้ามาขายไม่ได้เลยโดนวีน
“(หัวเราะ) ปีที่แล้วเขาตั้งใจมาก เพราะคิดว่าคนเยอะ โอเคคนเยอะจริง แต่ร้านที่มาขาย คือบางทีเราก็ไม่ได้มีเงินเยอะไปซื้ออาหารราคาแพง ร้านที่เขามาขาย เขาก็ตั้งราคาแพงหน่อย ให้มันเหมาะกับงานที่เขาตั้งใจมา เขาขายไม่ได้ พอขายไม่ได้ เขาก็ใส่ผมยับเลย เหมือนผมไปทำร้ายอะไรเขา เหมือนหลอกเขามา ซึ่งเราก็รู้สึกว่าโอเค งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า เราขอจัดการเองดีกว่า เพื่อที่จะสบายใจเราด้วย เพราะว่าเราเครียดสุด ไม่ใช่การบริหารจัดการแฟนเพลง บริหารจัดการหลังเวที แต่เพื่อนร่วมอาชีพนี้แหละ (หัวเราะ) มันไปเมาอยู่หลังเวที มันก็เลยไม่มีเวลามาซัปพอร์ตพี่ๆ หน้าเวทีเท่าไหร่

ก็เลยตัดสินใจว่าถ้างั้นร้านค้า ให้พวกผมขายกันเองดีกว่า เจ๊งก็เจ๊งกันเอง ถ้าได้ตังค์ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก คนมาเที่ยวเขาคงไม่ได้กินอะไรขนาดนั้น คือสไตล์ของคนมาเที่ยวงานเฟสติวัล คือฉันกินแค่อิ่ม แต่ฉันยังต้องสวย ต้องหล่อ เพราะฉันมาขายของ จะมากินอาหารเลอะเทอะ หรือกับข้าวที่มันจริงๆ จังๆ มันไม่ได้ อย่างเช่นคนเข้าใจผิด ว่าไปเที่ยวอีสานทั้งที ต้องกินลาบก้อย จ้ำจุ๊ ไม่เลย ร้านลาบก้อย จ้ำจุ๊ เจ๊งบ๊งเลยครับ เนื้อที่ห้อยไว้ขายไม่ได้ คุณลองคิดว่าจะให้คนมาเที่ยวงานเฟสฯ กินเพี้ยเหม็นๆ แล้วไปหาเพื่อนใหม่เหรอ มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นว่าอาหารพวกนี้ขายไม่ได้ พอเขาเจ๊งปั๊บ เขาก็เลยมีฟีดแบ็กกับเราไม่ดี ว่าไหนว่าอีสานแท้ ทำไมอาหารอีสานขายไม่ออกเลย ขายออกกลับกลายว่าเป็นลูกชิ้นย่างกับย่างปลาหมึกแห้ง”

เลือกอาหารที่กินง่ายและราคาถูก
“เราเลือกมาก็เป็นอาหารที่กินง่ายครับ เราบอกเลยว่าส้มตำตัดออกไปเลย เพราะส้มตำเป็นบ่อเกิดที่ทำให้ห้องน้ำมันเต็ม คือใครอยากกินส้มตำไปกินงานอื่น งานก้องห้วยไร่ อย่าไปเลย เพราะส้มตำนี่แหละตัวทำให้ห้องน้ำผมไม่พอ ก็เลยตัดส้มตำออก อะไรที่กินยาก กลับกลายเป็นว่าขายพวกลูกชิ้น ไม่ต้องตัวเลือกเยอะ จิ้มแล้วก็กิน ไม่ต้องเสียเวลารออาหาร กว่าจะทำเสร็จ ลูกชิ้นย่างใส่น้ำจิ้มแล้วแยกย้าย เลือกอาหารที่กินง่ายราคาถูก”

