“อุ้ม ลักขณา” ได้แฟนเพราะขอเทพ บอกเลยไม่เล็กนะ

“อุ้ม ลักขณา” เดินสายมูเต็มตัว ได้แฟนใหม่เพราะขอเทพ ตรงตามที่ขอทุกข้อ คนนี้รุ่นใหญ่ 50 กว่า ไม่เปิดหน้าแต่บอกเลยไม่เล็กนะ 

เข้าสู่สายมูอย่างเต็มตัวอีกคนแล้ว สำหรับสาว “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ“ ที่ล่าสุดเปิดตัวแบรนด์ Lukkana ในงาน THE MALL LIFESTORE มูเตมอลล์ ณ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ซี่งเจ้าตัวเผยว่าเริ่มจากความศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ รวมถึงได้ไปไหว้ขอพรเรื่องความรักจากพระแม่ลักษมี จนทำให้ได้รักครั้งใหม่ที่แฮปปี้สดใสครั้งนี้มา

“อุ้มก็เดินสายมูเต็มตัวแล้วค่ะ ตอนนี้อุ้มทำธุรกิจเกี่ยวกับสายมูเต็มที่ค่ะ เริ่มต้นเกิดจากอุ้มนับถือองค์พ่อพระพิฆเนศอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนในวงการบันเทิง เราก็ต้องนับถือองค์พ่อพระพิฆเนศ ที่บ้านก็จะรูปปั้นองค์พระพิฆเนศ เราก็จะบูชาท่านอยู่แล้ว แต่ตอนหลังได้เข้ามารู้จักกับองค์พระแม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระแม่ลักษมี พระแม่อุมาเทวา พระแม่กาลีจากเรื่องความรัก ก็มาจากตอนที่มีปัญหาความรักในครั้งก่อนกับคุณพ่อของน้อง"

"เราก็หาที่พึ่งทางใจ เราทุกข์ ก็ได้ไปวัดแขก ไปกราบไหว้องค์พระแม่อุมา ไปบอกท่านถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นว่าเรามีปัญหาอะไรในใจอยู่ ก็เล่าให้ท่านฟัง และขอให้ท่านช่วยชี้ทางให้เราหน่อยว่าเราควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หรือจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัดสินใจได้ พอตั้งจิตอธิษฐานก็ได้จริงๆ ตามที่เราเข้าถึงองค์พระแม่ จากนั้นก็อินกับพระแม่มาก ก็เลยเริ่มที่จะบูชา ตอนนี้ถ้าใครดูไอจีก็จะเห็นที่บ้านอุ้มเหมือนเทวาลัยย่อมๆ เลย อุ้มก็สวดมนต์ไหว้ท่านทุกวัน”

บอกอยากเผยแพร่องค์เทพ เลยทำเป็นเครื่องประดับที่สามารถพกติดตัวได้ทุกที่
“ส่วนที่เริ่มมาทำธุรกิจก็มาจากที่พออุ้มเริ่มนับถือพระแม่ ก็อยากจะทำอะไรสักอย่างที่เป็นการเผยแพร่พระบารมีขององค์แม่และองค์พ่อ โดยที่เราสามารถทำแล้วทันสมัยได้ด้วย เหมือนมีท่านติดตัวอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะไม่สะดวกในการพกเป็นองค์จริงๆ จังๆ เราก็ลองทำเป็นเครื่องประดับ ก็เลยเริ่มมาศึกษาว่าสัญลักษณ์ของพระแม่ลักษมีคือดอกบัว เวอร์ชั่นแรกเราก็ทำเป็นกำไลดอกบัว ส่วนสัญลักษณ์ของพระแม่อุทาเทวีเป็นตรีศูล เราก็มาทำเป็นต่างหู ก็มาจากความเชื่อความศรัทธาของเรา ตอนที่ทำก็นำทุกชิ้นไปผ่านการทำพิธีจากทางวัดแขกบ้าง จากทางอาจารย์หลายๆ ท่านที่มาช่วยเรา ก็เลยหันมาตั้งใจทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ จนตอนนี้ก็มีน้ำหอมในแบรนด์ของลักขณา ก็จะทำไว้ฉีดถวายองค์พ่อองค์แม่ หรือเราไปฉีดถวายท่านแล้วก็เอามาฉีดตัวเองก็ได้ เพื่อเป็นการเสริมเสน่ห์ เป็นการเรียกทรัพย์ เรียกความปัง”

