ปีมังกรกำลังจะปิดฉากลง พร้อมกับเรื่องราวมากมายในวงการบันเทิงที่มอบทั้งรอยยิ้ม ความสนุก เสียงหัวเราะ ดรามา และให้แง่คิดเอาไปปรับใช้กับชีวิตคนอย่างเราๆ ที่เสพเรื่องราวของคนดังได้มากมาย โดยเฉพาะในปีนี้ วงการบันเทิง ทำให้เรามองเห็นสัจธรรมที่หมุนวนไปเป็นกรงล้อ อะไรที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน ก็เกิดขึ้นได้ ณ ปี พ.ศ. นี้!!!
เห็นแล้ว! คำว่าตลอดไปไม่มีอยู่จริง
เรียกว่าเป็นปีที่เดือดมากสำหรับคู่รักวงการบันเทิงที่ปีนี้คู่รักคนดังประกาศเลิกรา แยกทาง หย่าร้างกันถึง 30 คู่ บางคู่ก็คือช็อกวงการ ช็อกใจแฟนคลับ บางคู่ก็ได้รับการแสดงความยินดีที่หลุดพ้นออกมาได้เสียที บางคู่ยังคงสถานะพ่อแม่ที่ดีของลูก มีทั้งจากเป็นและจากตายทั้งจากกันทั้งที่ยังรัก และจากกันแบบไม่เผาผี แต่บางคู่ก็พบรักที่ดี ที่คู่ควรอย่างไม่น่าเชื่อ
นักทอล์ก “สนธิ ลิ้มทองกุล” ถอดบทเรียนจากประสบการณ์ สอนลูกหลานเป็นแนวทางในการเลือกผู้ชายสักคนจะต้องเลือกผู้ชายแบบไหน?
“ผู้ชายแบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1 ผู้ชายหล่อ เท่ ถามว่ากินได้ไหม ก็กินไม่ได้ 2 ผู้ชายรวย ต้องดูว่าที่รวยนั้นรวยเพราะใคร เขาสร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตัวเองรึเปล่า หรือรวยเพราะพ่อแม่เขารวย หรือว่ารวยเพราะเป็นเจ้าของเว็บพนัน ต้องดูให้ดีๆ คนรวยต้องคิดให้หนักๆ เพราะนิสัยคนรวยมักจะงกและเห็นแก่ตัว 3 ผู้ชายรับผิดชอบ คำว่ารับผิดชอบนั้นยิ่งใหญ่ไพศาลมาก ถ้าเราหาผู้ชายที่รับผิดชอบได้ เราต้องหมั่นสังเกตว่ารู้จักกันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขารับผิดชอบอะไรเราได้บ้าง
ผู้หญิงอย่าไปยอมให้ผู้ชายเร็วเกินไป อย่าไปใช้คอนเซ็ปต์ วันไนน์สแตน เราจะเปลืองตัวเพราะเราเสียเปรียบที่เราเป็นผู้หญิง ต้องโนไนน์สแตนจนกว่าเงื่อนไขข้อตกลงความพอใจของเราจะได้รับความพึงพอใจจากเราเต็มที่ มันจะต้องมีระยะนึงที่ผู้หญิงจะต้องรักนวลสงวนตัว อย่าเพิ่งชิงสุกก่อนห่าม แต่คนสมัยนี้ชิงห่ามก่อนสุกแทบทั้งนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป สังเกตสังกาให้ดี ซักแซะให้ละเอียดให้รู้สถานภาพของเขา ถ้าเราอยู่ในสถานภาพที่ดีกว่าเขา เขาด้อยกว่า ไม่เสียหายที่จะช่วยเขา แต่ต้องค่อยๆ ช่วย ไม่ใช่ทุ่มเททั้งตั้งทั้งใจช่วย
ผู้หญิงที่มีสามีแล้ว อย่าออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเด็ดขาด ผู้หญิงมากมายฉิxหายเพราะคำนี้ พอผู้หญิงไม่ได้ทำงานออกมาเลี้ยงลูกหัวฟู ผู้ชายไทยไม่ธรรมดา ร้อยละ90 เจ้าชู้ทั้งนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเปลี่ยนไป นิสัยเขาก็จะเปลี่ยนแล้วผู้หญิงจะทำอะไรได้ เพราะผู้ชายทำงานเลี้ยงคุณ ถ้าเขาไม่พอใจเราขึ้นมา ผู้หญิงจะทำยังไงต่อในเมื่อเราไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง
