“หมอบี” เล่านิทาน “แตงโม” ภาค 2 คนทำอยู่ไม่สุขแน่นอน อาจสาวไปไม่ถึงต้นเรื่องแต่อย่างน้อยได้ตัดคนชั่วช่วยประเทศชาติ

ในรายการ ทูตสื่อข่าว ของ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ในช่องยูทิวบ์ อีพีล่าสุด ได้ออกมาเล่าถึงการพยายามจะรื้อคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” กันขึ้นมาใหม่ในวงสังคม เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่จะยืนยันได้ว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากการพบพิรุธหลายอย่าง ซึ่งเชื่อมโยงกับนิทานของ หมอบี ที่เคยเล่าไว้เมื่อ 2 ปีก่อนที่เป็นไวรัลในโซเชียล

“อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” และคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ต่างออกมายอมรับว่าที่ผ่านมาหลังจากที่ออกมาพูดเรื่องของแตงโม มีเรื่องของความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น หลังจากออกมาพูดเรื่องนี้ หมอบี บอกว่าตนเองก็เจอเรื่องนี้เช่นกันเมื่อ 2 ปีก่อน

“ผมก็บอกเลยว่า ผมก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน ตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่แล้วหลังจากพูดไป เราก็ไม่ได้คิดอะไรคือเราคิดว่าไม่มีใครสนใจคำพูดเราอยู่แล้วเราก็เล่านิทาน ปรากฎเดือดร้อนเลยจ้า แป๊บเดียวเท่านั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ติดเทรนด์จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ก็ได้รับการติดต่อจากหลายสายมากมาย แต่เราก็พยายามจะไม่พูดอะไร สำหรับเรามันก็เป็นแค่นิทานเรื่องนึงไง จะเอามาอ้างอิงอะไรตรงนี้ไม่ได้ (ถอนหายใจ) แล้วครั้งนี้ผมจะพูดอะไรได้บ้าง

จะบอกว่าจริงๆ แล้วหลักฐานมันยังมีอยู่ ทุกอย่างมันค่อนข้างเป็นที่ประจักษ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่คนจะตั้งใจให้รู้หรือไม่ให้รู้ต่างหาก นั่นคือประเด็น เรื่องราวต่างๆ ที่ออกมาวิเคราะห์กันมันมีมูลอยู่แล้ว… พูดยากจัง ขอบอกเอาง่ายๆ แบบนี้แล้วกันนะ จะสาวให้ตายยังไงสุดท้ายมันจะไปสุดอยู่ที่นึง เพราะมันไม่สามารถไปถึงคนที่สูงที่สุด ไม่สามารถไปถึงคนแรกสุดได้อยู่แล้ว มันจะได้แค่คนรองๆ ลงมา คนที่ร่วมขบวนการก็แค่นั้น

มันเป็นเรื่องของเวรกรรมนะ รับรองว่าเจ้าตัวอยู่ไม่สุขแน่นอน คนที่ทำอะไรพวกนี้อยู่ไม่ได้แน่นอน มันจะเป็นเดือดเป็นร้อน เป็นกรรมติดตัว เป็นเงาของการกระทำของตนเองไปจนวันตาย สิ่งที่ตัวเองทำไปแล้วจะเกิดผลคือระแวงคนรอบข้างที่อยู่ร่วมกัน ที่รู้เรื่องราวเหมือนกันว่าใครทำอะไรไว้ที่ไหน เดี๋ยวคอยดู โดนกดดันมากๆ เดี๋ยวมันหลุดออกมาเอง ไม่หลุดก็ต้องระแวงกัน ถ้าคนนี้หลุดจะทำยังไง คนนั้นหลุดจะทำยังไง เหมือนในหนังที่โจรมันไปปล้นด้วยกัน มันก็วางแผนกันไว้ แล้วถ้าถูกจับได้ คนนี้พูดจะทำยังไง จะปิดปากเลยไหม ก็ว่ากันไป รอดูกันต่อไปแล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ถ้าจะทวงความยุติธรรมก็เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ ก็ทำไปดู แต่เดี๋ยวสุดท้ายธรรมชาติจะกระเพื่อมเอง มันทนโดนกดดันไม่ไหวอยู่แล้ว มันจะเกิดนะ แต่มันจะสาวไปได้แค่นิดเดียว สุดท้ายมันจะไปสุดอยู่ที่ๆ นึงที่มันไม่สามารถไปต่อได้แน่นอนอยู่แล้ว ก็ทำกันเท่าที่ทำได้แล้วกัน ไม่ว่าจะแค่ไหนก็ตามแต่ละขั้นแต่ละตอนมันจะเจอตัวใหญ่ๆ ที่มีผลในการทำอะไรชั่วๆ ในประเทศนี้พอสมควร ถ้าตัดไปได้สัก 1-2 คนก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติบ้านเมืองได้เยอะเหมือนกันนะ ก็เห็นด้วยครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง นิทานนะนิทาน

กฎแห่งกรรมมันยุติธรรมอยู่แล้ว มันยุติด้วยธรรมชาติเสมอ มันก็เป็นไปตามครรลอง ตามธรรมชาติแหละ ไม่ต้องหวงครับ เรื่องนี้ถ้าผมช่วยอะไรได้ผมช่วยอยู่แล้ว แต่ช่วยในแบบของผมนะ ผมก็จะช่วยในมุมของผมโดยที่ไม่ได้บอกใครว่าผมได้ช่วยอะไร จะไปปลดปล่อยเรื่องอะไร จะไปเคลียร์ยังไงเป็นเรื่องที่เราทำเองโดยไม่ต้องไปบอกใครอยู่แล้ว ไม่ต้องเอามาบอกออกรายการ ถ้าช่วยอะไรได้ผมก็ช่วยเต็มที่อยู่แล้ว”