เชื่อความรักครั้งใหม่ก็ได้มาจากการขอพระแม่ลักษมี
“ความรักครั้งใหม่ก็ขอเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) คือพอเราได้เข้าถึงองค์แม่แล้วอุ้มก็บอกท่านเลยว่า ถ้าเกิดเราจะมีความรักครั้งใหม่ ขอให้เป็นความรักที่ดีต่อกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ให้เราเป็นคู่บุญบารมีที่จะได้เผยแพร่บารมีขององค์พ่อองค์แม่ต่อไป และขอให้เขาเป็นรักที่ดี รักที่จริงใจ ก็ตั้งจิตอธิษฐานแบบนั้นซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีใคร จนกระทั่งมาได้เจอกับคนที่คบปัจจุบัน เขาก็ไม่ได้รู้จักเรื่องราวของพระแม่เท่าไหร่ แล้ววันนั้นพอดีเดทแรกไปทานข้าวกัน อุ้มก็จะไปไหว้พระแม่ลักษมีพอดี เพราะเป็นวันเกิดพระแม่ด้วย ก็เลยพาเขาขึ้นไปไหว้ด้วย แล้วก็บอกว่าแม่คะ คนนี้มาที่ไหว้ด้วยเขาจีบหนูอยู่ (หัวเราะ) ตอนนั้นยังไม่ได้คบกันนะคะ ถ้าแม่คิดว่าคนนี้โอเค คนนี้ดีสามารถที่จะคบกันได้ ก็ให้เราเรียนรู้กันต่อไปได้ แต่ถ้าเกิดพระแม่เห็นว่าไม่ดี พระแม่ตัดทันทีนะคะ อย่าให้หนูได้มีโอกาสต้องพูดคุยหรือเรียนรู้ทำความรู้จักกัน หลังจากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ปีกว่าแล้ว"

"ก็เป็นไปตามที่ขอนะ (หัวเราะ) คือทุกครั้งที่เรามีปัญหาเรื่องความรักเราจะเขียนลิสต์ไว้เลยว่ามีอะไรบ้าง คือนิวเคลียร์บอกมาว่า ถ้าเธอมีแฟนใหม่ เธอต้องลิสต์เลยนะว่า เธออยากได้อะไร เธอเขียนไว้ แล้วก็ต้องให้ได้ตามที่ลิสต์มา ถ้าอันไหนไม่ได้ก็กากบาทและต้องไม่เอานะ น้องสอนไว้ นี่ก็จดลิสต์ไว้ จนกระทั่งเรามาเจอคนนี้ มันถูกทุกข้อเลย (หัวเราะ) ที่เขียนไว้ประมาณ 20 ข้อ ถูกหมดทุกข้อเลยค่ะได้เอาให้เขาดูด้วยนะ ตอนแรกลืมไปแล้วว่าเคยจดไว้ พอเปลี่ยนโทรศัพท์ก็มานั่งดู เฮ้ย ลิสต์เอาไว้จริงๆ นี่หว่า ก็มานั่งคุยกับเขาว่าพี่มีทุกข้อเลย ก็มีเขียนเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ นะคะ (หัวเราะ)”

"ถามว่ามั่นใจ 100% มั้ยว่าคนนี้ได้มาจากพระแม่ ก็เป็นความเชื่อของอุ้มนะคะ อุ้มรู้สึกว่าทุกครั้งที่มีปัญหาอะไร หรือทุกครั้งที่เราขอพรอะไรไปกับองค์ท่าน เหมือนองค์ท่านฟังและเราก็ได้อย่างนั้นจริงๆ แต่ความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคลถูกมั้ยคะ และเราต้องปฎิบัติถึงด้วย ตัวอุ้มเองก็ถวายของท่านเต็มที่ ขนม ผลไม้ ดอกไม้ให้ท่านชุดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน เพราะว่าเราเองก็ต้องดูเรื่องของงบประมาณด้วย อาทิตย์ละ 1 ครั้งที่เราจะต้องเปลี่ยนดอกไม้ ถวายอะไรให้ท่าน ที่สำคัญคือเราต้องสวดมนต์ให้ท่านด้วย เหมือนเราส่งบุญให้กับท่านก่อน ท่านถึงจะได้ยินและส่งบุญกลับมาให้เรา อุ้มเชื่อแบบนั้นนะคะ และอุ้มก็ได้ดีจากตรงนี้จริงๆ”

