“กุ้ง สุธิราช” พาหลานชายขึ้นเวที รู้สึกเหมือนได้ออกงานกับ “วิ วิรดา” น้องสาวที่ป่วยไม่รู้สึกตัวมา 1 ปีแล้ว เผยหลานปลุกน้องสาวให้ตื่น แม่ไม่ตื่นสักที
เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ที่น้องสาวของ “กุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ”อย่าง “วิ วิรดา วงศ์เทวัญ”ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังป่วยเป็นไข้เลือดออกชนิดรุนแรง แต่ถึงอย่างนั้นครอบครัวก็ไม่หมดหวัง ยังคงเดินหน้ารักษาต่อไป ล่าสุดวันนี้ (22 ธ.ค.) ได้เจอกุ้ง ที่พาหลานชาย “น้องวาคิน”ลูกของวิรดา มาขึ้นโชว์บนเวทีด้วยกัน ในงานมหกรรมฟรีคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “มหานคร คัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” เจ้าตัวก็ได้เผยความรู้สึกให้ฟังว่า การได้ขึ้นไปโชว์กับหลาน เหมือนได้เห็นน้องสาว รู้สึกเหมือนมีคู่หู
“ให้เต็มร้อยอยู่แล้ว งานปีใหม่ปีที่แล้วน้องวิมา ปีนี้ก็ยังป่วยอยู่ ก็เลยเอาหลานนี่แหละมา วาคินก็พร้อมที่จะร้องเพลงแล้ว เลยมาให้แฟนๆ ได้เอ็นดู ได้รู้จักเขา เวลาไปโชว์ ปกติเขาจะร้องเพลง แล้วก็เล่นลิเกด้วย ใส่ชุดลิเกมาร้องรำเลย ด้วยวัย 4 ขวบกำลังจะ 5 ขวบ เขามีพรสวรรค์ เขาติดแม่เขา คุณพ่อเขาฝึกตั้งแต่ 3 ขวบ คือได้ซึบซับตลอดเวลา ให้ฝึกร้อง ฝึกอะไร เขาก็ทำได้ ตอนนี้ก็พาไปทุกงาน โรงเรียนเปิดเขาก็ไป เพราะเขาใจรัก เขาชอบ เห็นหลานมีความสุขในการร้องรำ เราก็ปล่อยเขา เขาเต็มใจไปครับ บางงานเขาเสียงแห้ง เราก็บอกร้องแค่นี้พอ แต่เขาไม่ยอม จะโชว์ให้จบ”
เคยเขินสาวจนไม่กล้าร้องเพลง ต้องตกลงกันใหม่ว่าต่อไปทำแบบนี้ไม่ได้
“จริงๆ มันมีอยู่วันหนึ่ง ไปแล้วไม่คุ้นกับคนเยอะๆ คนมาถ่ายรูป มาอะไร เขาก็เขิน สาวๆ มาเยอะก็อาย ขอพักไม่ออกไปร้องเพลง แต่ก็มีอยู่งานเดียว เลยตกกันว่าไม่ได้นะต่อไปต้องร้องเพลงนะ เขาก็โอเค ก็อยากปลูกฝัง แต่ก็เป็นตามธรรมชาติของเขาด้วย เราไม่ได้สอนอะไรมาก เขาร้องตรงคีย์ ร้องถูกต้องเอง จำได้แม่นยำ ฟังครั้งสองครั้งเขาร้องได้เลย พ่อเขายังงงเลยว่าร้องได้ยังไง เขาชอบ”
รู้สึกเหมือนหลาน เป็นตัวแทนของน้องสาว
