“หมอบี” เผยที่แม่น เพราะศึกษาข้อมูล ไม่ใช่ทำนาย ถ้าไม่โง่จนเกินไปทุกคนก็ศึกษากันได้ ไม่ใช่ไปดูดวงอย่างเดียว ท้าหมอดูคนไหนแน่จริง ก็บอกด้วยว่า ปีหน้าไวรัสอะไรจะระบาด แมลงอะไร มันมีข้อมูลอยู่ในอินเตอร์เน็ต ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ น้ำท่วม แค่ศึกษาข้อมูลก็ทายแม่นได้
บอกการบูชาสิ่งใดก็ตามไม่ใช่เรื่องผิด ถ้านำมาติดตัวและทำให้ระลึกและทำในสิ่งที่ดี แต่ถ้ายึดมั่นว่าสิ่งนั้นจะต้องช่วยให้ชีวิตดีขึ้น นั้นคิดผิด เพราะจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเราทำเอง ยืนยันปีหน้าโรคระบาด น้ำท่วม เศรษฐกิจยังพังเหมือนเดิม เพราะถ้ายังไม่มีใครขึ้นมาแก้ไข และทุกคนไม่ช่วยกันเอง ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนเดิมและยิ่งกว่าเดิม บอกที่ตนพูดนั้นไม่เคยผิดพลาด เพราะตนเป็นคนศึกษาหาข้อมูล ไม่ต้องใช้คำทำนายที่ไหนก็บอกได้ถ้าศึกษาจริงจัง
ไม่ว่าจะออกมาพูดอะไรก็เป็นกระแสให้สังคมสนใจได้ทุกครั้ง สำหรับ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ที่ล่าสุดไม่ว่าจะพูดเรื่องน้ำท่วม เรื่องโรคระบาด เรื่องเศรษฐกิจในปีหน้า หรือแม้แต่การเล่านิทานภาค 2 ของนางเอกผู้ล่วงลับ ”แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์“ ก็เช่นกัน ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจกับเรื่องราวเหล่านี้ต่อสื่ออีกครั้ง พร้อมกับไขข้อสงสัยของหลายๆ คนเกี่ยวกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ถูกต้องที่สุด
บอกพูดอะไรไม่เคยผิด ไม่ได้ทำนาย แต่ดูและศึกษาจากข้อมุลเอง
“ที่บอกว่าปีหน้าเป็นการเผาจริง ก็มันเรื่องจริง ผมไม่ได้ทำนายอะไรนะ แต่เอาเรื่องจริง ที่ผมออกมาพูดมันก็เป็นจริงอย่างนั้นทุกครั้ง เนื่องจากว่าเราไม่เคยทำนายอะไรเลย เราเอาเรื่องจริงมาพูด มันก็เลยจริงตลอด ไม่เคยผิดพลาดเลย เพราะมันเรื่องจริงไง จะเอาเรื่องอะไรผมมีข้อมูลหมดแหละ และมันจะเกิดขึ้นแน่นอน โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นแน่นอน ใครอยากทำนายก็ทำนายไป แต่เรามีข้อมูลความเป็นจริง รู้ด้วยว่าไวรัสที่จะเกิดขึ้นเป็นไวรัสอะไร ถ้าทำนายถูกก็พูดมาสิ แมลงที่ว่านั่นคืออะไรก็พูดมาสิ มันเป็นข้อมูลความเป็นจริง"
"ซึ่งถ้าเราไม่โง่จนเกินไป เราก็ศึกษาสิครับ คุณศึกษาได้ว่าตอนนี้โลกเขาไปยังไงแล้ว มันระบาดไปถึงไหนแล้วเราจะได้รู้ แต่เรามึนๆ อยู่แต่กับคำทำนาย ดูดวงอย่างเดียว ปีหน้าอยากให้ชีวิตดีก็ดูดวง ไม่ได้บอกว่าการดูดวงไม่ดีนะ การดูดวงแล้วรู้สึกว่าเป็นการผ่อนคลาย ฝากใจไว้กับอะไรสักอย่าง พักผ่อนหย่อนใจสักพักนึงก็โอเค แต่อย่าลืมดูดวงแล้วย้อนกลับมาดูตัวเองด้วย ว่าเราวันนี้เป็นยังไง พรุ่งนี้เราจะเป็นยังไง จะพัฒนาเป็นยังไง ไม่ต้องรอให้ถึงปีหน้าหรอก ทำตั้งแต่วันนี้ตอนนี้เลยดีกว่า”