หากเลือกคู่ได้แล้วกำลังจะอยู่ในขั้นตอนวิวาห์ กรุณาอย่าไปเสียเงินจัดงานใหญ่โต พวกที่จัดใหญ่เพราะหวังซองที่แขกจะให้มา เชื่อเถอะไม่มีอะไรจะมีความสุขมากไปกว่าเรื่องธรรมดาๆ จงบอกผู้ใหญ่ของท่าน ขอจัดงานเงียบๆ มีแค่ครอบครัวกับคนใกล้ชิดเท่านั้นพอ คุณจะได้รับความจริงใจจากคนที่อยู่รอบตัวคุณและรักคุณ
แล้วผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิงสวย แต่เขาชอบผู้หญิงที่สง่างาม ความสง่างามคือองค์ประกอบของตัวเราทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องแบรนด์เนมแต่ต้องรู้กาลเทศะ รวมถึงกิริยามารยาทความธรรมดาคือสิ่งที่สวยงามที่สุด ความสวยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสง่างามเท่านั้น ผู้หญิงที่สวยน้อยก็สามารถสง่างามได้ด้วยเพราะเขามีกิริยามารยาทดีงาม อยู่ใกล้แล้วมีความสุข
เมื่อผู้หญิงมีลูกแล้ว จงทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยให้ได้ จะด้วยวิธีทางใดก็ตาม ต้องทำงานต่อไป เพราะการทำงานและการสั่งสมเงินทองไว้เป็นการป้องกันตนเองที่ดีที่สุด อย่าไปคิดว่ารักแท้จะนิรันดรไม่มีหรอกในโลกนี้ ไม่มีหรอก แล้วอยู่ด้วยกันผู้หญิงอย่าทำตัวอวดรู้ อย่าทำตัวว่าฉันรู้ไปทุกอย่าง ชีวิตคู่ต้องเริ่มต้นด้วยการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไว้ใจเชื่อใจกัน ต้องแกล้งโง่เป็น แต่ถ้าผู้ชายมันทุเรศทุรังก็ไม่จำเป็นต้องทน”
ทำตัวรวยจนสังคมสงสัย
ต้องยอมรับว่าการที่ทุกคนเข้าถึงโซเชียลทำให้ชีวิตคนในสังคมเปลี่ยนไป ทำให้ได้เห็นผู้คนหลากหลาย และในยุคนี้ พ.ศ. นี้เราได้เห็นคนรวยอวดชีวิตดีผุดขึ้นมากมาย มีคนดัง ไลฟ์โค้ชมาสอนวิธีรวย ประสบความสำเร็จไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่เราต้องมีสติตระหนักคิดไตร่ตรองให้ดีว่าที่รวยนั้น รวยจริงหรือแค่มายา แล้วเขาทำยังไงถึงรวย
ที่ผ่านมามีดารา คนดัง หลายคนประสบความสำเร็จอยู่ในระดับนัมเบอร์วันของเมืองไทย ต้องมาตกบัลลังก์เพราะอยากมีชีวิตดั่งใจฝัน มีบ้านในฝัน มีชีวิตในแบบที่ฝันไว้ แล้วก็โพสต์ลงโซเชียลว่าตนเองประสบความสำเร็จ และพร้อมจะส่งต่อความสำเร็จนี้ไปยังคนอื่นๆ บางคนอาศัยชื่อเสียงตัวเองที่สั่งสมมาทำเรื่องไม่สะอาด จากดาราก็เลยกลายเป็นนักตบทรัพย์ซะงั้น
คนดังหลายคนยอมรับการเสพสังคมโซเชียลที่มากเกินไปกลายเป็นกับดักให้ตกลงไปในหลุมพราง หน้ามืดตามัวอยากได้อยากมี จนบางครั้งขาดสติคิดให้รอบคอบ บางคนก็หลุดหลงไปกับคำหลอกของมิจฉาชีพให้หลงไปในอำนาจของเงิน อย่างเช่นคดี ดิไอคอน ที่ใช้ความรัก ความศรัทธาของแฟนคลับสร้างกลลวงฟอกเงินมหาศาล ที่เรียกว่าเป็นดาราอยู่ดีๆ ชีวิตหักเหต้องไปอยู่ในเรือนจำ ทำสังคมถึงบางอ้อ อยากรวยจนยอมตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ยุคนี้ ชนชั้นไหน รวยแค่ไหนอย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ ติดคุกเหมือนกัน ดังคำที่ว่า “คุกเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีไว้ขังหมากับคนจน แต่ตอนนี้ยังมีไว้ขังเซเลบคนดังด้วยเหมือนกัน” เห็นไหมว่านางเอก พิธีกรตัวท็อปของประเทศก็ติดคุกได้!
