ละครเพลงสุดเหนือจริง Emilia Perez และดราม่าผู้อพยพสุดยิ่งใหญ่ The Brutalist คว้ารางวัลใหญ่ในงานลูกโลกทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแบ่งปันรางวัลอย่างกว้างขวางในหมู่ภาพยนตร์นานาชาติ ณ งานประกาศรางวัลใหญ่ครั้งแรกของปี
Emilia Perez ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเม็กซิโกโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌาคส์ โอเดียร์ด กวาดไปถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง ส่วน The Brutalist ได้รับรางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของ เอเดรียน โบรดี ในบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฮังการี
Emilia Perez ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อค้ายาที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองมาเป็นผู้หญิง เข้าชิงรางวัลสูงสุดถึง 10 สาขา และคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย โซอี้ ซัลดานา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะ เซเลนา โกเมซ นักแสดงร่วมในเรื่องเดียวกัน
“คุณอาจขังพวกเรา อาจทำร้ายพวกเรา แต่คุณไม่มีวันพรากจิตวิญญาณ ความต้านทาน และตัวตนของพวกเราไปได้” คาร์ลา โซเฟีย กัสกอน นักแสดงนำของเรื่อง ซึ่งเป็นผู้หญิงข้ามเพศกล่าว
เธอยังเสริมว่า “จงเปล่งเสียงของคุณ... แล้วบอกว่า ‘ฉันชนะแล้ว ฉันคือตัวฉันเอง ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากให้ฉันเป็น’”
ชัยชนะครั้งใหญ่ในงานลูกโลกทองคำสามารถช่วยให้ภาพยนตร์ดึงดูดผู้ชมใหม่ ๆ และสร้างแรงผลักดันที่สำคัญสู่เวทีออสการ์ในช่วงต้นเดือนมีนาคม
ค่ำคืนวันอาทิตย์ยังเป็นค่ำคืนสำคัญของ The Brutalist ซึ่งเอาชนะข้อกังวลเกี่ยวกับความยาวเรื่องกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมให้กับ เบรดี คอร์เบต
“มีคนบอกผมว่า ไม่มีใครอยากดูมัน” คอร์เบตกล่าวถึงภาพยนตร์ดราม่าสุดอลังการเกี่ยวกับสถาปนิกชาวยิวที่รอดจากการกดขี่นาซีและอพยพสู่สหรัฐฯ
“ไม่มีใครเรียกร้องหาภาพยนตร์ความยาว 3 ชั่วโมงครึ่งเกี่ยวกับนักออกแบบยุคกลางศตวรรษ... แต่มันได้ผล” เขาเสริม
ในหนึ่งในความพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดของค่ำคืน เฟอร์นันดา ตอร์เรส จากบราซิล คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง I'm Still Here ซึ่งเล่าเรื่องครอบครัวที่ถูกฉีกขาดจากเผด็จการทหารในยุค 1970
ชัยชนะของ เอเดรียน โบรดี ถือเป็นการกลับมาอย่างน่าทึ่งในอาชีพนักแสดง หลังจากผ่านมากว่าสองทศวรรษที่เขาเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลออสการ์จาก The Pianist ซึ่งเขารับบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เช่นกัน
“มีช่วงเวลาหนึ่งไม่นานมานี้ที่ผมคิดว่าโอกาสนี้อาจไม่มีให้กับผมอีกแล้ว” เขากล่าว
“เรื่องราวนี้... ช่างคล้ายคลึงกับเรื่องราวของแม่ผม และการเดินทางของบรรพบุรุษที่หนีจากความโหดร้ายของสงครามและมาสู่ประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้”
อีกหนึ่งความสำเร็จในช่วงปลายอาชีพคือ เดมี มัวร์ ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ตลกจาก The Substance ภาพยนตร์แนวสยองขวัญร่างกายที่เสียดสีและสะท้อนแรงกดดันที่สังคมมีต่อผู้หญิงในวัยที่เพิ่มขึ้น
