xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกหมี รัศมี” พร้อมโกนหัวถ้าได้เงิน 2 ล้าน เผยปีหน้าลุยทวงหนี้ต่อ ไม่ท้อ ขอสู้ยันลูกบวช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลูกหมี รัศมี” อยากโกนหัวเล่นหนังถ้าผู้จัดใจป้ำให้เงิน 2 ล้าน ยังหวังได้เงินอีก 2 ล้านคืนจากลูกหนี้ บอกปีหน้าเริ่มขึ้นศาลต่อ ตอนนี้มี 3 คดี ยืนยันยังพร้อมไกล่เกลี่ยเสมอ แต่ที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่เคยให้ความร่วมมือเลย โอดซวยเองที่มาเจออีกฝ่าย แต่จะทวงเงินยันลูกบวช ดีใจได้ฉายาแรกในวงการ อยู่มานาน 26 ปี ที่มาร้องเพลงทวงหนี้ อยากเป็นนักร้องอยู่แล้ว

สร้างปรากฎการณ์หลายอย่างจริงๆ ในปีนี้ สำหรับนางแบบ-นักแสดงสาว “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี” ที่ล่าสุดมาร่วมงานแถลงข่าวโครงการบรรพชาสามเณรอินเดีย 350 รูป ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธยันตี เผยว่าเคยมีความคิดอยากจะโกนหัวเข้าฉากในหนังเรื่อง พุทธคยา แต่โครงการถูกพับไปเพราะโควิด แต่ถ้ามีแพลนกลับมาทำอีกครั้งและผู้จัดอย่างไฮโซสาว “ผิง สุภาวดี ทัพมาลัย” ทุ่มทุนยอมจ่ายให้ 2 ล้าน ตนก็พร้อมจะโกนหัวเข้าฉากให้เลย

“ที่ตัดสินใจโกนผมเองตอนนั้นเพราะเป็นโปรเจกต์ของหนังพี่ผิง เรื่องพุทธคยา เป็นโปรเจกต์เมื่อ 5-6 ปีก่อนที่เราเดินทางไปอินเดีย และคุยพล็อตเรื่องที่จะสร้างกัน แต่ว่ามันติดเรื่องของโควิด และตอนที่เราคุยกันถึงเรื่องหนัง เราก็เลยนำเสนอกับพี่ผิงกับทีมงานว่าถ้าเกิดมีบทที่เป็นแม่ชีโกนหัว ลูกหมีขอโกนหัวเลย เพราะเราก็เป็นชาวพุทธที่อยู่ในพระพุทธศาสนาเหมือนกัน เราก็เคยพูดไว้ และเคยลืมไปแล้ว พอตอนนี้หนังจะมาทำใหม่ก็กำลังคุยกันอยู่ว่ามันจะมีซีนนั้นหรือเปล่า

จริงๆ ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงด้วย เราก็อยากจะรับบทนี้เหมือนกัน ในความคิดเมื่อ 5-6 ปีก่อนนะ แต่ตอนนี้ถ้าทีมงานให้เงิน 2 ล้านก็คงโกนค่ะ (หัวเราะ) คือที่ตอนนั้นตัดสินใจจะโกนผม เพราะมันเหมือนครั้งหนึ่งในชีวิตด้วย เราก็อยากจะแสดงให้สมจริง ถามว่าเคยเห็นภาพตอนที่ตัวเองไม่มีผม ไม่มีคิ้วไหม คือตอนที่เราเด็กมากๆ ตอนที่ยัง 20 ต้นๆ ที่เพิ่งเข้ามาในวงการเคยได้ถ่ายแบบให้กับแบรนด์ Dapper แล้วใส่วิกแบบไม่มีผม เราก็เลยรู้สึกว่ามันเหมาะกับเรา และมันเป็นภาพเมื่อ 20 ปีก่อน พอเมื่อ 6 ปีที่แล้วได้คุยกับพี่ผิง และได้เดินทางไปอินเดียบ่อยมากๆ เราเป็นคนในพระพุทธศาสนาจริงๆ เราเป็นคนทำบุญ เรามีศีล ก็เลยอยากทำให้มันสอดคล้องกับสิ่งที่เราเป็นนักแสดงด้วย