“คือที่ผมพูดไปยังไงก็แม่น เพราะเรามีข้อมูลจริง ต้องบอกว่ามันเป็นเทรนด์ขาขึ้นของโรคภัยไข้เจ็บอยู่แล้ว มันจะมาเรื่อยๆ และทุกปีจะมากขึ้นๆ มีโรคประหลาดมากขึ้นๆ สังเกตว่าเดี๋ยวนี้เราเป็นอะไรแล้วมันไม่ค่อยหายใช่มั้ย เพราะเราเองยังพัฒนาความโง่ของเรา แต่โรคมันพัฒนาความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่เรากลับไม่ค่อยแข็งแกร่งขึ้น มันก็เจอแบบนี้ และวิธีการแก้ปัญหาของเราคืออะไรล่ะ แต่เรามีประสบการณ์แล้ว เราก็ควรจะมาใส่ใจ ศึกษา เรียนรู้ชีวิตของมนุษย์เราว่าจริงๆ แล้วมนุษย์ต้องการปัจจัยอะไรบ้างมาทำให้ชีวิตมันดีขึ้น เราต้องการอาหารดีๆ เราต้องการอากาศดีๆ เราต้องการอะไรดีๆ หมดเลย แต่เราไม่ทำอะไร เราหวังว่าจะมีคนป้อนสิ่งดีๆ มาให้เรา มันไม่มีทางดีขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว"
"อย่างน้ำท่วมไม่เข็ดกันเหรอ ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร ครั้งที่แล้วก็สนุกลัลล้าแบบนี้ พอท่วมอีกก็งอแงกันอีก ก็ไม่เห็นใครช่วยอะไรเลย พอน้ำลดก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม แล้วมันก็ท่วมใหม่ จะเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ แล้วบอกว่าในเมื่อมันเป็นอยู่แล้วก็ช่างมัน สร้างความเคยชินก็เป็นแบบนี้แหละ พูดไปมันก็ไม่เปลี่ยนหรอก (หัวเราะ) วิธีแก้ปัญหาคือใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำให้เต็มที่แล้วกัน ใครที่พอช่วยกันได้ก็ช่วย เราไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดสินพิพากษาใครอยู่แล้วว่าไอ้นี่ถูก ไอ้นี่ผิด มันไม่ใช่หน้าที่เราอยู่แล้ว แต่อะไรดีๆ และร่วมกันได้ ช่วยกันได้ อย่างน้อยเป็นการสละตัวตน เป็นการสละอะไรสักอย่างมันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว"
"ปีหน้าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงผมก็พูดไปหมดแล้ว อย่างเรื่องไวรัส เรื่องแมลงก็มี ถ้าหมอดูคนไหนแน่จริงก็บอกด้วยว่าไวรัสอะไร แมลงอะไร มันมีข้อมูลอยู่ในอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณอ่านออกก็หาเจออยู่แล้ว น้ำท่วมมีอยู่แล้วเป็นปกติ เศรษฐกิจความฉิบหายวายวอดมันมีอยู่แล้ว มันชัดเจนมากๆ จะเอาตัวเลขอะไรมาคุยกันล่ะ รู้จักตัวเลข GNP GDP มั้ยล่ะ อัตราต่อหัวเป็นยังไง เดี๋ยวนี้กู้เงินผ่านหรือเปล่าล่ะ ก็กู้ไม่ผ่าน”
ยอมรับมีคนมาบอกห้ามพูดถึงเรื่องนิทานจริง
“นิทานภาค 2 เหรอ ผมก็พูดในสิ่งที่ผมรู้นะ แต่เรื่องข้อมูลมันเป็นเรื่องของทางคดีอะไรก็ว่าไป ผมก็พูดแล้วก็เล่าเป็นนิทานให้ฟังเฉยๆ อย่างที่ผมบอกว่าผมไม่ได้พูดอะไรขึ้นมามั่วๆ ผมพูดทุกเรื่องทำไมมันไม่เคยพลาดล่ะ เพราะเอาเรื่องจริงมาพูด ก็แค่นั้นแหละ (หัวเราะ) ที่บอกเรื่องคนใหญ่คนโตน่ะเหรอ ไม่รู้ ใครก็ใหญ่ทั้งนั้นแหละ แต่ถามว่ามีใครเข้ามาห้ามมาเตือนมั้ย มีอยู่แล้วครับ พูดแล้วก็หนีดีกว่า (หัวเราะ)”