ย้ำ พอต บุหรี่ กัญชา ห้ามมาสูบในพื้นที่ ฝากช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าเจอจะเชิญออกและดำเนินคดี
“ทุกอย่างห้ามเลยครับ ในพื้นที่คอนเสิร์ต แต่ต้องบอกแฟนๆ ทุกคนให้ช่วยเป็นหู เป็นตา เพราะว่า 25,000 คน มันอาจจะดูไม่ครบ แต่กติกาของเราคือเรามีการ์ด ที่ไม่ตักเตือนแล้วนะ ก่อนขายก็บอกแล้ว ขายก็บอกแล้ว ปีที่แล้วยังมีแบบว่ามาประกาศช้า หลังจากที่ขายเสร็จเราก็เลยคืนเงิน แต่ปีนี้คือถ้าเกิดไปแอบสูบ ไม่ว่าจะในห้องน้ำ หรือแอบเข้างาน ดูดบุหรี่ทุกอย่าง กันชงกัญชา อะไรที่มีควัน ที่รบกวนชาวบ้าน เราจะเชิญออก แล้วตัดสายข้อมือให้ไปพักผ่อน และดำเนินคดี

อยากปลูกฝังใหม่ ว่ามาคอนเสิร์ตไม่ควรสูบบุหรี่
มีดำเนินคดีครับ มีตำรวจมาตั้งเลย เรามาสร้างบรรยากาศใหม่กันเถอะครับ เมื่อก่อนเราถูกปลูกฝังว่า การไปเที่ยวคอนเสิร์ต การดูดบุหรี่ ผมนี้โดนฟีดแบ็กมาว่า มึงทำอาชีพนี้ รับบุหรี่ไม่ได้ก็นอนอยู่บ้าน อ้าว จำเป็นเหรอ คนที่มาทำร้ายคนอื่นนั่นแหละ นอนอยู่บ้าน แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจเขา เพราะว่าดูดบุหรี่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่คุณควรทำในพื้นที่ส่วนตัว อย่าทำในพื้นที่สาธารณะครับ”

มาสนุกกันได้ 11-12 มกราคมนี้
“11-12 มกราคมที่จะถึงนี้ ตอนนี้เราจัดเต็มมาก และก็ให้เตรียมเรื่องการแต่งตัว เพราะหนาวสุดขีดมาก เห็นว่าจะมีตัวเลขตัวเดียวเลยในช่วงหน้าหนาว ยังไงฝากด้วยนะครับ ขอบคุณที่ไปเที่ยวบ้านผม ทำให้เศรษฐกิจบ้านผม ทำให้ชาวบ้านบ้านผมเขาได้อยู่ ได้กิน มีเงินลงทำนา เงินทำปุ๋ย คือชาวบ้านธรรมดาให้คนไปนอนในบ้านโฮมสเตย์ ชาวบ้านไม่รู้ว่าโฮมสเตย์คืออะไร แต่เขาได้คืนละ 2,500 บาท 2 คืนได้เงิน 5,000 บาท ชาวบ้านเขาบอกว่าขายข้าวตั้งหลายกระสอบกว่าจะได้เงิน 5,000 บาท แต่จัดงานมันไม่ได้นอน 2 คืน ส่วนมากคนจะไปนอน 4-5 คืน ก่อนและหลัง 2 วันก่อนเดินทาง ก็ขอบคุณจริงๆ ที่ให้ความสนใจในงานของเรา”

เผยปีนี้ “แน็ก ชาลี” ไปแน่นอน
“แน็กไปครับ”

ให้กำลังใจแต่ไม่ยุ่งดรามา ให้ไปเคลียร์ตัวเองในเรื่องที่ทำ
“ผมบอกว่าความเป็นพี่เป็นน้อง เรารักกันนะ แต่อะไรที่น้องทำ ที่มันดี น้องก็ต้องสานต่อไป แต่อะไรที่มันไปขัดใจ หรือทำอะไรอื่นๆ เคลียร์ตัวเอง ทุกคนเกิดมาทุกคนมีเพื่อนมีฝูง แต่เพื่อนฝูงนั้นควรอยู่ในตำแหน่งที่มันพอดี ซึ่งก็ให้กำลังใจน้อง ให้น้องไปเคลียร์ตัวเองในเรื่องที่น้องทำ เราไม่ยุ่ง แต่จะให้เราเกลียด อย่ามากินข้าวบ้านกูนะ อย่าไปร้องเพลงบ้านกูนะ มันทำไม่ได้หรอกครับ เป็นเพื่อนกัน ถึงเพื่อนเราจะทำผิดมหันต์ เราก็ได้แค่มอง ให้กฎหมายทำกันไป ไม่ใช่แบบว่า เห็นไม่ดีแล้วเลิกคบกัน มันก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นครับ แต่อาจไม่แสดงออกชัดเจนเกินไป”