ถ้าปีหน้าได้โกนผมจริงๆ ถ้าได้เงิน 2 ล้านจริงก็จะโกนค่ะ ถ้าผู้จัดให้ 2 ล้าน และลูกหนี้ให้อีก 2 ล้านก็เป็น 4 ล้าน แต่คาดว่าน่าจะได้จากทางผู้จัดก่อน (หัวเราะ) ถามว่ากลัวคนเข้าใจผิดไหมถ้าคนคิดว่าโกนผมเพราะแก้บน ไม่กลัวค่ะ เพราะมันคือการแสดง แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะบนหรือสวดมนต์ต่างๆ ก็ขอให้ลูกหนี้ทั่วโลกมีเงิน ปีใหม่นี้ขอให้ลูกหนี้มีเงินเยอะๆ แล้วก็เอาเงินไปใช้เจ้าหนี้ เราก็อธิษฐานแบบนี้มาเกือบปีแล้วค่ะ แต่ที่อธิษฐานให้ตัวเองก็คือขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุข เรียบง่ายค่ะ”

ยังพร้อมไกล่เกลี่ยเสมอ
“ถามว่าจะสิ้นปีแล้วปล่อยวางหรือยัง ก็คงเป็นปีใหม่อีกปีที่ไม่ได้ร่าเริงมาก และต้องใช้เงินอย่างประหยัด (หัวเราะ) เพราะปีที่แล้วก็ไม่ได้ร่าเริงค่ะ ปีนี้ก็คงไม่ได้ร่าเริง เพราะคงยังไม่ได้เงิน ขึ้นศาลหลายๆ รอบก็ยังไม่ท้อนะคะ คือตอนนี้มี 3 คดี คดีฉ้อโกง หมิ่นประมาทและผิดสัญญาเงินกู้ ยังไม่ท้อค่ะ เพราะเราทำทุกอย่างถูกต้อง มันเป็นเงินของเรา เราก็ยังมีแรงกำลังที่จะสู้ต่อไป เอาจริงๆ ก็ได้กำลังใจจากเพื่อนๆ พี่ๆ ประชาชนต่างๆ ที่คอยให้กำลังใจเรา มันเหมือนเป็นคดีตัวอย่างว่าการทำแบบนี้มันอันตราย เป็นภัยสังคม ถ้าเราไม่ออกมารักษาสิทธิของเราหรือต้องการเงินคืน บางทีคนลักษณะแบบนี้เขาก็จะทำกับคนอื่นต่อๆ ไป

คิวนัดศาลครั้งต่อไปเป็นวันที่ 17 ก.พ.68 ค่ะ เป็นคดีหมิ่นประมาทค่ะ ถามว่ายังมีความหวังไหม จริงๆ ในความคิดของเราว่าถ้าวันนึงคนเราคิดได้ เขาก็จะต้องมาเคลียร์กับเรา ถ้าเขาคิดได้ เขามีสติปัญญามีดวงตาเสียหน่อยว่ากระบวนการมันไปเกินครึ่งทางแล้ว ถ้าศาลรับเรื่องก็จะต้องไปประกันตัวอะไรต่างๆ แต่ถ้าคนเรายอมรับผิดหรือยอมสักนิดนึง เจรจาไกล่เกลี่ย ลูกหมีว่ามันก็จะจบนะคะ เพราะว่าเป้าหมายของลูกหมีคือต้องการเงินคืนอย่างเดียว อย่างอื่นเราก็ไม่ได้อะไร แต่เขาไม่ไกล่เกลี่ยและจะสู้ต่อ มันก็จะยาวนานไปถึงปี 68 69 แน่นอน”

ขอเตือนภัยอย่าไว้ใจใครมากเกินไป
“ถ้าระยะทางมีการไกล่เกลี่ยเราก็พร้อมตลอดค่ะ เพราะเราบอกแล้วว่าต้องการเงินของเราคืนค่ะ เพราะตลอดเวลาที่ขึ้นศาลมายังไม่เคยพูดที่จะไกล่เกลี่ย ศาลนัดไกล่เกลี่ยเขาก็ส่งผู้ช่วยทนายมาบอกว่าเขาไม่พร้อมที่จะไกล่เกลี่ย แต่ถามว่าด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน เราพร้อมจะไกล่เกลี่ยไหม จริงๆ ลูกหมีไม่เคยเป็นเพื่อนกับคนๆ นี้มาก่อนนะคะ เพิ่งรู้จักจากเพื่อนผู้ชายคนนึงที่ชวนไปตีกอล์ฟ แล้วเขาก็เข้ามาในก๊วนกอล์ฟ พอรู้จักเขาก็มีเจตนาที่จะช่วยเหลือลูกหมีอย่างมากมาย โดยการชักชวนลงทุนทำธุรกิจกระเป๋า แล้วก็เอาเงินเราไป

