“ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์” ลั่นถ้าปิดโรงงานน้ำพริก เหมือนเอามีดมากรีดหัวใจ โต้ข่าวลือปิดโรงงาน เพราะเลิกสามี รับแอบงงมันไปทางนั้นได้ยังไง
หลังสาว “ปุ้ยฝ้าย AF” หรือ “ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ วิภัทรเดชตระกูล” ทำคลิปบอกลาน้ำพริกปุยแสบปาก เนื่องจากอยากหยุดพัฒนาสูตร ก็มีข่าวลือออกมา ว่าเจ้าตัวตัดสินใจปิดโรงงาน เพราะได้เลิกรากับสามีแล้ว ซึ่งล่าสุดงานนี้ สาวปุยฝ้ายก็ได้ออกมาเปิดใจกับทางอมรินทร์ทีวี เผยว่าไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด และโรงงานน้ำพริกก็ยังไม่ได้ปิดตัวด้วย
“คือถ้าปิดโรงงานน้ำพริก นี่เหมือนเอามีดมากรีดหัวใจนะ เพราะจริงๆ แล้วเรารักเขามากนะคะ ขอเคลียร์ตรงนี้ก่อน จริงๆ แล้วเราไม่ได้ปิดโรงงานน้ำพริก เราแค่หยุดผลิตบางตัว ซึ่งเป็นตัวเดิมที่หลายท่านเคยทานแล้ว เราหยุดเพื่อพัฒนาต่อนะคะ โรงงานน้ำพริกไม่ได้ปิด ยังเปิดอยู่ แล้วก็ยังมีไฟในการคิดสูตรน้ำพริกใหม่ๆ อยู่เลย ยังสนุกกับเขาอยู่ ทำมาขนาดนี้แล้วค่ะ ถ้าปิดไม่ใช่แค่เรานะ พนักงานอีก คิดว่าไม่ปิดง่ายๆ”
โต้ปิดโรงงานน้ำพริกเพราะเลิกสามี
“มีคนโทร.มาเหมือนกันว่า ได้ข่าวว่าปุยฝ้ายจะปิดโรงงานน้ำพริก เพราะว่าเลิกกับสามี เราก็เฮ้ยมันไปทางนั้นได้ยังไงวะ (หัวเราะ) ยังนอนอ้วนอยู่เนี่ยเลย ไม่ได้เลิกค่ะ ข้อหนึ่งไม่ได้เลิกกับสามี ข้อสองไม่ได้ปิด ไม่ได้หยุดกิจการ ไม่ได้เลิกทำน้ำพริกนะคะ เราแค่หยุดตัวเดิมที่เราทำแล้ว เพื่อพัฒนาต่อ คือเราก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เวลาที่เราทำงานหรือทำธุรกิจ เราเป็นคนดีฟมาก ถ้าไม่ชอบไม่รักก็จะไม่ทำ
เวลาทำเราก็เอาให้สุดทาง ศึกษาให้สุดทาง ว่าจริงๆ องค์ประกอบมันมีอะไรบ้าง มันไม่ใช่ว่าเราทำน้ำพริกได้อร่อย แล้วเราจะสามารถทำให้มันเติบโตได้ มันมีหลายปัจจัยเข้ามา มันเยอะมากๆ มันมาทีละสเต็ปๆ เราก็เดินทางมาเรื่อยๆ จากการเรียนรู้จากน้ำพริกตัวเดิม 5 ปีเต็มกับการทำ 5 ตัวนี้ ก็ได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ และเราก็จะเจอจุดที่ว่า อ๋อ อันนี้เรายังไม่รู้ เรายังพัฒนาต่อได้ เรารู้สึกว่าในขณะที่เราเรียนรู้และพัฒนา และเราก็ยังทำน้ำพริกขายไปด้วย มันมีความเก้ๆ กังๆ เรารู้สึกว่าจุดที่ต้องพัฒนามันก็ควรที่จะโฟกัสและเข้าใจ แล้วก็เอามาทำให้ดีขึ้น แบบนี้น่าจะดีกว่า
มันมีการซ้อมมาก่อน จริงๆ การซ้อมหยุดเนี่ย ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจนะ คืออย่างเราทำน้ำพริก 5 ตัว วัตถุหลัก 5 ตัวที่เราใช้ ต้องใช้คำว่ามันเฉพาะเจาะจง อย่างลูกค้าประจำเขาจะรู้ว่าเราเคยเบรกน้ำพริกปลาย่างไป 2 เดือน เหตุผลเพราะว่าปลาที่เราใช้ เป็นปลาชนิดเดียวเท่านั้น เจ้าที่เราซื้อที่เป็นเจ้าเดียวเท่านั้น ส่วนใหญ่เจ้าอื่นจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราไม่อยากลดคุณภาพตรงนี้ ถ้าเจ้าที่เราใช้ประจำเขาเบรก เราก็รอ ดีกว่าไปซื้อเจ้าอื่นมาแล้วมันไม่เหมือนเดิม ลูกค้าเขาติดไปแล้วเขาจะรู้
คือถ้าวัตถุดิบขาดตลาดจริงๆ มันไม่ได้ เราก็เบรก เราไม่ใช่อุตสาหกรรมจ๋า เราไม่ใช่นักธุรกิจที่มีโรงงานใหญ่โต เรายังเป็นน้ำพริกทำมือเหมือนเดิม อาจจะมีอุปกรณ์เข้ามาช่วยบ้าง แต่เราซีเรียสเรื่องวัตถุดิบ เราไม่ใช่นักธุรกิจ ถ้าจะคุยเรื่องตัวเลขจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าบอกว่าคิดน้ำพริกตัวใหม่ให้หน่อย ขอสัก 3 ตัว เราก็จะปล่อยให้จินตนาการมันเกิดแล้ว จะเริ่มหาวัตถุดิบ ว่าอยากให้มันออกมาเปิดใจแบบไหน รสชาติประมาณไหน”