ที่ผ่านมาก็โดนทัวร์ลงไปด้วย
“ก็ดีครับ เพราะผมถึกทนคุ้มอยู่แล้ว จริงๆ เรื่องราวเหล่านี้ผมมองว่ามันร้อยเปอร์เซ็นต์แหละ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด มีคนไม่ชอบ อยู่กับมันให้ได้ อยู่กับมันให้เป็น แค่นั้นเองครับ”

ไม่มีเตือนหรือก้าวก่ายเรื่องลึกๆ เพราะโตแล้ว ให้คิดเอง
ผมว่าเขาโต แล้วให้เขาคิดเองเถอะ เต็มที่ก็แค่วันนี้กินข้าวหรือยัง หรือคำถามหลังไมค์ก็…เป็นไง ดีขึ้นยัง แล้วก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องลึกๆ เลย ปล่อยเขา เพราะไม่ใช่เรื่องเรา เราเอาไว้แค่เรื่องความเป็นเพื่อนพี่น้องกันครับ”

ยอมรับเป็นห่วง แต่กรรมใครกรรมมัน ใครผิดก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
“ผมว่าด้วยความเป็นผม เพื่อนคนไหนก็ตามเราเป็นห่วงเขาแหละ แต่ความเป็นห่วงของเรา มันไม่สามารถไปทำให้ใครดีขึ้นได้หรอก เพราะสุดท้ายแล้วกรรมใครกรรมมัน ใครก่อก็ต้องรับไว้เอง ผมก่อผมต้องรับเอง ใครทำผิดก็รับผิดชอบตัวเองไป แค่นั้นเองครับ (อย่างคนที่ไม่ชอบเขา ก็มีคำถามว่าทำไมเรายังคบกับคนนี้อยู่?) ผมว่าชอบใครชอบมัน งูไม่มีคนชอบทุกคน คนเกลียดก็มี แต่คนชอบก็มี เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ชอบงู ก็อย่าไปยุ่งกับงูเลย ปล่อยงูมันเลื้อยไปเถอะ ส่วนใครที่ชอบงูก็ให้อยู่ในที่ของงู อย่าไปบอกว่าทำไมงูมันไม่ดีมึงยังไปชอบวะ อย่าไปก้าวก่ายกันเท่านั้นเองครับ”

ต่างคนต่างรู้ว่าเป็นคนยังไง
“เรารู้ ตัวเขาก็รู้ว่าเราเป็นคนยังไง พี่ๆ ก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง พี่ๆ ก็รู้ว่าผมรู้ว่าผมเป็นคนยังไง หน้าสื่อเป็นยังไง หลังสื่อเป็นยังไง หรือใช้ชีวิตยังไง พี่ๆ รู้ มันโกหกกันไม่ได้หรอกครับ (แสดงว่าที่เขาจะมาคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็คือม่วนจอย?) ม่วนจอย คนละต่างกรรมต่างวาระ เรื่องของมึงก็เรื่องของมึงไป แต่บนเวทีมึงต้องสนุก เพราะเขามาเอาสนุก เขาไม่ได้มาสนใจดรามาหรอก เขามาเต้น เขามามีความสุข”

โอด “แน็ก” เหนือการควบคุมยิ่งกว่า “เบิ้ล ปทุมราช” อยากแต่งอะไรก็แต่ง แต่ปิดจู๋ขึ้นเวทีก็แล้วกัน
“เขาโทร.มาบอกผมว่าเขาอยากร้องเพลงอะไร แล้วดนตรีผมก็ซ้อมไว้ แต่ผมก็คาดหวังว่าเขาจะแต่งตัวดีๆ หน่อย เพราะปีที่แล้วเขาใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ แล้วก็เสื้อไม่รู้ว่าเก็บมาจากที่ไหน แล้วก็รองเท้าแตะ มันเหนือการควบคุมกว่า เบิ้ล ปทุมราช อีกครับไอ้นี่ ก็เลยปล่อยมันเถอะ แล้วแต่มันแล้วกัน แค่ว่าปิดจู๋ขึ้นเวทีก็แล้วกัน กลัวตำรวจจับ กลัวอนาจาร แต่ถ้าอยากจะทำก็แล้วแต่นะ โตๆ แล้ว อารมณ์นั้นครับ”









กำลังโหลดความคิดเห็น