เรามีความไว้ใจอย่างเดียวเลยค่ะ เชื่อใจในศักยภาพเขาที่อยู่ในวงการมา เราแค่คิดว่าเขามีชื่อเสียงมาก่อนแค่นั้นเอง แต่เราไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว และที่สำคัญเราไม่เคยไปเช็กประวัติเขา แต่พอเกิดเรื่องแล้วได้เช็กประวัติ มันถึงจะมีเรื่องราวมากมายออกมา ก็จะฝากเลยว่ารู้จักใครต้องใจเย็นนะคะ อย่าใจร้อนเหมือนลูกหมีที่จะไปลงทุนด้วย เช็กประวัตินิดนึงก่อนค่ะ

คนในก๊วนกอล์ฟ หายไปหมดเลยค่ะ (หัวเราะ) บางคนมาว่าเราซ้ำด้วยว่าเราไปลงทุนกันเอง เขาก็ไม่ได้มาให้กำลังใจเรา คนที่ชักชวนเขาก็ไม่ได้มารับผิดชอบ ถึงบอกว่าลูกหมีเตือนภัยจริงๆ ค่ะ ก็ผิดที่ตัวเองใจไว้ เชื่อใจคน และคิดว่าเขาไม่กล้าทำกับเรา แต่คนแบบนี้ทำได้ทุกคน เขาไม่ได้ไว้หน้าเลย สุขภาพจิตลูกหมีเสียตั้งแต่ 1 ม.ค.67 แล้วค่ะ พอไม่ได้เงิน เช็คเด้ง สุขภาพจิตก็เสียมากๆ มันเครียดมาก ปกติเป็นคนนอน 2-3 ทุ่ม พอเครียดมากๆ ก็นอนไปถึงตี 2 ตี 3 ทุกอย่างมันแย่มากค่ะ บางทีก็ร้องไห้วันเว้นวัน จนต้องหาวิธีที่เราไม่ดิ่ง กว่าจะฟื้นได้ก็ยากค่ะ”

บอกอยู่วงการมา 26 ปี เพิ่งได้ฉายาในวงการครั้งแรก
“ที่ได้ฉายาหมีฟาดปูทวงหนี้เดือด (หัวเราะ) ก็ขอบคุณพี่ๆ นักข่าวที่ให้ฉายานี้ เพราะข่าววันนี้มันยาวนานเป็นมหากาพย์จริงๆ ตั้งแต่ลูกหมีแจ้งความ 4 เม.ย. แต่แถลงข่าว 13 มิ.ย. ข่าวก็ยาวเลย เขาก็ไม่ยินดีที่จะไกล่เกลี่ยหรือใช้หนี้ ก็เลยได้ฉายาปี 67 เรียบร้อย ทำงานมา 26 ปี เป็นครั้งแรกที่ได้ฉายาในวงการ (หัวเราะ)”

บอกที่มาร้องเพลง “นะจ๊ะนะจ๊ะ“ ทวงหนี้ เพราะอยากเป็นนักร้องอยู่แล้ว
“เพลงนี้จริงๆ มีโปรดิวเซอร์กับคนเขียนเพลงแต่งให้ ก็เป็นเพลงน่ารักๆ ที่ทุกคนทั่วโลกต้องเจอ ก็เลยเป็นเพลงน่ารักๆ ความหมายว่าถ้าคุณไปติดเงินใคร คุณก็ใช้เงินนะอะไรแบบนี้ ลูกหมีก็เป็นนักร้องคนนึงที่อยากทำเพลง เห็นเพลงมันน่ารักดีก็เลยทำเพลงสนุกๆ ค่ะ แรงบันดาลใจจริงๆ ไม่ได้เกิดจากลูกหมีนะคะ แต่เกิดจากโปรดิวเซอร์ที่เขาอยากทำ และเขาก็ติดต่อมา แต่แรงบันดาลใจคือเราอยากเป็นนักร้องอยู่แล้ว และมันตรงกับเราพอดี