ระหว่างกล่าวรับรางวัล มัวร์เล่าว่าในอดีตเคยมีโปรดิวเซอร์ฮอลลีวูดบอกว่าเธอเป็นแค่ “นักแสดงภาพยนตร์ป๊อปคอร์น”
“ฉันเชื่อแบบนั้น และนั่นกัดกร่อนตัวตนของฉันตลอดมา” นักแสดงวัย 62 ปีจาก Ghost กล่าว
“แต่แล้วก็มีบทที่มหัศจรรย์ กล้าหาญ และบ้าบิ่นมาอยู่บนโต๊ะทำงานของฉัน ชื่อว่า The Substance และจักรวาลก็บอกฉันว่า ‘คุณยังไม่จบ’”
ในส่วนของรางวัลโทรทัศน์ปีนี้ Shōgun จาก FX และ Hulu คว้ารางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม ด้วยเรื่องราวมหากาพย์ในยุคศักดินาญี่ปุ่น ขณะที่ Hacks ซีรีส์คอมเมดี้ที่เล่าเรื่องนักแสดงตลกรุ่นใหญ่กับผู้ช่วยสาว คว้ารางวัลซีรีส์มิวสิคัลหรือคอมเมดี้ยอดเยี่ยม ด้านซีรีส์จำกัดตอนหรือภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ Baby Reindeer จาก Netflix ที่ถ่ายทอดเรื่องราวกึ่งอัตชีวประวัติของริชาร์ด แกด กับประสบการณ์การเผชิญหน้าผู้สะกดรอยตาม
โดย ฮิโรยูกิ ซานาดะ และ แอนนา ซาวาอิ นักแสดงนำจาก “Shōgun” ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายและหญิงยอดเยี่ยมในหมวดซีรีส์ดราม่า ตามลำดับ ส่วน ทาดาโนบุ อาซาโนะ ก็ได้รับรางวัลสาขาสมทบชายจากซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
ฌอง สมาร์ท ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในหมวดซีรีส์คอมเมดี้จาก “Hacks” และเจเรมี อัลเลน ไวต์ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายในซีรีส์คอมเมดี้จากบทเชฟอัจฉริยะใน “The Bear”
โคลิน ฟาเรลล์ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายในซีรีส์จำกัดตอนจากบทบาทเจ้าพ่อแก๊งอาชญากรรมใน “The Penguin” และโจดี้ ฟอสเตอร์ ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากบทตำรวจใน “True Detective: North Country”
งานปีนี้ยังมีการเพิ่มรางวัลใหม่ เช่น รางวัลการแสดงเดี่ยวตลกยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ อาลี หว่อง จาก “Single Lady” และรางวัลภาพยนตร์ทำรายได้ยอดเยี่ยม ซึ่งได้แก่ “Wicked” โดยผู้กำกับ จอน เอ็ม ชู กล่าวว่า “ศิลปะยังคงเป็นการกระทำที่มองโลกในแง่ดีอย่างกล้าหาญ”
งานลูกโลกทองคำกลับมาจัดอีกครั้งเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่มีการปรับปรุงใหม่ หลังจากมีการเปิดโปงของ Los Angeles Times ในปี 2021 ว่าคณะกรรมการโหวตของรางวัลนี้ไม่มีสมาชิกที่เป็นคนผิวดำเลย
ภายใต้การบริหารใหม่และการยุบองค์กร HFPA ผู้จัดหวังจะต่อยอดจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ปัจจุบันองค์กรได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ และเพิ่มสมาชิกให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผู้ลงคะแนน 300 คนจาก 85 ประเทศ
พิธีครั้งนี้จัดโดย นิกกี้ เกลเซอร์ ดาวตลกสุดฮ็อตที่เปิดงานด้วยมุกตลกที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี
“ขอต้อนรับสู่ลูกโลกทองคำครั้งที่ 82 คืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Ozempic” เธอพูดติดตลกถึงยาลดน้ำหนักที่เป็นที่นิยมในฮอลลีวูด
ทั้งนี้ ลูกโลกทองคำยังคงบรรยากาศสนุกสนาน แบบไม่เป็นทางการนัก ด้วยการเสิร์ฟแชมเปญในงาน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและโมเมนต์ที่ไม่คาดคิด เช่น นักแสดงบางคนลืมขึ้นรับรางวัลเพราะติดเข้าห้องน้ำ เป็นต้น