บอกเบื่อกับการต้องเปิดเผยความรัก เพราะพังทุกครั้ง
“ขอพระแม่แบบไม่เปิดหน้าด้วยไหมเหรอ (หัวเราะ) เอาจริงๆ อุ้มก็คิดอยู่เหมือนกันว่าอุ้มเหนื่อยกับการเปิดเผยเรื่องของความรัก และ 40 ปีแล้ว เราอยู่วงการมานาน ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ผ่านการแต่งงานมาแล้ว มีลูกแล้ว 1 คน อุ้มก็เลยรู้สึกว่า บางครั้งบางเรื่องถ้าเรามีความเป็นส่วนตัวบ้างก็น่าจะดี โดยที่เราเคยเปิดมาตลอดและไม่รอดสักคน ก็เสียใจทุกครั้ง ถ้าครั้งนี้เรารู้จักกันในครอบครัวเรา สังคมเขา สังคมเรา เวลาไปเดินที่ไหนกันอุ้มก็ไม่เคยปิดบังนะคะ ก็เดินจูงมือกันไปจตุจักร ไปทุกที่ที่คนปกติทั่วไปทำแบบคนเป็นแฟนกัน เพียงแต่อุ้มไม่ได้เอามาลงโซเชียลเยอะแยะมากมาย เพราะพี่เขาเองก็อายุห่างกว่าเรายอะ 10 กว่าปี คนละสายงานกันเลย และเขาก็ไม่ได้รู้จักวงการบันเทิง เราก็รู้สึกว่าให้ความเป็นส่วนตัวกับเขา เขาให้ความเป็นส่วนตัวเรา และเราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน"

"ไม่ได้มองว่าเป็นการปิดบัง แค่รู้สึกว่า ณ ตอนนี้อุ้มไม่ได้คิดจะแต่งงานใหม่ เรามีลูกคนเดียวพอแล้วก็คือน้องดิสนีย์ อุ้มไม่ได้อยากมีลูกใหม่ แต่ว่าถ้าวันนึงจะมีครอบครัวใหม่ ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ ตอนนี้อุ้มรู้สึกสบายใจที่เราอยู่ในจุดๆ นี้ เขาเองก็มีความคิดเหมือนกันในจุดนี้ ครอบครัวเรา ครอบครัวเขารู้จักกัน อุ้มก็ได้ไปเจอพ่อแม่ญาติพี่น้องเขา เขาก็ได้เจอฝั่งของอุ้ม ก็เป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ และเราก็ไม่ต้องแคร์โซเชียลมากนัก เพราะทุกอย่างมันมีสองแง่ พูดมากไปคนก็หมั่นไส้ ไม่พูดก็หาว่าเป็นเมียน้อยหรือเปล่า ปิดบังหรือเปล่า สุดท้ายแล้วความเป็นจริงก็คือความเป็นจริงค่ะ ทุกวันนี้เราก็คบกันมาปีกว่าแล้ว ก็พิสูจน์อะไรได้หลายๆ อย่างแล้ว”

บอก ”น้องดิสนีย์“ เข้าใจดี และเข้ากับแฟนใหม่ของพ่อและแม่ได้ไม่มีปัญหา
“คนที่หาว่าเป็นเมียน้อยเหรอ จริงๆ แล้วอุ้มว่าเราห้ามความคิดคนไม่ได้ค่ะ คนจะคิดจะพูดยังไงเราห้ามเขาไม่ได้หรอก แต่แค่อุ้มว่าถ้าเราคบกันมาแล้วต้องปิดบังสถานะ และครอบครัวเราไม่รู้เรื่อง หรือเขาจะต้องมาหลอกครอบครัวอุ้ม อุ้มต้องไปหลอกครอบครัวเขา เราเคยผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาแล้ว ฉะนั้นเราไม่ทำอยู่แล้วค่ะ คนนี้ก็ต้องเช็คแล้วค่ะ (หัวเราะ) พี่เขาก็ 50 กว่าแล้วค่ะ ก็ไม่ได้มาคิดถึงเรื่องต้องเปิดเผยหรือเรื่องมีลูก เราคบกันด้วยความจริงใจ ถามว่ามีพูดคุยเรื่องอนาคตร่วมกันมั้ย ก็มีนะคะ เพียงแต่ในเรื่องของครอบครัวมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ อุ้มเลยรู้สึกว่าให้มันเป็นไปดีกว่า"