คิดว่าเขาจะได้ฟังไหม คนที่เป็นลูกหนี้ต่างๆ ก็คงได้ฟังนะคะ ส่วนคนที่เป็นเจ้าหนี้ก็แฮปปี้มาก บอกพี่ลูกหมีเพลงนี้น่ารัก ก็ถือเป็นมิติใหม่ดีค่ะ มิติจะมาอีกเรื่อยๆ ค่ะ ถ้าเงินยังไม่ได้ก็ไปเรื่อยๆ ยันลูกบวช เรายังคิดได้อีกหลายมิติ มีทีมคอยนำเสนอตลอด ลูกหมีว่ามันเป็นอะไรที่สนุกสนาน แฮปปี้ที่คนดูเขาก็ได้ดูอะไรที่สนุกๆ หรือได้ความรู้ ระมัดระวัง เตือนภัย ลูกหมีว่าก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย เดี๋ยวก็มีมาอีกเรื่อยๆ ค่ะ ​ก็อยากให้ลูกหนี้ได้ฟังเพลงนะคะ ฟังให้เข้าไปถึงจิตใจค่ะ (หัวเราะ)”

บอกเพราะได้กำลังใจจากทุกคน ทำให้คลายความเครียดได้บ้าง
“ที่ลูกหมีเริ่มไม่เครียดจริงๆ ก็จากพี่ๆ เพื่อนๆ และคนที่คอยให้กำลังใจ ไปไหนทุกคนก็คอยให้กำลังใจ เพราะทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเงินเราโดนโอนออกไปจากบัญชีเราไปสู่บัญชีเขาจริง พอคนเราได้กำลังใจก็เหมือนมีแรงสู้ค่ะ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ ณ ตรงนี้ที่ให้กำลังใจลูกหมี และก็รอดูคดีของลูกหมีต่อไปนะคะว่ามันจะสิ้นสุดยังไง และโชคดีที่เราก็ปฏิบัติธรรมมาตลอดเป็น 10 ปี เราก็รู้ว่าตัวเราเองก็มีกรรม และเราเองก็ซวยจริงๆ ที่ไปเจอเขา คิดว่าเราก็ต้องชดใช้กรรมนี้ที่เงินเราหายไป 2 ล้าน แต่ก็เชื่อว่าในทุกวิกฤติก็มีโอกาส ลูกหมีก็มาทำช่องติ๊กต๊อกชื่อช่องลูกหมี รัศมี ขายเสื้อยืด ขายสบู่ ก็ไม่ได้ท้อกับการทำงาน สู้ต่อไป ปีหน้าตั้งใจจะเก็บเงินค่ะ

ถ้าพูดเรื่องเงินที่หายไปบางทีก็ยังมีเสียงสั่นๆ นะ อารมณ์มันก็ยังมีขึ้นๆ ลงๆ มันเป็นเงินของเราที่เสียไป 2 ล้านนี่ลูกหมีเก็บนานมากนะคะ มันไม่ใช่เก็บปีเดียวได้ ลูกหมีไม่ได้ค่าตัวเยอะ ลูกหมีก็ทำงานเก็บเล็กๆ น้อยๆ และพอสิ่งที่เราสูญเสียไปกับสิ่งที่เราสร้างมาเองด้วยมือของเราเอง แรงของเราเอง มันโคตรเจ็บเลยค่ะ แต่คนที่เอาไปไม่สำนึกใดๆ ทั้งสิ้น ไม่สำนึกเลย และทำกับคนอื่นมากมาย ลูกหมีก็รอได้เงินคืนกับรอเห็นสิ่งที่เขาจะเจ็บปวดของเขาเหมือนกัน

แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น ลูกหมีก็คงต้องพยายามพักผ่อนนอนหลับให้ได้ และก็อาจจะเอาธรรมะเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็เอาเรื่องปัญหานั้นกองไว้ตรงนี้ แล้วก็ทำงานอย่างอื่นไปให้มันลืมความทุกข์ ก็อาจจะช่วยได้ เพราะวันๆ ก็งานยุ่งเหมือนกัน เมื่อเช้าก็สอนตั้งแต่ 8 โมงเช้า แล้วก็มางานต่อ ได้ทำงานทุกวันก็ช่วยได้ค่ะ”













กำลังโหลดความคิดเห็น