สูงสุดกลับสู่สามัญ ในยุคที่ดาราหนีตายมาเป็นแม่ค้า
อาชีพดารา นักแสดง ถือเป็นอีกกลุ่มคนชนชั้นหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าได้รับอภิสิทธิ์ชนมากมายจากหน้าที่การงานและความรักจากผู้คน แต่ในวันที่ยุคสมัยเปลี่ยน ใครๆ ก็กลายเป็นคนดังได้ ความนิยมของดาราจึงลดระดับลง รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจในวงการบันเทิงที่ทำตกงานกันมากมาย ทำให้คนดังต้องย้อนมาหาสกิลเก่าติดตัวว่ามีอะไรอยู่บ้าง งัดออกมาสร้างงาน สร้างเงิน สร้างอาชีพใหม่ เสริมจากการเป็นนักแสดง
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กับการที่คนดังต้องมานับหนึ่งในการเป็นแม่ค้า นับหนึ่งในการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันแต่จริงๆ แล้วมันคนละทักษะ ดาราดังท่านหนึ่งเคยเล่าไว้ว่า… “ตอนแรกมันยาก เราไม่กล้า มันมีความเขิน ความอาย ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แต่เราก็ต้องต่อสู้กับตัวเอง เราต้องสลัดความคิดไม่ได้แคร์ความดัง แต่ทำเพราะแคร์ความรักและความจริงใจ เราขายของทำคอนเทนต์ ทำด้วยความสนุกและมีความสุข มันจะไปได้เอง
รักและจริงใจในสิ่งที่ทำ เราก็จะอยู่ต่อได้ คนมองออกว่าทำเพื่อเงินหรือทำด้วยใจ กอบโกยผลประโยชน์หรือหาสปอนเซอร์ เมื่อโลกเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยน และการมีหลายอาชีพทำให้เรารู้สึกปลอดภัย”
สมัยนี้ทายาทหรือคนรวยเป็น 100 ล้าน 1,000 ล้านยังต้องมาเป็นพ่อค้า แม่ค้า ไลฟ์ขายของเลย! พวกเขาบอกนอกจากความสนุกแล้วสมัยนี้ไม่ทำไม่ได้ จะเป็นผู้บริหารเบอร์ไหนก็ต้องขายของให้เป็น
เริ่มจับทิศทาง ค้นพบทางรอด
จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมบันเทิงระส่ำวนอยู่ในอ่างหาทางออกไม่เจอ แต่สัจธรรมบนความมืดมิด ก็มีหนทางให้เดินเสมอ จะเห็นว่าสถานีหลายช่องปรับกระบวนท่าการทำงาน ย้อนมองทรัพยากรที่ตัวเองมีและพัฒนาให้แข็งแกร่ง ทำให้ GDH สร้างประวัติศาสตร์หนังไทย นำ “หลานม่า” สู่เวทีออสการ์ ช่อง 3 นำซีรีส์ยูริ “หลิง-ออม” สู่ตลาดโลก ค่ายกันตนา นำซีรีส์สไตล์ละครไทย “สืบสันดาน” เจาะกลุ่มตลาดซีรีส์ขึ้นแท่นอันดับ 3 ซีรีส์ที่มีคนดูมากที่สุดในโลก ช่อง 8 หลังจากที่มีข่าวลือลังเลถอดใจจากการทำละครแล้ว ก็กลับมาพบแนวทางนำเสนอละครแบบใหม่ ฟันรายได้เป็น 10 ล้านจากการทำคลิปละครสั้น ทำให้กลับมาฮึดสู้ทำละครอีกครั้ง
“หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ได้เผยถึงทางรอดในปี 2568 สำหรับทุกคน ทุกอาชีพ ทุกชนชั้นไว้ว่า… “ไม่ต้องไปเครียด เราก็ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ แก้ไขปัญหากันไปเรื่อยๆ ถ้าปัจจุบันเราสร้างสิ่งที่ดีไว้ก่อน เราต้องใช้อิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิต ได้แก่ ฉันทะ (รักและพอใจในสิ่งที่ทำ) วิริยะ (ความพากเพียรและความขยันอย่างต่อเนื่อง) จิตตะ (ความเอาใจใส่ มุ่งมั่น และรับผิดชอบสิ่งนั้นๆ) วิมังสา (ความตระหนักไตร่ตรองถึงเหตุและผลด้วยปัญญา)
รักในสิ่งที่ทำ ลงมือทำในสิ่งที่ชอบ ตั้งใจในสิ่งที่เป็น คอยประเมินตัวเองว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันจริงหรือเปล่า มีใจอยู่กับสิ่งนั้นด้วยความตั้งใจ ภูมิใจหรือเปล่า ทำให้เต็มที่ที่สุดในวันนี้ ส่วนที่เหลือมันเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เรามีหน้าที่ทำอย่างตั้งใจ อย่าไปทุกข์ก่อน การทุกข์ล่วงหน้าไม่เกิดประโยชน์ สู้กันไปอย่างนี้ให้เต็มที่ พัฒนาตัวเองให้รู้ ทำทุกวันให้ดีที่สุด เมื่อทุกคนตั้งใจทำดีที่สุด ศึกษาและพัฒนา เดี๋ยวสังคมวันข้างหน้าจะดีขึ้นเอง”
ก็เอาเป็นว่า เสพข่าวบันเทิงก็เอามาปรับใช้กับตัวเราเอง ดั่งสัจธรรมของวงการบันเทิงที่ว่า ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว พฤติกรรมของทุกตัวละคร มีโอกาสเจอได้ในชีวิตจริง ถ้าดูให้ลึกแบบไม่ผ่านๆ ไป จะเข้าใจได้ในเหตุและผลของทุกตัวละคร