“จริงๆ มันรู้สึกเหมือนกัน เพราะเราไปไหน ก็จะไปกับน้องเราตลอด จนวันหนึ่งน้องป่วย เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อยพาหลานไปด้วย มันรู้สึกเหมือนเรามีคู่หู มีคนที่ออกไปโชว์ด้วยกัน เห็นเขาก็เหมือนเห็นน้องเราเหมือนกัน เพราะเขาเป็นธรรมชาติ แล้วก็นิสัยเหมือนกัน รู้สึกว่าเราต้องโอบอุ้มเขา ผลักดันเขา อนาคตเขาก็จะเป็นตัวแทนเราด้วย ไม่ใช่แค่วิ”
อยากเห็นภาพตัวเอง น้องสาว และหลานอยู่บนเวทีเดียวกัน
“อยากเห็นภาพนี้อยู่แล้ว เพราะมันมีความสุขที่สุดแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น”
หลานได้ดั่งใจมาก มองหน้าแล้วคิดถึงน้อง
“ก็คิดถึงน้องครับ แล้วก็ภูมิใจในตัวเขา เขาได้ดั่งใจเลย ไม่งอแง พูดจารู้เรื่อง อย่างวันนี้ไปงานมาก่อน แต่งชุดลิเกเต็มยศทั้งลุงทั้งหลาน เลิกงานก็ตีรถมานี่ ก็หลับจนมาถึงที่จอดรถ ต้องปลุกต้องอุ้มกันลงมา แต่เขาไม่งอแงเลย พร้อมโชว์ เลือดพ่อแม่เขาแรงมาก จริงๆ เขาเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ เหมือนจะไม่เอา แต่ทำได้”
ไม่บังคับหลาน โตขึ้นอยากทำอะไรก็ให้ทำ
“แล้วแต่ใจเขา ถ้าเขาชอบอะไร เราให้เขาได้เรียนรู้การใช้ชีวิตกับการเป็นศิลปิน วันข้างหน้าถ้าเขาชอบ เขาอยากทำก็ให้ทำ จริงๆ เขาก็เหลือฝึกรำ แล้วก็เล่นเป็นเรื่อง ก็ต้องค่อยๆ เขามาก่อนเราเร็วมาก เราเริ่มตอน 5 ขวบ”
หลานรับรู้ว่าแม่ป่วย พยายามพาไปเยี่ยมตลอด มีเรียกข้างเตียง ว่าแม่ไม่ยอมตื่นสักที
“รู้ครับ เขาบอกว่าแม่หลับ ไม่ยอมตื่นสักที ก็ไปเยี่ยมเสาร์อาทิตย์ เพราะตอนนี้อยู่ห้องพิเศษแล้ว เราบอกเขาว่าแม่ป่วย ยังไม่ฟื้น เขาก็รู้ครับ เขาฉลาด เวลาไปเยี่ยมเขาก็จะเรียกแม่ ไม่ตื่นสักที ด้วยความเป็นเด็ก แต่เขาไม่ถึงกับรู้ว่าขนาดไหนยังไง แต่รู้ว่าแม่ไม่ตื่นสักที แล้วใครจะพาหนูไปโรงเรียนเนี่ย (เราคิดว่าวิรับรู้ไหม เวลาลูกไปเยี่ยม?) ด้วยภาวะทางสมอง เขายังไม่รับรู้ครับ แต่เวลาจับตัวเขาจะมีขยับ แต่ในความเป็นแม่ น่าจะรับรู้ถึงลูก เราก็พยายามพาไปให้เจอเขาเจอแม่เขาบ้าง ไปให้กำลังใจ แม่ผม ส่วนคุณพ่อเขาก็ดูแลน้องเราเต็มที่ ดูแลลูก แล้วก็ช่วยงานเราด้วย”
ขอบคุณทุกกำลังใจ ฝากเอ็นดูหลานด้วย
“ก็ขอบคุณกำลังใจที่มอบให้กับบ้านเรา ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณแทนน้องวิด้วย แล้วก็ฝากน้องวาคินไว้ด้วย ให้เห็นเขาแล้วก็รู้สึกเมตตาเอ็นดู เหมือนที่รักวิครับ จะครบ 1 ปีที่นอนโรงพยาบาลแล้ว ก็อาจจะทำบุญให้น้องเราด้วย หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีครับ”