“อั้ม ฐนิชา” ตัดสินใจหวนคืนจอเงินในรอบ 20 ปี ไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเองที่เปลี่ยนไป แต่รับเล่นเพราะ “พชร์ อานนท์” ชวน ตื่นเต้นทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เผยที่ผ่านมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเต็มตัว ทำให้ต้องออกจากวงการบันเทิง
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ชื่อของนักแสดงสาว “อั้ม ฐนิชา” หรือ “อั้ม นันทธิดา ดิษยบุตร” หรือ คงเป็นที่คุ้นหู คุ้นตาผู้ชมเป็นอย่างดี เพราะด้วยหน้าตาที่น่ารัก มีเขี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เจ้าตัวก็ตัดสินใจออกจากวงการบันเทิง เพราะแต่งงาน และตั้งใจอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็กลับมาร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น2 ของผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” ซึ่งอั้มเผยว่าพอได้รับการติดต่อก็ตัดสินใจรับทันที เพราะพชร์เป็นคนที่ชักนำตนเข้าวงการด้วย
“คิดว่าเกือบๆ 20 ปีนะคะที่หายไปจากจอเลย แต่ที่กลับมาแสดงหนังครั้งนี้เพราะว่าพี่พชร์ อานนท์เป็นคนชวนมา และพี่พชร์เป็นคนชวนอุ้มเข้าวงการด้วย และอีกอย่างก็คือชาช่า อัลเทอร์เมท กลับมาจากต่างประเทศพอดี พี่พชร์ก็เลยชวนมาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วยกัน เราก็ตอบตกลงเลย เพราะถือว่ามาช่วยงานพี่เขาด้วย แค่พี่เขาเอ่ยปาก เราก็พร้อมที่จะมาให้อยู่แล้วค่ะ แต่จริงๆ ก็คิดถึงวงการอยู่แล้วด้วยค่ะ แต่ด้วยความที่เราต้องทำหน้าที่เป็นคุณแม่ เป็นแม่บ้านฟลูไทม์ด้วย เราก็เลยไม่มีเวลาในด้านอื่นเลย พอพี่พชร์ชวนก็เลยลองสักหน่อย แต่ไม่ได้ถึงกับจะหวนเข้าวงการขนาดนั้นนะคะ" (หัวเราะ)
"ถ้ามีงานติดต่อเข้ามาอีก คงต้องขอดูเวลาก่อน และด้วยสภาพร่างกายตัวเองด้วย (หัวเราะ) ที่ตอนนี้หุ่นอาจจะขยายนิดนึง ยอมรับว่าค่อนข้างไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นะคะเวลาออกกล้อง มันเขิน เพราะตั้ง 20 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ออกกล้องเลย บรรยากาศมันทำให้นึกย้อนกลับไปนานมากค่ะ มาเจอทีมงานก็ใหม่หมดเลย ที่สำคัญทุกคนยกมือไหว้เราหมดเลย ทั้งๆ ที่ตอนที่ยังอยู่ในวงการเรายังเป็นเด็กที่ต้องไหว้ทุกคนในกองอยู่เลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ก็จะ 47 แล้ว หายไปนานจริงๆ”
เผยตอนแรกลูกสาวไม่เชื่อว่าเคยเป็นดารา แถมบอกว่าแม่ไม่สวย
“ตอนช่วงแรกๆ ที่ออกจากวงการไปใหม่ๆ ก็ยังมีผู้จัดติดต่อมาอยู่ค่ะ เพราะว่าตอนนั้นอั้มแต่งงานด้วย พอดีมีน้อง และด้วยความที่อั้มเลี้ยงลูกเอง แล้วลูกก็ติดเรามาก พอมีงานติดต่อมาก็เลยต้องปฏิเสธไปว่าขอให้ลูกโตอีกหน่อย แต่พอลูกโตแล้วเหมือนทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว เราก็มีชีวิตประจำวันไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป อั้มเองก็เป็นแม่ที่ดูแลลูกเองจริงๆ ก็ไม่ได้รับงานเลย จริงๆ อั้มก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงมากมายอะไรอยู่แล้ว และตอนนั้นที่ตัดสินใจออกไปเพราะเราอยากมีครอบครัว อยากสร้างครอบครัว และพอแต่งงานได้ 2 ปีก็มีลูกเลย อั้มก็เลยคิดว่าควรจะทุ่มเทให้กับครอบครัวเต็มที่ เพราะการมีลูกคนนึงก็ต้องสละเวลาให้เต็มที่ ลูกอั้มก็ติดอั้มมากๆ ด้วย ไม่เอาใครเลย เราก็เลยต้องยอมที่จะออกมา"
"ตอนนี้ถ้ามีงานติดต่อมาอีกจริงๆ ก็คงต้องดูเรื่องเวลาเป็นหลัก อีกอย่างคือความมั่นใจเราไม่มีแล้วด้วย (หัวเราะ) เพราะเราอาจจะอ้วนไปหรือเกินวัยไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้ลูกก็เริ่มโตแล้วค่ะ อาจจะกลับมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังรับส่งโรงเรียนกันอยู่ค่ะ ตอนนี้น้องก็อายุ 14 แล้ว โตแล้ว แต่เราก็ยังไม่ค่อยอยากปล่อยเขา ลูกก็ทราบนะคะว่าอั้มเคยเป็นนักแสดงมาก่อน แต่ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ เขาจะบอกว่าแม่ไม่เห็นสวยเลย (หัวเราะ) ลูกก็จะแกงเราตลอด"
"แต่ดูเขาก็ชอบด้านงานบันเทิงเหมือนกันนะคะ แต่เขาก็จะมีความเขินๆ ไม่ชิน เพราะตั้งแต่เขาเล็กๆ อั้มไม่เคยพาเขามากองถ่ายเลย เพราะเราก็ไม่ได้รับงานตรงนี้อยู่แล้ว แต่พอกลับมาถ่ายหนังก็พาเขามาด้วย เขาก็ดูตื่นๆ คนว่าคนเยอะ ก็เลยเขินๆ แต่ถ้าอนาคตเขาชอบด้านนี้จริงๆ อั้มก็พร้อมสนับสนุนเขานะคะ ไม่ว่าเขาอยากจะทำอะไรเราก็พร้อมซัพพอร์ตเขา แต่ก็อยากให้เขาเอาเรื่องเรียนเป็นหลักก่อนค่ะ”