"ก็ไม่ได้มีแพลนว่าจะเปิดค่ะ เพราะทุกวันนี้ก็ไม่ได้ปิด เพียงแต่อุ้มไม่ได้ลงในโซเชียลของเรา ถ้าใครจะเห็นหรือเจอก็คนนี้แหละค่ะ  ส่วนน้องดิสนีย์เข้าใจมากๆ ค่ะ และเป็นเด็กที่ซัพพอร์ตแม่สุดๆ เขารู้ว่าคนนี้คือแฟน เขาพูดเลยว่าคนนี้คือแฟนม่ามี๊ ป่ะป๊ากับม่ามี๊เป็นแค่เพื่อนกัน ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่าง และเขารู้ว่าป่ะป๊ามีแฟนคนใหม่เป็นคนนี้ ม่ามี๊มีแฟนคนใหม่เป็นคนนี้ เขาก็ไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าเขามีปัญหาหรือเขาเครียด เขาเป็นเด็กที่ปรับตัวเข้าได้กับทุกๆ คน เขาเข้าใจโลกมากๆ เขาพูดว่าม่ามี๊กับป่ะป๊าเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ยังเป็นพ่อแม่ของดิสเนอะ ยังรักกันดูแลดิสนะ ซึ่งพี่บอลในเรื่องของลูกเขาก็ไม่ขาดตกบกพร่อง เขาดูแลลูกดี ตอนปิดเทอมเราก็ให้โอกาสเขาได้อยู่กับลูก ตอนนี้ดิสนีย์ก็ไปอยู่เชียงใหม่กับพ่อเขา”

เผยที่แฮปปี้อิ่มเอิบแบบนี้ เพราะมีแฟนรุ่นใหญ่ แต่ไม่เล็ก!
“พี่กับน้องแข่งกันหวานเหรอ เราก็แซวเขา แต่เราก็เห็นกันตลอด เห็นกันจนชินแล้ว เราสองคนจะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่น้องจะชอบแซวอุ้ม คู่รักแม็กเน็ต เพราะตัวติดกันตลอดเวลา ที่อุ้มแซวแฟนว่าไม่เล็กน่ะเหรอ ก็ไม่เล็กค่ะ (หัวเราะ) หมายถึงแขน กลายเป็นว่าทุกวันนี้เขาก็ต้องปั้มกล้าม (หัวเราะ) ที่มีความสุขอิ่มเอิบขนาดนี้ก็ไม่เล็กนะคะ" (หัวเราะ)

"ปีใหม่นี้อยู่เคาท์ดาวน์ที่กรุงเทพฯ ค่ะ ช่วงหลังปีใหม่ถึงจะไปอังกฤษกัน ไปกันสองคนค่ะ ไม่ใช่ฮันนีมูน แต่อุ้มเพิ่งจะได้มาใช้ชีวิตจริงๆ ก็คือตอนที่เราได้คบกับพี่เขา เพราะก่อนหน้านั้น 7 ปี อุ้มทิ้งทุกอย่างไปอยู่ที่เชียงใหม่ อยู่กับลูก ไม่ได้ไปเที่ยว ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่พอตอนนี้เรากลับมาอยู่ในจุดที่เรากลับมาทำงาน กลับมาเดินสายธุรกิจ อย่างล่าสุดจัดงานอีคอมเมิร์ซ อุ้มก็ได้อยู่ในฐานะผู้จัด เราก็ชอบที่เรามีอีกบทบาทนึงที่ได้เป็น CEO ได้เป็นผู้บริหาร ได้มาทำธุรกิจที่เราชอบในเรื่องของสายมู ได้เดินทางท่องเที่ยว ก็เพราะพี่เขาคอยให้คำปรึกษาและซัพพอร์ตด้วยค่ะ“